4
ฉันเห็นแม่หน้าแดงเพราะอายคำพูดของพ่อก็อดขำไม่ได้พ่อกับแม่ของฉันถึงจะอายุเลยเลขสี่มาหลายปีแต่ก็ยังมีหยอดมีหยอกกันเป็นประจำ เรื่องอยากมีลูกชายไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินพ่อกับแม่พูดแต่แม่ของฉันท่านร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงหากท้องอีกอาจจะเป็นอันตรายเพราะเหตุนี้พ่อกับแม่ก็เลยมีฉันแค่คนเดียว อยากจะอยากจะว่าแม่ของฉันรักและเอ็นดูไอ้ซันมาตั้งแต่มันเกิดเลยมั้งแม่ไม่เคยว่าอะไรมันเลยผิดกับฉันที่เป็นลูกแท้ๆขนาดมันแกล้งฉันแม่ยังเข้าข้างมันเลย แถมแม่ยังเคยแอบพูดกับฉันโดยไม่ให้พ่อได้ยินว่าอยากได้มันมาเป็นลูกชายแต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะมันก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่แต่ถ้าได้มันมาเป็นลูกเขยแม่ก็ไม่ขัด ทำให้ฉันอดเขินไม่ได้เพราะเอาจริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้คิดกับมันแค่เพื่อนหรอกนะฉันรู้สึกกับมันมากกว่าเพื่อนมานานแล้ว ก็คงจะตั้งแต่คราวนั้นตั้งแต่วันที่มันกระโดดน้ำลงไปช่วยฉันตอนเข้าค่ายป.สามจนถึงตอนนี้เราอยู่มอสี่จะขึ้นมอห้ากันแล้วคิดดูว่าฉันแอบชอบมันมาตั้งกี่ปี
จะว่าฉันแก่แดดก็ได้นะที่แอบชอบมันตั้งแต่ยังเด็กแต่ฉันก็ไม่เคยบอกหรือทำอะไรให้มันรู้หรอกว่าฉันรู้สึกกับมันยังไงทำได้แค่เก็บอาการเอาไว้เพราะรอบตัวมันมีผู้หญิงสวยๆเข้าหาแทบจะตลอดเวลาไม่ว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องหรือเพื่อนร่วมชั้น วันวาเลนไทน์ทีฉันเห็นมันได้ดอกไม่เยอะกว่าใครในโรงเรียนอีกเพราะมันน่ะทั้งหล่อทั้งรวยแถมยังเป็นนักร้องนำประจำโรงเรียนอีก ขึ้นเวทีร้องเพลงทีไรสาวๆแห่ไปกรี๊ดกันเต็มหน้าเวทีราวกับว่ามันเป็นไอดอลเกาหลี มันโปรไฟล์ดีขนาดนี้ไม่มีสาวชอบก็คงจะแปลก ส่วนไอ้พอสมันก็หล่อพอๆกับไอ้ซันนั่นแล่ะแต่ในสายตาของฉันมันอาจจะหล่อน้อยกว่าไอ้ซันหน่อยนึง ไอ้พอสมันเป็นพวกไม่ค่อยสนใจอะไรใครพอมีสาวๆเข้าหามันก็ทำเฉยทำนิ่งใส่จนผู้หญิงไม่กล้าทักผิดกับไอ้ซันราวสวรรค์กับนรก
ฉันเดินเข้ามาในบ้านของมันซึ่งตอนนี้เพิ่งจะสองทุ่มแต่ทำไมมันเงียบจนผิดสังเกตเหมือนไม่มีใครอยู่พอมองไปรอบๆยิ่งน่ากลัวเพราะไฟถูกเปิดแค่ไม่กี่ดวง จนกระทั่งสายตาของฉันไปสะดุดเข้ากับรูปบรรพบุรุษของไอ้ซันที่ถูกแขวนเรียงรายตรงทางเดินขึ้นบันได แต่ละรูปเหมือนกับว่าท่านกำลังจ้องมองมาที่ฉันแล้วยิ้มให้จนฉันรู้สึกกลัวฉันก็เลยรีบหอบหนังสือวิ่งขึ้นไปหาไอ้ซันที่ห้องซึ่งอยู่บนชั้นสามของบ้าน
ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าห้องมันแล้วด้วยอาการเหนื่อยหอบเพราะกว่าจะเดินขึ้นบันไดมาถึงชั้นสามขาฉันสั่นไปหมดไม่รู้มันจะมาอยู่อะไรตั้งชั้นสามมันไม่เหนื่อยบ้างเหรอเวลาเดินขึ้นเดินลงทุกวัน แต่พอมาคิดดูคงไม่เหนื่อยหรอกมั้งเพราะทั้งชั้นก็เป็นอาณาจักรของมันคนเดียวทั้งชั้นเลยไม่ต้องไปไหนก็มีทุกอย่างไม่ว่าห้องดูหนัง ห้องซ้อมดนตรี เคาท์เตอร์บาร์และมีตู้เย็นขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีทั้งเครื่องดื่มทั้งของกินมากมายให้เลือกยิ่งกว่าเซเว่นที่ฉันรู้เพราะเคยมากับไอ้พอสบ่อยๆเวลามาทำรายงานหรือมาอ่านหนังสือช่วงใกล้สอบคือเราสามคนไม่ต้องลงไปหาอะไรกินข้างล่างเลยเพราะข้างบนมันมีทุกอย่างอยู่แล้วนอกจากอาหารที่ถ้าเวลามันหิวมันก็จะโทรลงไปสั่งให้คนรับใช้เอาขี้นมาเสริฟ์ ชีวิตสุขสบายของมันบางครั้งฉันก็อิจฉาเหมือนกัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก พอฉันหายเหนื่อยฉันก็เคาะประตูห้องมัน
"เข้ามา!!!"