ตอนที่ 4
ที่พี่ว่า ลิลล์จะโทรมาหาสวรรค์วิมานหรือไงคะ… ถ้าไม่ใช่เพราะห่วงยัยอัยย์”
ลินดายอกย้อนให้สามีเก่าได้ฉุกคิด หลังจากหล่อนตัดสินใจโทรไปเล่าให้ฟัง ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนเสี่ยอดุลย์ผัวใหม่ของหล่อนเริ่มคิดไม่ซื่อกับอัยยา หัวงูที่ซ่อนเอาไว้ตอนนี้เริ่มเก็บไม่มิด
“ถ้าเป็นแบบนี้พี่จะไม่ปล่อยลูกไว้กับลิลล์… ไม่งั้นเสร็จไอ้เสี่ยหื่นแน่ๆ… พูดแล้วอยากฟาดปากมันสักหมัด”
เขตต์ยังใจร้อนไม่เปลี่ยน เมื่อ
“แล้วพี่เขตต์จะให้ลิลล์ทำยังไงคะ… ตอนนี้ลูกเพิ่งสอบเข้ามหาลัยได้ค่ะที่เชียงใหม่ด้วยสิคะ ถ้าจะให้ลูกไปอยู่หอคนเดียวลำพังลิลล์ก็อดห่วงไม่ได้ กำลังคิดว่าจะให้ลูกเปลี่ยนใจมาเรียนมหาลัยเปิดที่กรุงเทพฯ ดีกว่า พี่เขตต์คิดว่าไง ยัยอัยย์จะได้ไม่ต้องไปอยู่ไกล”
ลินดาออกความเห็น เล่าเรื่องลูกสาวให้อดีตสามีได้ฟัง ตอนนี้อัยยาเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมปลายหมาดๆ และโชคดีสอบเข้าเรียนต่อได้ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
“เอางี้… พี่จะให้ลูกสาวเราไปอยู่กับเพื่อนพี่ที่เชียงใหม่… ไม่ต้องบอกชื่อลิลล์ก็คงรู้สินะ… ว่าเพื่อนคนนี้คือใคร?”
ระหว่างเขตต์กับลินดาและเพื่อนที่ถูกเอ่ยถึงคนนี้ เคยมีอดีตเกี่ยวพันเป็น ‘รักสามเส้า’ กันมาก่อน
“รู้ค่ะ… คงเป็นพี่ ‘ภู’ สินะ… ”
ลินดาเอ่ยชื่อเพื่อนรักของอดีตสามีออกมา ผู้ชายที่หล่อนไม่เคยลืม ชื่อเต็มคือ ‘ภูผา’
ลินดารู้จักผู้ชายคนนี้เป็นอย่างดี ตอนนี้ภูผาเป็นเจ้าของไร่กาแฟอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่
“ใช่… เดี๋ยวพี่จะฝากลูกสาวเราไปอยู่กับไอ้ภูให้มันช่วยดูแล… ”
เขตต์สรุป คุยกันต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ ก็กดวางสายจากเมียเก่าแล้วโทรหาเพื่อนเก่าที่อยู่เชียงใหม่ในทันที
อีกสัปดาห์ต่อมา ที่เชียงใหม่
หลังจากรถฮอนด้าซีอาร์วีสีขาวที่มีหญิงสาวต่างวัยสองคนนั่งเคียงข้างกันมา แล่นเข้ามาจอดภายในอาณาบริเวณไร่กาแฟของ ‘ภูผา’ หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบห้า เจ้าของไร่กาแฟและรีสอร์ตหลายหลังทอดยาวขนานไปกับชายฝั่งแม่น้ำและทิวเขาติดกับไร่กาแฟเนื้อที่เกือบพันไร่
เมื่อเจอหน้ากัน… ภูผาเชิญผู้หญิงสองคนเข้ามานั่งคุยกันในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่
“สวัสดีลุงภูผาสิจ๊ะยัยอัยย์… ”
ลินดาหันมากล่าวกับลูกสาวของตน แวบหนึ่งแอบเห็นเจ้าของไร่กาแฟตะลึงมองในความงามของลูกสาวหล่อน
“สวัสดีค่ะลุงภูผา… ”
มือเรียวกระพุ่มไหว้อ่อนช้อย
“สวัสดีจ้ะ… เรียกลุงภูสั้นๆ ก็ได้”
ภูผากล่าว สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสะสวยของหญิงสาวได้ลินดาผู้เป็นแม่มาเต็มๆ ผิวพรรณของหล่อนขาวเนียนสะดุดตา ใบหน้ารูปไข่ ตาคมสุกใสเหมือนดวงดาว ขนตางอนยาว ปากบางนั้นช่างเซ็กซี่ จมูกโด่งเป็นสันสวย ผมสีดำสลวยราวกับแพรไหมยาวลงมาถึงกลางหลัง สาวน้อยคนนี้สวยมากจนภูผามองแล้วมองอีก
“เป็นอะไรคะภู… ตะลึงเชียวนะคะ”
ลินดารู้ทัน ว่าภูผาที่ภายนอกดูสุขุมนุ่มลึกเหมือนผู้ใหญ่ใจดี แต่พออยู่ในที่ลับตาสองต่อสองเขาร้อนแรงเหมือนไฟ
“ก็ไม่ได้เจอกันนาน… ไม่คิดว่าหนูอัยย์ที่เคยเห็นตั้งแต่เล็กๆ วันนี้จะโตเป็นสาวขนาดนี้… ”
ภูผากล่าวชม…
สะดุดตากับเรือนร่างสุดเซ็กซี่ ทรวงอกคัพอีอวบใหญ่ของหล่อนเบียดกันแน่นอยู่ภายใต้เสื้อยืดบางๆ ที่โอบอุ้มปทุมงามไว้อย่างน่าอึดอัด เอวคอด สะโพกผายรับกับช่วงขาเรียวยาว ทรวดทรงของสาวน้อยคนนี้ราวกับหลุดมาจากหนังเอวีญี่ปุ่น
ก็ใครจะคิดว่าผู้ชายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะจนวัยใกล้แตะเลขห้าอย่างภูผา… จะเกิดอาการหวั่นไหว หัวใจกระตุกวูบ ใจเต้นแรงขึ้นมาในทันทีที่ได้สบตาสาวน้อยแสนสวยคนนี้
“ระหว่างนี้หนูต้องอยู่กับลุงภูผานะจ๊ะ… ถ้ามีเวลาแม่จะขึ้นมาเยี่ยม”
หลังจากคุยกับเจ้าของไร่กาแฟอยู่พักใหญ่ๆ ลินดายกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวคนเดียวของหล่อน ในวันที่ตัดสินใจแล้วว่าจะให้อัยยามาอาศัยอยู่กับเพื่อนของอดีตสามี
“ค่ะแม่… ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะไม่ทำให้ลุงภูต้องเหนื่อยหรอกค่ะ”
หญิงสาวมองหน้ามารดาตาละห้อย พยายามข่มน้ำตาที่เอ่อคลอใกล้จะไหล
“แม่รู้จ้ะ… ”
ลินดาเป็นฝ่ายน้ำตาหยดออกมาในที่สุด อดไม่ได้ที่จะโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้ต้องแยกกันอยู่กับลูกสาว ด้วยเป็นเพราะว่าหล่อนตัดสินใจย้ายมาอยู่กับเสี่ยอดุลย์ผัวใหม่จนเกิดเรื่องกับอัยยา
“แล้ว… หนูจะต้องอยู่ที่นี่ไปนานแค่ไหนคะแม่”
ทั้งที่เพิ่งรับปากว่าอยู่ได้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“ก็น่าจะหลายเดือน… แม่ขอจัดการธุระทางโน้นให้ลงตัวก่อนนะจ๊ะ… ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแม่จะมารับลูกกลับไปอยู่ด้วยทันที หนูอยู่กับลุงภูไปก่อนนะ ยังไงเราต้องได้อยู่ด้วยกันอีกอย่างแน่นอน”
ลินดายังไม่กล้ารับปากเรื่องเวลา ไม่ใช่ไม่รักลูกสาวคนนี้ เพราะว่าตอนนี้ตัวหล่อนเองก็ยังไม่แน่ใจนัก… กับอนาคตที่ยังดูคลุมเครือไม่แน่นอน
แม้วันนี้ว่าลินดาจะได้สามีใหม่เป็นนักธุรกิจร่ำรวยอย่างเสี่ยอดุลย์ แต่นั่นก็ยังไม่อาจทำให้มั่นใจได้ว่าเส้นทางใหม่ของหล่อนจะราบรื่นดังที่ใจวาดหวัง