บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

ลลินนั่งมองเอกสารในมืออยู่นานก่อนจะเก็บพับเข้าที่เดิม วันนี้เธอมีนัดกับสองสามีภรรยาคู่นั้นเพื่อเข้าไปดูสถานที่จริงสำหรับเปิดร้านของเธอภายในห้างหรูที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“คุณหนูครับ ไปเลยไหมครับ”

“ได้เวลาแล้วเหรอ”

“ครับ”

“อืม ไปเลยก็ได้”

คนสวยลุกขึ้นยืนสง่างาม วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสรัดรูปสีพีชขับผิวขาวผ่อง คลุมด้วยสูทสีขาวที่ไหล่ ใบหน้าแต่งแต้มบางเบาสวยหวานไปอีกแบบ แต่ก็ยังสะดุดตาอยู่ดี

“เชิญครับ” สมิธคอยดูแลลินอย่างดี เขาเปิดประตูให้ลูกสาวเจ้านายแล้วเข้าไปนั่งข้างคนขับ

รถยนต์ส่วนตัวแล่นด้วยความเร็วคงที่ไปยังที่หมายซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก ระหว่างนั้นลลินก็เปิดข่าวอ่านไปด้วย

“เอ๊ะ!” ข่าวสังคมที่กำลังอ่านทำเอาอ้าปากหวอ เมื่อภาพของชายที่คุ้นเคยปรากฏหราบนหน้าจอ

“อะไรเหรอครับคุณหนู” บอดี้การ์ดหนุ่มร้องถามด้วยความสงสัย

“สมิธ นายดูนี่” ลลินยื่นไอแพดให้กับสมิธได้ดูด้วยกัน

“คุณกร”

“ใช่ เขากลับมาไทยเหรอ”

“ผมเช็คให้นะครับ” ไอแพดถูกส่งคืนเจ้าของ

ลลินมุ่นคิ้ว ไม่คิดว่าจะกลับมาแล้วเจอโจทย์ที่นี่ เขาคนนั้นไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้นี่นา ก็ไหนว่าต้องเรียนอีกปีไม่ใช่เหรอ

“คุณกรกลับมาช่วยที่บ้านทำงานครับ เห็นว่าตอนนี้กำลังมีโครงการคอนโดมิเนียมติดแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยครับ”

“อืม ฉันเห็นแล้ว” ในข่าวบอกไว้แบบนั้นจริงๆ

“คุณหนูกลัวจะเจอคุณกรเหรอครับ”

“ไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากเจอตอนนี้”

“คุณหนูไม่อยากให้คุณกรรู้ว่าคุณหนูมาไทยเหรอครับ”

“ใครจะอยากให้รู้ นายก็รู้ว่าฉันบอกเลิกเขาเพื่อจะมาไทย ถ้าเขารู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ นายคิดว่าคนอย่างเขาจะไม่ขัดขวางสิ่งที่ฉันจะทำเหรอ อีกอย่าง เขาเป็นพี่ชายของกรเกตนะ”

ใช่ เธอรู้เรื่องนี้ดี นั่นเป็นสาเหตุที่เธอบอกเลิกเขา ส่วนหนึ่งก็เพราะแผนการที่เธอวางเอาไว้และอีกส่วนหนึ่ง เพราะเธอรู้ว่าเขาเป็นพี่ชายของคนที่เธอกำลังจะแก้แค้น

“แต่ช่วงนี้คุณกรน่าจะยุ่งเรื่องโครงการริมน้ำนะครับ คงไม่ได้เจอกันง่ายๆหรอกครับ”

“สมพรปากเถอะ ขออย่าให้เจอกันเลย อย่างน้อยๆก็ขอทำเรื่องนี้ให้จบก่อน”

ลลินได้แค่ภาวนาแต่ดูเหมือนคำขอร้องของเอจะไม่เป็นผลเท่าไหร่ เพราะเมื่อเธอเหยียบย่างเข้ามาในห้างแห่งใหม่ เธอก็เจอโจทย์ในทันที

“บ้าจริง”

หญิงสาวยืนนิ่งเมื่อเห็นคฑากรเดินเข้ามาพร้อมกัน้องสาวแทนที่จะเป็นพีรพลอย่างที่คิดเอาไว้

“สวัสดีค่ะคุณลินซี่ ขอโทษที่ให้รอนะคะ นี่พี่กรค่ะ พี่ชายฉัน พอดีวันนี้คุณพีไม่ค่อยสบายค่ะ ฉันก็เลยให้พี่กรมาแทน” กรเกตฉีกยยิ้มให้ ในขณะที่คฑากรมองลลินนิ่งๆ สายตายากจะคาดเดา

“สวัสดีค่ะ ลินซี่ค่ะ” มือขาวถูกยื่นออกไปตรงหน้าท่าทางราวกับไม่รู้จักกันนั่นทำให้คฑากรคิ้วกระตุกแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

มือหนาจงใจกำมือเล็กแน่นทำเอาเจ้าของ

“เดี๋ยวเชิญทางนี้นะคะ” เมื่อเห็นทั้งสองทักทายกันเรียบร้อย กรเกตก็ผายมือเชิญให้เดินไปด้วยกัน

เจ้าของโครงการแนะนำทุกส่วนของห้างให้กับลลินได้ฟัง เมื่อต้องเดินผ่าน เธอพาเธอเดินมาจนถึงบริเวณที่ลลินจะเช่าพื้นที่ พร้อมกับอธิบายคร่าวๆ ว่ารอบๆร้านมีอะไรบ้างรวมถึงพื้นที่ทั้งหมดที่จะได้รับด้วย

“ฉันชอบนะคะ ขอเข้าไปดูหน่อยได้ไหมคะ” ลลินยิ้มเยือน และเดินเข้าไปด้านใน

“เชิญตามสบายได้เลยค่ะ เดี๋ยวขอรับโทรศัพท์สักครู่นะคะ”

กรเกตอนุญาตก่อนจะเดินออกไปเพื่อคุยโทรศัพท์ด้านนอก

ลลินไม่รอช้าเดินหนีไปจากตรงนั้นเพราะไม่อยากอยู่ใกล้คฑากร แต่เขาไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ เดินตามเธอเข้ามาติดๆแม้ว่าจะมีสมิธตามติดเจ้านายของเขาก็อยุ่ตาม

“คุณหนีผมมากรุงเทพฯเพื่อเปิดร้านที่นี่อย่างนั้นเหรอ” เขาเอ่ยถาม

“ก็อย่างที่เห็น” หญิงสาวเดินหนีไปอีกทาง เขาก็เดินตามมาติดๆ

“คิดจะทำอะไร”

“ใคร”

“คุณนั่นแหละ คิดจะทำอะไร ทำไมอยู่ ๆ ถึงจะมาเปิดร้านที่นี่ทั้งที่ไม่จำเป็น”

ตระกูลแมคเครเกอร์ใหญ่โตมีอำนาจเงินทอง เป็นตระกูลใหญ่ที่มั่งคั่ง จับต้องธุรกิจอะไรก็ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะอสังสาฯ โรงแรม หรือเครื่องประดับ แม้แต่ในวงการแฟชั่นก็ยังได้รับความนิยม

“ก็แค่อยากบุกตลาดไทยไม่เห็นจะเข้าใจยากตรงไหนฉันเป็นดีไซเอนณ์คุณลืมเหรอ แบรนด์ของฉันจะขึ้นห้างของน้องคุณมันแปลกมาหรือยังไง”

“แน่ใจเหรอ ว่าเพราะแค่นั้น” เขาขยับเข้ามาใกล้ทำเอาลลินถอยกรูด

“แล้วคุณจะให้ฉันแค่ไหน หรือคุณคิดว่าที่ฉันกลับมาไทย เพื่อมาตามคุณเหรอ” มือเล็กยื่นไปดึงชายเนคไทของอีกฝ่าย ท่าทียั่วยวนชวนน่าหมั่นไส้จนคฑากรกัดริมฝีปากด้วยความหมั่นเขี้ยวเต็มทน

“แล้วถ้าผมคิดแบบนั้นล่ะ” เขาเลื่อนมือขึ้นมายจะแตะหลังอีกคนหากแต่คนตัวเล็กกว่าเบี่ยงหนีไปอีกทาง

“หลงตัวเอง ใครเขาอยากจะตามคุณมากัน” เธอขยับออกมาห่างพอสมควร พร้อมส่งสายตาให้สมิธว่าไม่เป็นไร เธอจัดการเองได้ เพราะสมิธทำท่าจะเข้ามารวบตัวคฑากรทุกย่างก้าวเลยทีเดียว

“ไม่ใช่เหรอ”

“ก็ไม่ใช่น่ะสิ ฉันมาที่นี่เพื่อทำธุรกิจ...” เธอชายตามองอดีตแฟนนิ่ง “ก็แค่นั้น”

“ฝุ่น” คฑากรเสียงอ่อนเรียกชื่ออดีตคนรักที่ยังฝังแน่นในใจพร้อมกับยื่นมือจับแขนเล็กเอาไว้

ลลินแหงนหน้ามองคนตัวสูงกว่า ได้แต่เก็บงำความรู้สึกในใจ

“ลินซี่ค่ะ อย่ามาเรียกชื่อนั้น ฉันไม่ใช่สีฝุ่นของคุณอีกต่อไปแล้ว”

“...” ชายหนุ่มเม้มปากกับประโยคเอ่ยตัดความสัมพันธ์ สำหรับเธอ เขาไม่เคยมีความหมายเลยอย่างนั้นสินะ

“ชอบไหมคะ”

ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ กรเกตก็กลับเข้ามาพอดี

“ชอบค่ะ ยังไงก็ตกลงตามสัญญานะคะ สามารถให้คนของเราเข้ามาได้เมื่อไหร่ก็แจ้งไปที่เลขาของฉันได้เลย วันนี้ต้องขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีธุระ” ลลินพูดเร็วๆแล้วปิดจบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาโดยไม่รอให้อีกฝ่ายบอกลา

“สมิธ ไปบ้านริมน้ำของคุณตานะ” ลลินบอกกับผู้ช่วยของเธอ

“ครับคุณหนู”

สมิธพาลลินมาที่บ้านริมน้ำเจ้าพระยาที่เป็นมรดกเพียงชิ้นเดียวที่แม่ทิ้งเอาไว้ให้ เพราะคุณตาเขียนพินัยกรรมเอาไว้ว่ายกให้เธอที่เป็นหลานสาวคนเล็ก ด้วยตากลัวว่าแม่จะขายสมบัติชิ้นนี้ไปก่อนที่เธอจะกลับมา

“หนูกลับมาแล้วค่ะคุณตา”

ภาพเบื้องหน้าคือชายชราหน้าตาใจดียืนยิ้มในชุดเครื่องแบบทหารสุดโก้ ลลินมองภาพนั้นแล้วมองไปที่ด้านข้างซึ่งเป็นภาพของพี่สาว ก่อนจะมองอีกด้านที่เป็นภาพของแม่เธอ

“แม่ ได้เจอสีน้ำบ้างไหมคะ อยู่บนนั้นสบายดีไหมคะ ฝุ่นสบายดีนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงฝุ่นนะ” เธอคลี่ยิ้มบางๆ

“สีฝุ่น...” เสียงเรียกจากด้านหน้ำให้ลลินหันไปมอง เธอได้เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของหญิงชรานางหนึ่งก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“กลับมาแล้วค่ะคุณยาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel