แฟนใหม่ของแม่
หลายวันผ่านไปหญิงสาวขับรถกลับบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว เธอไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนมารดาถึงจะหยุดหลงเดินทางผิดสักที ที่สำคัญพอเธอขับรถแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้าน ตรงลานจอดรถนั้น ในเวลานี้ได้มีรถของใครบางคนมาจอดแทนที่เธอก่อนหน้าแล้ว
ยูจินค่อยๆ หลับตาแล้วถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ เพื่อระงับความโกรธที่กำลังจะพุ่งปรี๊ดออกมา เมื่อรู้ว่ามารดาพาชายหนุ่มรุ่นน้องเข้าบ้าน ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
“อ้าว! มาแล้วเหรอยูจิน นี่คุณภูริเขาจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ หวังว่าลูกจินคงไม่ติดขัดอะไรหรอกนะ” เธอไม่รู้ว่ามารดาต้องการคำตอบแบบไหน ความเห็นอกเห็นใจ หรือถ้อยคำตรงไปตรงมา
“จินคงไม่มีสิทธิ์ห้ามแม่ไม่ให้พาใครเข้าบ้านได้หรอกค่ะ ถึงแม้จินจะรับไม่ได้ แม่คงไม่แคร์ใช่ไหมคะ” ในที่สุดเธอก็เหลือทน เอ่ยสวนกลับออกไปด้วยประโยคที่ทำให้มารดาของเธอไม่พอใจอย่างมาก
“แกก็เหมือนพ่อของแกนั่นแหละ ทำไมทนเห็นฉันมีความสุขไม่ได้หรือไง ทนไม่ได้ก็ออกไป”
“แม่!” หญิงสาวรู้สึกจุกในอก เมื่อมารดาผู้ให้กำเนิด เห็นผู้ชายอื่นดีกว่าลูกในไส้เสียอีก
“พี่ครับใจเย็นก่อน ถ้าลูกสาวคุณพี่ไม่ชอบหน้าผม ผมยินดีออกไปจากบ้านนี้ เอาไว้ให้เธอใจเย็นก่อนแล้วผมจะมาหาคุณพี่ใหม่ ผมสัญญาว่าจะไม่ไปไหน ที่สำคัญผมจะไม่มีใคร คุณพี่อย่าโกรธเธอเลยนะครับ ผมอยู่ที่ไหนก็ได้” คราวนี้ภูริเริ่มเปิดฉากพูดจาให้ดูน่าสงสาร ขณะที่สายตาคมชำเลืองมองมาที่ยูจินด้วยความเจ้าเล่ห์
“คุณภูหยุดก่อนค่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าจะพาคุณมาอยู่ที่นี่ ใครหน้าไหนก็ขวางไม่ได้ทั้งนั้น”
“เชิญคุณแม่ตามสบายเลยนะคะ จินจะย้ายออกไปเอง” พูดจบยูจินก็เดินออกไปจากบ้าน แต่ทว่ามารดาของเธอกลับไม่แยแส คุณนายศจีหันกลับมาสนใจภูริมากกว่าลูกสาวที่กำลังขับรถออกไปจากบ้าน
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก เดี๋ยวยัยจินก็กลับ จะไปไหนได้นอกจากร้านเล็กๆ ไม่รู้จะเจ๊งวันไหนก็ไม่รู้ บอกให้หางานอื่นทำก็ไม่ฟังบ้างเลย” ถ้ายูจินได้ยินประโยคนี้จากมารดาเธอคงช้ำใจหนักยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า แม่ที่ไม่เคยสนับสนุนความฝันของลูก เอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง หวังแค่ผลาญเงินลูกสาวไปวันๆ
แม่แบบนี้ยังมีอยู่แทบทุกมุมโลก อยู่ที่ว่าใครจะมีจิตสำนึกได้กว่ากัน สักวันคุณนายศจีคงเข้าใจ ลูกไม่ใช่วัตถุหรือกระโถนรองรับอารมณ์ เธอไม่ใช่ธนาคารส่วนตัว ยูจินต้องทำงานเธอผลิตเงินเองไม่ได้ ลูกคือความภาคภูมิใจของบิดามารดา ไม่ใช่ในนิยามของคุณนายศจี ที่มองว่าลูกควรเป็นผู้ให้ให้ หลังจากจากที่ยูจินเคยเป็นผู้รับมานานหลายปี
“ใจเย็นๆ สิครับคุณพี่ ผมว่าเราไปหาอะไรดื่มกันดีกว่าไหม”
“ว่าแต่ภูอยากไปไหนล่ะ”
“ผมตามใจพี่ครับ จุ๊บ!”
“แหม... แบบนี้จะไม่ให้พี่รักพี่หลงได้ยังไง” เมื่อถูกชายหนุ่มเอาใจ มีหรือหญิงวัยกลางคนจะไม่หวั่นไหว ความดุดันของภูริยิ่งทำให้หัวใจของคุณนายศจีเต้นแรง
ซึ่งเขามักทำให้เรื่องบนเตียงกลายเป็นความร้อนแรง ใช่ว่านางจะไม่สวย คุณนายศจีอายุห้าสิบกว่าแต่ก็ยังดูสวย รูปร่างของนางดูเซ็กซี่กว่าผู้หญิงในวัยเดียวกัน ทำเอาภูริชอบทั้งการมีเซ็กซ์และเงินของนาง ที่ปรนเปรอเขาได้อย่างไม่เกรงใจลูกสาวแม้แต่น้อย
เมื่อยูจินขับรถออกมาจากบ้านไกลพอสมควร หญิงสาวยังคงไม่รู้จุดหมายปลายทาง กอหญ้าก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัด จึงทำให้เธอไม่รู้จะไปพึ่งใครดี ครั้นจะโทรไประบายกับเพื่อนรักก็เกรงใจ ทุกวันนี้กอหญ้าก็แทบจะกลายเป็นที่รองรับความทุกข์ใจของเธออยู่แล้ว ยูจินจึงตัดสินใจมาที่นี่ เพื่อหลบพายุที่กำลังโหมกระหน่ำถาโถมเข้ามาในชีวิตของเธอ
“นั่นมันคุณยูจินนี่ ปกติแล้วเธอไม่ชอบที่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมวันนี้ถึงได้มานั่งดื่มคนเดียวได้” นั่นคือเสียงของวิทยา ซึ่งเขาเป็นเพื่อนสนิทของมารุต ชายหนุ่มรู้จักยูจิน เพราะเมื่อก่อนเธอเคยมาที่บ้านของมารุตหลายครั้ง
เนื่องจากว่าบิดาของเธอนั้น เป็นที่นับหน้าถือตาและเป็นที่รู้จักของคนมีระดับ บวกกับที่มารดาของมารุตเชียร์ให้ลูกชายคบกับเธอ แต่สุดท้ายต่างคนต่างก็ค่อยๆ หายไปจากวงจรของชีวิตกันและกัน ทั้งที่ยังไม่เริ่มต้นสานสัมพันธ์ด้วยซ้ำ ตั้งแต่บิดาของยูจินเสียชีวิตลงไป เธอก็ไม่ได้ไปที่บ้านหลังนั้นอีก ที่สำคัญมารุตมีลาเบลอยู่เต็มหัวใจอยู่แล้วทั้งคน
“ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ เปลี่ยนใจได้ไวเหมือนกิ้งก่า”
“อะไรวะ” วิทยาถึงกับส่ายหัว เพราะเขาไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านความรักกับเพื่อนได้ ตั้งแต่มารุตรู้ว่าลาเบลแอบคบกับพระเอกหน้าใหม่ของวงการ จึงทำให้เขาเริ่มไม่ศรัทธาในรักแท้ แต่กลับยังติดต่อหล่อนไม่เลิกรา ถึงแม้ว่าความรู้สึกที่เคยมีให้ลาเบลอาจไม่เหมือนเดิม แต่ความปรารถนาดีก็ไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อย
“แต่ฉันชอบคุณหนูยูจินนะ เธอดูไม่มีพิษมีภัยกับใครดี”
“หึ! นายก็มองโลกในแง่บวกเกินไป ผู้หญิงคนนั้นอาจดูใสซื่อความจริงแล้วหล่อนอาจซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ก็ได้ ใครจะไปรู้”
“เฮ้ย! นายเองก็มองเธอในด้านลบจนเกินไป”
“นายเพื่อนฉันนะวิทยา ทำไมชอบเข้าข้างยัยนั่นจัง”
“ฉันก็พูดไปตามเนื้อผ้า เฮ้ยไอ้รุต! นั่นคุณนายศจีนี่ แล้วเธอมากับใคร ดูคล้ายๆ ไอ้ภูริเลยนะนั่น” เมื่อวิทยาเอ่ยถึงชื่อภูริ ทำให้มารุตหันไปมองทันที เพราะเขาไม่คิดว่าคุณนายศจีคิดที่จะเลี้ยงชายหนุ่มจากบาร์โฮส
“ว่าแล้วเชียว ไม่แปลกใจที่ยัยนั่นมานั่งดื่มคนเดียวแบบนี้ ที่แท้ก็ประชดแม่นี่เอง”
คำพูดของมารุต ทำเอาวิทยาถึงกับส่ายหน้า เขาไม่คิดว่าเพื่อนรักจะแล้งน้ำใจ นอกจากจะไม่เข้าไปทักหญิงสาวแล้ว เขายังทำตัวเย็นชาราวกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน จากนั้นคนทั้งคู่ก็นั่งดื่มต่อ แต่ทว่าต่างคนต่างก็กำลังแอบมองไปที่ยูจิน
“ไหนบอกว่าไม่สนเธอไง ฉันเห็นนะว่านายแอบปรายหางตามองยูจิน” วิทยาพูดแซวมารุต
“ใครบอกว่าฉันสนใจหล่อน แค่สมเพชเด็กไม่รู้จักโต จะมีอะไรก็แค่ชอบทำตัวเรียกร้องความสนใจ”
“คุณพี่นั่นใช่ลูกสาวคุณพี่หรือเปล่าครับ” หลังจากนั่งดื่มไปได้สักพัก ภูริเริ่มแน่ใจว่าหญิงสาวโต๊ะถัดไปไม่ไกลคือยูจิน
“คงมากับกอหญ้า ช่างเถอะพี่ยังไม่อยากทะเลาะให้เสียบรรยากาศ เรามาชนแก้วกันดีกว่า”
“แด่ที่รักของผม” ถ้อยคำแสนหวานจากผู้ชายอย่างภูริ ทำเอาคนฟังยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง ขณะที่ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่ม พลางปรายหางตามองไปที่ยูริอย่างมีเลศนัยไม่น่าไว้วางใจ
สงสัยเขาคงคิดว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อย เจอเสน่ห์ผู้ชายอย่างเขาเข้าไป จะต้องหลงใหลเสร็จเรียบทุกราย เหมือนกับที่คุณนายศจีกำลังตกอยู่ในภาวะของความลุ่มหลง จนลืมไปว่าสัจธรรมของชีวิตนั้นเป็นเช่นไร ไม่สนแม้แต่ความรู้สึกของลูกในไส้ ทั้งที่ยูจินคือลูกสาวผู้มีแต่ให้ ไม่เคยเอ่ยปากขออะไรจากมารดาเลย นอกจากความสงบสุขในชีวิต
แต่ทว่าคุณนายศจีกำลังจะนำพาหายนะมาสู่ลูกสาว ที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อหาเงินมาให้มารดาเล่นพนันและปรนเปรอผู้ชาย
“พี่ครับผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ”
“ได้สิจ๊ะ”
“จุ๊บ! แล้วผมจะรีบกลับ” ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นรักคุณนายศจีปานจะกลืนกิน แต่ความจริงแล้วเขาเห็นยูจินเดินไปห้องน้ำ และนั่นคือเป้าหมายของภูริ
หญิงสาวรูปร่างเล็กเดินซัดเดินเซเข้าไปในห้องน้ำ เพราะเธอเผลอดื่มเข้าไปหลายแก้ว สาเหคุมาจากความรู้สึกเสียใจเข้าขั้นวิกฤต เธอไม่คิดว่ามารดาจะเห็นผู้ชายดีกว่าลูกแท้ๆ หญิงสาวที่เคยเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของบิดามารดา ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด หลังจากท่านผู้พันจากไป เธอกลายเป็นเสาร์หลักที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น