บท
ตั้งค่า

จูบอีกครั้ง 2

ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงโวยวาย หัวเราะ ก่นด่ากันมาจากด้านนอก แว่วๆ ว่ามีคนเล่นเกมแพ้

“โอ๊ย ไอ้พวกเวรเสียงดัง” ยัยนุ่นพึมพำงัวเงีย แล้วเปิดประตูโผล่หน้าออกไป

“พวกมึงเสียงดังเกิ๊น”

“เอ่อ มึงกับไอ้เก้าจะได้ตื่นไง นี่มันบ่ายสามครึ่งแล้วนะโว้ย ไปชายหาดกันเถอะ ถ้าใครจะเล่นน้ำก็เตรียมเสื้อผ้าไปด้วย เพราะจะนั่งชิลริมทะเลถึงค่ำเลยนะโว้ย” ไอ้ปีบอก

“เอ่อๆ” ยัยนุ่นปิดประตูห้อง

“แต่มึงกับไอ้เก้าไม่ต้องขนาดบิกินี่นะโว้ย กูขี้เกียจเป็นตากุ้งยิง” ไอ้ปีปากปีจอตะโกนไล่หลัง

“คนเยอะขนาดนี้ใครจะกล้าใส่บิกินี่วะ” ยัยนุ่นพึมพำ ขณะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเล็กอีกชุด

“มึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว” มันหันมาบอกฉัน ที่ยังง่วงๆ แต่ก็ต้องจำใจลุก

ฉันกับยัยนุ่นใส่ขาสั้นกับเสื้อยืดธรรมดา แค่นี้ก็เล่นน้ำได้สบาย เดินเล่นชายหาดแบบไม่ต้องกลัวโป๊ แค่ใส่บิกินี่แทนชุดชั้นในเท่านั้นเอง

พอถึงไปชายหาดเราก็ได้โต๊ะที่ต้องการ ห่างจากโต๊ะอื่นๆ อยู่มาก เพราะเกิดเสียงดัง ทั้งจากร้องเพลงเล่นกีตาร์ หรือพูดคุย โวยวายกันตามประสาเพื่อนจะได้ไม่รบกวนคนอื่น

หลังจากได้โต๊ะฉันกับนุ่นและไอ้ตรีก็เดินไปดูอาหารสดจากทะเล เราต่างเลือกสิ่งที่อยากกิน ทั้งหอย ปู กุ้ง และยำไข่แมงดา และอาหารตามสั่งอื่นๆ

“เฮ้ยๆ ไอ้ตรี มึงเพลาบ้าง สั่งเยอะไปมั้ย” ฉันเบรกมันไว้ เพราะสั่งเยอะเกินลิมิต

“ไม่เป็นไร ถ้ามันเกินคนละสามร้อยบาท กูจ่ายเอง” มันบอก เหมือนลืมไปแล้วมั้งว่าตัวเองไม่มีเงินจ่ายค่าหอ ถึงต้องระเห็จไปขอพักอยู่กับฉัน

จากนั้นมันก็หันไปสั่งของกินต่อ เท่านั้นยังไม่พอ มันก็ข้ามถนนไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อของกินเล่น รวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆ ด้วย สรุปของกินเต็มโต๊ะ จนแทบไม่มีใครเล่นน้ำทะเล เพลิดเพลินกับการกินอย่างเดียวเลยทีนี้

“ไอ้เก้า มึงไปตั้งกล้องถ่ายรูปกลุ่มหน่อยสิ” ไอ้พัทบอก แน่นอนในแก๊งเรา ฉันเป็นคนที่ถ่ายรูปดีที่สุด

ฉันจึงหยิบโทรศัพท์มือถือที่เน้นถ่ายรูปสวยไปวางบนขาตั้งกล้อง จัดมุมที่จะถ่ายคนทั้งกลุ่มได้อย่างสวยๆ

ขณะจัดมุมอยู่นั้น ไอ้ปีปากปีจอก็เอ่ยขึ้น

“ขาไอ้เก้ายาวไปถึงสุไหงโกลกเลยมั้งเนี่ย ส่วนขายัยนุ่นยาวนั้น...”

“แดกนี่เลยมึง” ไอ้ปียังพูดไม่จบประโยค ยัยนุ่นก็ยัดกุ้งเผาที่เพิ่งแกะเสร็จเข้าปากของมัน

เรื่องขาสั้นขายาวของฉันกับยัยนุ่น ไอ้ปีมันล้อทุกครั้งที่เห็นฉันกับยัยนุ่นใส่กางเกงขาสั้น

ฉันจึงไม่ได้สนใจคำพูดของมันมากนัก แต่รู้สึกแปลกๆ ยามที่ไอ้ตรีชำเลืองมองขาฉันแล้วมันยิ้มน้อยๆ ไม่รู้มันคิดอะไรอยู่ แต่ฉันดันเห็นภาพตัวเองในคืนนั้น ยามที่ฉันสองขารัดสะโพกของมันไว้แน่นตอนที่มันขยับสะโพกเข้าหาร่างฉันเป็นจังหวะ จังหวะที่ไม่ต่างจากคลื่นกระทบฝั่งในตอนนี้

“ยืนเหม่ออยู่นั่นแหละ จะได้ถ่ายรูปกันมั้ย” เสียงไอ้พัทดังขึ้น กระชากฉันออกจากมาจากภาพในคืนนั้น

“เออ ได้ถ่ายแน่” เมื่อได้มุมที่สามารถถ่ายได้ครบแก๊ง ฉันก็ตั้งเวลาถ่ายไว้ จากนั้นฉันก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง

ไม่กี่วินาทีต่อมาพวกเราก็ส่งยิ้มและส่งเสียงเฮ เพื่อจะได้ภาพที่บ่งบอกว่าวันนี้พวกเราได้ใช้เวลาร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางของตัวเอง

กิน ดื่ม พูดคุย ทะเลาะ และร้องรำทำเพลงไปตามเรื่อง กระทั่งถึงตอนที่ไอ้ตรีเล่นกีตาร์

สาวๆ ที่เพิ่งมานั่งโต๊ะข้างๆ มองมันพร้อมกระซิบกระซาบ แถมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปมันอีก

“โห ไอ้ตรี มึงนี่ไปที่ไหนก็กลายเป็นจุดเด่นตลอด แถมยังมาถอดเสื้อโชว์รอยสักรูปพี่สิงห์และซิกแพ็กอีก” ไอ้ปีบ่นอย่างไม่จริงจังนัก

“มึงนี่นะ ถึงไม่อยากเป็นดารา แต่ก็เหมือนดารา ไปที่ไหนก็เรียกสายตาสาวๆ ได้ตลอด”

ไอ้ปียังไม่หยุดบ่น ซึ่งมันเป็นเรื่องจริง ที่ไอ้ตรีมันเป็นคนดึงดูดสายตาของผู้หญิงหรือคนทั่วไปได้ดี เพราะหน้าตา บุคลิกที่โดดเด่นของมัน แต่มันก็เป็นคนแปลก พอมีคนชวนเข้าวงการมันกลับปฏิเสธ ด้วยเหตุผลอยากเป็นคนธรรมดา ไม่ได้อยากเป็นจุดสนใจของใคร

แม้เพื่อนๆ จะยุว่าเป็นดาราได้เงินเยอะ ถึงขั้นร่ำรวยถ้ามีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ มันก็ไม่สนใจ ทั้งที่ทุกวันนี้มันก็ร้องเพลงเล่นดนตรีในผับเพื่อหาเลี้ยงชีพ การได้เข้าวงการน่าจะดีกับอาชีพของมัน มันก็ไม่สนใจอีก

ดูมันเป็นคนไม่กระตือรือร้นกับเรื่องพวกนี้ ทั้งที่ไม่มีเงินแม้แต่จะจ่ายค่าหอด้วยซ้ำ แต่...ดันมีเงินซื้อของกินมาเต็มโต๊ะ ไหนจะเบียร์กระป๋องตั้งหลายแพ็ก

มันชักจะยังไงอยู่นะ

เราออกไปถ่ายรูปกับคลื่นและชายหาด จากนั้นก็อัปภาพลงโซเซียลฯ ต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แต่ไม่วายมีคนบ่น คนที่ทำหน้าที่แท็กเพื่อนๆ นั่นแหละ

“แท็กทุกคนแล้วนะ ยกเว้นไอ้คนไม่เล่นโซเชียลฯ ทั้งหลายแหล่” แล้วมันไปมองไอ้ตรีอย่างหมั่นไส้

“ถ้ากูหล่อเท่ามันนะ จะโพสรูปวันละร้อยรูป จะเป็นยูทูบเบอร์ จะได้มีช่องทางหาเงิน” ไอ้ปีไม่วายบ่น คงเพราะเสียดายความหล่อ เท่ของเพื่อนที่ไม่เคยใช้ประโยชน์จากความหน้าตาดีของตัวเอง นอกจากโปรยเสน่ห์ใส่สาวๆ ไปวันๆ

“บ่นแต่เรื่องเดิมๆ มึงไม่เหนื่อยหรือไงวะ” ไอ้ตรีพูดเสียงเนือยๆ เหมือนเบื่อหน่าย เพราะได้ยินไอ้ปีบ่นทำนองนี้มานานแล้ว ตอนแรกทุกคนก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา แต่คบกันไปนานๆ ก็รู้นิสัยมันที่ไม่ชอบสุงสิงกับผู้คนมากมาย นอกจากกลุ่มเพื่อนสนิท แต่บางครั้งฉันก็สงสัย เพราะตอนเรียนมอต้น ไอ้ตรีมันก็เคยเล่น

เฟซบุ๊ก ปิดบัญชีไปตอนที่มันกลับไปกรุงเทพฯ นั่นอีกเหตุผลที่ฉันกับมันติดต่อกันลำบากในช่วงเวลานั้น เพราะฉันไม่ได้มีเงินมากพอจะโทร. หามันบ่อยๆ

เมื่อเวลาสองทุ่มกว่า คนบนชายหาดแทบไม่มี พวกเราก็เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน มีแต่เสียงหัวเราะ หยอกเย้า กลั่นแกล้ง ด่ากันขำๆ ทุกอย่างคือความสุข ที่ฉันคิดว่าจะเป็นความทรงจำที่งดงามของชาวแก๊งตลอดไป

หลังจากนั้นเราทั้งหมดก็กลับที่พัก หอบหิ้วของกินที่เหลืออีกเยอะ รวมทั้งเครื่องดื่มกลับไปด้วย พร้อมตั้งวงไปจนหลับนั่นแหละ

เมื่ออาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อย เราก็มารวมตัวกันในห้องโถงของบ้านพักทันที อาหารบางอย่างเย็นแล้วก็จัดการอุ่น

เพราะกลับมาถึงบ้านพักแล้ว ฉันเลยกินเบียร์แบบไม่ต้องห่วงเมาเหมือนตอนอยู่ที่ชายหาด รวมทั้งเพื่อนคนอื่นๆ ด้วย ดูเหมือนไอ้ปีจะเมาก่อนเป็นคนแรก เพราะจู่ๆ มันก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนเพื่อนๆ ตกใจ มันไม่เคยเมาแล้วร้องไห้มาก่อน มีแต่เมาแล้วร้องเพลงไม่หยุดหรือไม่ก็หลับน็อกคาแก้วเบียร์

“มึงเป็นบ้าอะไรอยู่ๆ ก็ร้องไห้” ไอ้พัทถามพร้อมกับกอดคอ บีบบ่ามันอย่างปลอบๆ

“น้องวิว...บอกเลิกกูก่อนเดินทางมาที่นี่”

“อ้าว ทำไมมึงเพิ่งมาบอก” ยัยนุ่นเอ่ยขึ้น

“ก็กูไม่อยากให้พวกมึงมาเครียดกับกูไง ฮือๆ แต่ตอนนี้กูไม่ไหวแล้ว กูผิดด้วยเหรอที่จน”

“อะไรของมึง”

“ก็น้องเขาอยากไปเที่ยวเกาหลี กูไม่มีเงินพาไปไง แล้วเขาก็บอกเลิกกูเฉยเลย แล้วก็ไปเที่ยวเกาหลีกับผู้ชายคนใหม่ที่หล่อสู้กูไม่ได้ ฟรวยก็น่าจะเล็กกว่า แต่เขามีเงินมากกว่าไง ฮือๆ”

ไอ้คนหล่อ ฟรวยใหญ่ แต่ดันจน ปล่อยโฮออกมาลั่นเลยงานนี้

“ช่างแม่งสิวะ มึงทั้งหล่อ ฟรวยก็ใหญ่ ไม่นานมึงก็หาแฟนใหม่ได้”

“หามาได้ก็ทิ้งกูอีกแหละ ทำไมพวกผู้หญิงถึงเห็นแก่เงินจัง”

“อ้าว ไอ้นี่” ฉันกับยัยนุ่นอุทานออกมาพร้อมๆ กัน

“ก็มึงโง่ไง แทนที่จะหาผู้หญิงที่เขาไม่ได้เห็นแก่เงิน มองแต่ความรักเป็นหลักน่ะ มึงก็มองหาสิ!” ยัยนุ่นแว้ดใส่ไอ้ปี พร้อมทั้งเบิ๊กกะโหลกมันไปหนึ่งที

“กูจะหาเจอมั้ยล่ะ ฮือๆ”

“พอแล้วนุ่นอย่าด่ามันมาก” ฉันปราม แล้วเปิดเบียร์กระป๋องใหม่ให้มัน จะได้เมาหลับไปเลย ไม่อยากให้มันร้องไห้ ฟังแล้วปวดใจ เพราะปกติไอ้ปีมันเป็นคนที่ทะเล้น ช่างพูดและร่าเริงที่สุดในกลุ่ม

“คอยดูนะ ต่อไปนี้กูจะไม่รักใครทั้งนั้น นอกจากพวกมึง”

“อือๆ กินไป” ไอ้พัทยกมือของมันที่ถือกระป๋องเบียร์เปิดใหม่จ่อปากมันทันที

ไอ้ปีกินเบียร์ไปสลับร้องไห้อยู่พักใหญ่ ก่อนจะหลับน็อกบนโซฟา

“พามันไปนอกในห้องก่อนมั้ย” ฉันบอกเพื่อน

ไอ้ตรีกับไอ้พัทจึงพยุงมันไปยังห้องนอน แล้วทั้งสองก็กลับมาร่วมวงกันตามเดิม

“สงสารมันเหมือนกันนะ อุตส่าห์มาเที่ยว ดันมีเรื่องให้เศร้าใจอีก” ยัยนุ่นพึมพำ

“ช่างเถอะ อกหักเป็นเรื่องธรรมดาว่ะ และที่ผ่านมาก็ใช่ว่ามันจะเพิ่งอกหักครั้งแรก

“เออ จริง นี่ตั้งแต่เรียนปีหนึ่งยันเรียนจบ มันอกหักทุกปีเลยนะโว้ย”

“แถมอกหักแล้วก็ไม่เคยว่างได้เกินสองเดือน มีแฟนใหม่ตลอด”

“ก็อย่างที่รู้ มันหล่อ และฟรวยใหญ่ไง ฮ่าๆ” ไอ้พัทพูดจบก็หัวเราะร่วน ทำให้ยัยนุ่นฟาดฝ่ามือไปที่ไหล่มันเต็มแรง

“มึงหยุดพูดเลย ไอ้ปีแม่ง เมาแล้วก็พูดเพ้อเจ้อจริงๆ”

“ใช่ คนที่หล่อและฟรวยใหญ่ของจริง มันยังไม่ขิงใครเลย” ไอ้พัทว่าแล้วปรายตาไปยังไอ้ตรี ที่นั่งดื่มเงียบๆ มานาน

“อย่ามาพาดพิงกูโว้ย” ไอ้ตรีตอบสั้นๆ แล้วยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม จังหวะนั้นฉันคิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้ มันปรายตามาทางฉันนิดๆ และมันส่งผลให้แก้มฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที

::::::::::::::::

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel