เพื่อน??
วันหนึ่ง....
"คุณลุงว่ายังไงนะคะคุณพ่อเข้าโรงพยาบาลเหรอคะ" ฉันตกใจมากเมื่อคุณลุงคนขับรถโทรมาบอกฉันด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีบอกว่าคุณพ่อหมดสติจนต้องพามาส่งโรงพยาบาล ฉันรีบขอลาอาจารย์เพื่อมาหาคุณพ่อที่โรงพยาบาลเพราะถ้ารอให้เลิกเรียนฉันรอไม่ไหวฉันเป็นห่วงท่านมาก
หลังจากเขียนใบลาเรียบร้อยแล้วฉันก็รีบเดินออกมาหน้าโรงเรียนเพื่อเรียกแท็กซี่ ใจของฉันตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปี๊นนนน ปี๊นนนนน เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นทางด้านหลังแต่ฉันไม่มีเวลาหันไปมองว่าใครเพราะฉันรีบ
"จะรีบไปไหนของเธอยัยขี้เหร่"
"โซ่??" ฉันหันไปมองเขาแว๊บหนึ่งแต่ก็ไม่ได้หยุดเดินส่วนโซ่ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ตามมาติดๆ
" ทำไมนึกว่าเป็นไอ้เพลิงแฟนเธองั้นดิ"
"เปล่า"
"ว่าแต่เธอจะรีบไปไหนยังไม่เลิกเรียนเลยอย่าบอกนะโดดเรียนอ่ะ"
"ฉันไม่ได้โดดเรียนฉันจะไปโรงพยาบาล" ฉันตอบโซ่แต่ก็ไม่ได้หยุดเดินเพราะตอนนี้ฉันรีบมาก
"ไปโรงพยาบาล ไปทำไมหรือเธอไม่สบาย"
"เปล่า คุณพ่อฉันไม่สบายน่ะ"
"งั้นเดี๋ยวฉันไปส่ง"
"แล้วนายไม่เรียนเหรอ"
"ฉันยังไม่ได้เข้าเรียนเลยเพิ่งมา แต่ไม่เป็นไรหยุดไปเลยก็ไม่มีใครว่าเพราะขนาดแฟนเธอวันนี้มันยังไม่มาเลย"
"วันนี้เพลิงไม่มาเรียนเหรอ"
"มันคงลุกไหวหรอกเมื่อคืนไปงานวันเกิดเชอ..เอ่อ วันเกิดเพื่อนมันน่ะเมาหนักลุกไม่ไหว" ฉันเพิ่งรู้ว่าวันนี้เพลิงไม่มาเรียนเพราะเขาไม่ได้โทรบอกฉันส่วนฉันก็ไม่ได้โทรถามเขา
"แล้วนี่ตกลงจะให้ไปส่งไหมถ้าอยากถึงโรงพยาบาลเร็วๆก็มาซ้อนท้ายฉันนี่" ฉันตัดสินใจซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของโซ่เพราะอยากถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
"ขอบคุณนะที่มาส่ง" ฉันขอบคุณโซ่ที่มาส่งฉันถึงโรงพยาบาลในเวลาอันรวดเร็ว พอลงจากรถฉันก็รีบเข้าไปถามประชาสัมพันธ์ทันที ปรากฏว่าตอนนี้คุณพ่อยังอยู่ห้องไอซียู ฉันรีบวิ่งมาที่หน้าห้องก็เจอกับคุณลุงคนขับรถและคุณป้าแม่ครัวที่นั่งร้องไห้กันอยู่หน้าห้องไอซียู
"คุณลุงคุณป้าขาคุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" ฉันถามอย่างร้อนใจ
"คุณหนึ่งมาแล้ว คุณหนึ่งขาฮืออ คุณพงค์ยังไม่ฟื้นเลยค่ะ" คุณป้าแม่ครัวพอเจอหน้าฉันก็รีบลุกขึ้นมากอดแล้วร้องไห้หนักกว่าเดิม
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะทำไมคุณพ่อถึงหมดสติเมื่อวานคุณพ่อยังดีๆอยู่เลย"
"คุณพงค์ทะเลาะกันคุณสิตาครับจนทำให้อาการโรคหัวใจของท่านกำเริบจนหมดสติไป"
"ทะเลาะกันเหรอคะ"
"ใช่ค่ะคุณหนึ่งทะเลาะกันใหญ่โตเสียงดังลั่นบ้านเลยค่ะ"
"พอจะบอกหนึ่งได้ไหมคะว่าคุรพ่อกับคุณแม่ทะเลาะกันเรื่องอะไร"
"คุณสิตารู้ความจริงว่าคุณพงค์เคยมีลูกมีภรรยามาก่อนที่จะมาแต่งงานกับคุณสิตาครับและรู้ว่าฝั่งโน้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคุณพงค์เพราะเห็นว่าบริษัทคุณพงค์มีปัญหาพอคุณสิตารู้ก็ไม่พอใจทะเลาะกันใหญ่ขู่จะฟ้องภรรยาเก่าคุณพงค์ว่าเป็นชู้คุณพงค์โมโหมาก็เลยพูดว่าจะะขอหย่ากับคุณสิตา"
"ขอหย่าเลยเหรอคะ"
"ใช่ครับ คุณพงค์บอกทนไม่ไหวแล้วเพราะคุณสิตาเอาแต่ใช้เงินไม่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบริษัท"
"แล้วตอนนี้ภรรยาเก่าคุณพ่ออยู่ที่ไหนเหรอคะ"
"ภรรยาเก่าคุณพงค์ตอนนี้เธออยู่ต่างประเทศครับกับลูกสาวเธออายุก็น่าจะพอๆกับคุณหนึ่งนั่นแล่ะครับ"
"แล้วเมกับมาร์ชรู้เรื่องหรือยังคะ"
"คุณหนูทั้งสองยังไม่รู้ค่ะเพราะไปโรงเรียน" ฉันห่วงความรู้สึกของน้องๆทั้งสองคนโดยเฉพาะมาร์ชเขาจะรับได้ไหมที่คุณพ่อจะหย่ากับคุณแม่
"เรื่องคุณพ่อหมดสติยังไม่ต้องโทรไปบอกคุณย่านะคะหนึ่งกลัวว่าท่านตกใจจนล้มป่วยอีกคน" ตอนนี้คุณย่าไปอยู่กับคุณอาภัทรลูกชายของท่านอีกคนที่ต่างจังหวัดฉันไม่อยากให้คุณย่าล้มไปอีกคนเพราะท่านก็แก่มากแล้ว ฉันคิดว่าคุณพ่อคงไม่ได้เป็นอะไรมากเดี๋ยวท่านก็คงฟื้นและกลับบ้านได้
ฉันนั่งรออยู่หน้าห้องไอซียูอยู่นานหลายชั่วโมงแล้วแต่คุณพ่อก็ยังไม่ออกมาสักทีส่วนคุณลุงคนขับรถกับคุณป้าแม่ครัวฉันขอให้พวกท่านกลับบ้านไปก่อนเพราะนี่ก็ใกล้เวลาเลิกเรียนแล้วต้องไปรับน้องๆที่โรงเรียนอีกส่วนฉันจะอยู่เฝ้าคุณพ่อเองโดยไม่รู้เลยว่าโซ่ยังไม่กลับจนฉันหันไปเจอเขา
"โซ่ นายยังไม่กลับอีกเหรอ" ฉันเดินไปหาเขาเพราะถึงยังไงเขาก็มีน้ำใจมาส่งฉัน
"ก็..ไม่รู้จะไปไหนก็เลยนั่งเล่นอยู่ที่นี่เดี๋ยวรอเวลาเลิกเรียนค่อยกลับ ฉันขี้เกียจได้ยินพี่ตัวเองบ่นน่ะ"
"นั่งเล่น??ในโรงพยาบาล??"
"ก็..อืมใช่ทำไมแปลกตรงไหน" ฉันไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยเดินกลับมานั่งอยู่หน้าห้องไอซียูเหมือนเดิมแล้วโซ่ก็เดินมานั่งข้างๆฉันหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจว่าเขาจะเดินตามมานั่งด้วยทำไม
"ฉันเห็นเธอนั่งคนเดียวก็เลยจะมานั่งเป็นเพื่อน"
"ขอบใจนะ"
"อืมไม่เป็นไรถึงยังไงเธอก็เป็นแฟนของไอ้เพลิง" พอโซ่พูดถึงเพลิงฉันก็หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วโทรหาเพลิงแต่เขาไม่รับสายฉันลองโทรอยู่หลายครั้งเขาก็ไม่รับจนกระทั่งครั้งสุดท้ายเขาปิดเครื่องไปแล้วสงสัยแบตจะหมดเหมือนที่เคย
"มันไม่รับเหรอเธอเหรอไอ้เพลิง"
"รู้ได้ยังไงว่าฉันโทรหาเขา"
"รู้ก็แล้วกันน่า ตกลงมันไม่รับสาย??"
"อื้มมม ปิดเครื่องแล้วอ่ะสงสัยแบตจะหมดอีกตามเคย"
"แบตหมด??"
"อื้มเพลิงชอบบอกว่าเขาไม่ค่อยชาร์จแบตมือถือก็เลยทำให้แบตหมดบ่อยๆ"
"เหอะเธอนี่โลกสวยดีเนอะมองโลกในแง่ดีจริงๆเลยนะมันพูดอะไรก็เชื่อไปซะทุกอย่าง"
"แล้วทำไมฉันจะต้องไม่เชื่อด้วยล่ะหรือนายคิดว่าเพลิงโกหกฉันแล้วเขาจะโกหกฉันทำไม"
"แฟนเธอถ้าเธอมั่นใจว่ามันไม่เคยโกหกเธอก็เอาที่เธอสบายใจ"
"ทำไมนายถึงพูดเหมือนเพลิงโกหกฉันล่ะ"
"เปล่าฉันแค่เตือนเธอด้วยความหวังดีก็เท่านั้น" ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมโซ่ถึงพูดแบบนี้หรือเขาอยากให้ฉันเลิกกับเพลิง ใช่สินะเพราะเขาไม่ชอบหน้าฉันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นาเขาบอกว่าฉันกับเพลิงไม่เหมาะสมกันเพลิงควรจะมีแฟนที่สวยกว่าผู้หญิงหน้าตาจืดชืดแบบฉัน ฉันเลิกสนใจคำพูดของโซ่เพราะฉันไม่อยากคิดมาก สักพักคุณหมอเดินออกมาจากห้องไอซียูฉันรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปถามอาการคุณพ่อทันที
"คุณพ่อของหนูเป็นยังไงบ้างคะ"
"คุณเป็นญาติคุณพงค์ใช่ไหมครับ"
"ใช่ค่ะฉันเป็นลูกบุญธรรมของท่านค่ะ"
"แล้วภรรยากับลูกๆของคุณพงค์ไม่มาเหรอครับ"
"ยังไม่มาค่ะคุณแม่น่าจะไปรับน้องๆที่โรงเรียนอีกสักประเดี๋ยวคงตามมา"
"โอเคครับ ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วแต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพราะคนไข้มีอาการเหนื่อยไม่สามารถหายใจเองได้ เดี๋ยวหมอจะให้คุณเข้าไปเยี่ยมคนไข้นะครับแต่ขอแจ้งให้ทราบอีกเรื่องว่าอย่าเอาเรื่องไม่สบายใจไปพูดให้คนไข้ฟังเพราะมันจะทำให้อาการคนไข้แย่ลงกว่าเดิม"
"ค่ะ"
หลังจากคุณหมออนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมฉันก็ยืนทำใจหน้าห้องอยู่นานเพราะฉันกลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ต่อหน้าคุณพ่อแล้วจะทำให้คุณพ่อไม่สบายใจถึงคุณหมอจะบอกว่าท่านพ้นขีดอันตรายแล้วแต่อาการของท่านก็ยังน่าเป็นห่วง
"ทำไมยังไม่เข้าไปอีก" โซ่ถามฉันเมื่อเห็นว่าฉันยังไม่เข้าไปข้างในสักที
"ฉันกลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ ฉันสงสารคุณพ่อ" ฉันบอกไปตามตรงเพราะเขาเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนี้และได้ยินที่คุณหมอบอก
"เอางี้ไหมเดี๋ยวฉันจะเข้าไปเยี่ยมพ่อเธอด้วยอีกคน"
"นายไม่รู้จักคุณพ่อนายจะเข้าไปทำไม"
"ก็เข้าไปในฐานะเพื่อนของเธอไง"
"เพื่อน....งั้นเหรอ" ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับฉันเลยเพราะฉันไม่เคยมีเพื่อนพอโซ่พูดแบบนี้มันเลยทำให้ฉันรู้สึกตื้อๆในลำคอ
"อืมเพื่อนทำไมหรือเธอไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉัน"
"ฉันไม่เคยมีเพื่อน"
"เรื่องนั้นฉันรู้แล้วเอาเป็นว่าฉันจะยอมลดตัวเป็นเพื่อนกับคนไม่สวยอย่างเธอก็แล้วกัน"
"ขอบใจนะ" ถึงจะมีเรื่องให้ไม่สบายใจแต่ฉันก็รู้สึกอุ่นใจที่มีเพื่อนเหมือนคนอื่นเขา
ฉันเดินเข้ามาในห้องไอซียูโดยมีโซ่เดินตามหลังเข้ามา เสียงอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายอย่างที่ฉันไม่รู้จักกำลังทำงานฉันมองไปที่เตียงเห็นคุณพ่อนอนอยู่โดยมีเครื่องช่วยหายใจช่วย ฉันแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นท่านเข้าโรงพยาบาลเพราะปกติท่านจะเป็นคนแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่ายๆ
"คุณพ่อขาหนึ่งมาเยี่ยมค่ะ" ฉันพยายามปรับเสียงไม่ให้สั่น พอฉันเรียกท่านก็หันมามองอย่างช้าๆแล้วยิ้มให้ก่อนที่ท่านจะดึงเครื่องช่วยหายใจออก
"คุณพ่ออย่าดึงออกค่ะคุณหมอบอกว่าคุณพ่อหายใจเองไม่ค่อยได้" ฉันรีบเข้าไปหาท่านใกล้ๆแล้วใส่เครื่องช่วยหายใจให้ท่าน
"พ่อไม่เป็นไรแล้วลูก"
"คุณพ่อดื้อตลอดเลย"
"เลิกเรียนแล้วเหรอลูก" คุณพ่อถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เบามาก
"ยังค่ะแต่หนึ่งลาอาจารย์มาแล้วค่ะ"
"แล้วนั่นใคร แฟนหนึ่งเหรอลูก" พ่อละสายตาจากฉันแล้วหันไปมองโซ่
"สวัสดีครับคุณลุงผมเป็นเพื่อนหนึ่งครับชื่อโซ่" โซ่ยกมือไหว้คุณพ่อพร้อมกับแนะนำตัว
"เพื่อนหนึ่งเหรอลูก ลุงขอบใจนะที่เป็นเพื่อนยัยหนึ่งตั้งแต่เด็กจนโตยัยหนึ่งไม่ค่อยมีเพื่อนเลย"
"ครับ^^" โซ่ชวนคุณพ่อคุยเพราะเห็นว่าฉันจะร้องไห้ ฉันขอบคุณเขาทางสายตาถ้าเขาไม่เข้ามาด้วยฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะร้องไห้ต่อหน้าท่านหรือเปล่า
"คุณพ่อขา คุณพ่อเริ่มเหนื่อยแล้วหนึ่งอยากให้คุณพ่อพักผ่อนให้มากๆ ไว้พรุ่งนี้หนึ่งมาเยี่ยมคุณพ่อใหม่นะคะ" คุณพ่อพยักหน้าแทนคำตอบ ฉันเดินออกมาจากห้องไอซียูพร้อมกับโซ่ พอเดินออกมาก็เจอคุณแม่ที่เดินเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจซึ่งฉันไม่เข้าใจว่าฉันทำอะไรให้ท่านไม่พอใจ
"คุณแม่มาเยี่ยมคุณพ่อแล้วเหรอคะคุณพ่อเพิ่ง..." ฉันดีใจที่เห็นคุณแม่มาเยี่ยมคุณพ่อฉันกำลังจะบอกกับคุณแม่ว่าคุณพ่อเพิ่งฟื้นแต่พูดไม่ทันจบประโยคฉันก็ถูกท่านต่อว่าทันทีด้วยประโยคที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ยิน
"รีบมาเยี่ยมคนแรกเลยนะทำไมกลัวพี่พงค์ตายไปแล้วไม่แบ่งสมบัติให้แกหรือไงห๊ะ"
"คุณแม่คะ คุณพ่อยังไม่ได้เป็นอะไรนะคะทำไมคุณแม่ถึงพูดแบบนี้คะ"
"แกหาว่าฉันแช่งพี่พงค์งั้นเหรอห๊ะนังเด็กเหลือขอ"
"หนึ่งไม่กล้าว่าคุณแม่หรอกค่ะ แต่คุณแม่ไม่ควรพูดแบบนี้เพราะคุณพ่อไม่ได้เป็นอะไรแล้วหนึ่งก็ไม่เคยหวังสมบัติอะไรทั้งนั้นค่ะคุณแม่จะให้หนึ่งสาบานก็ได้นะคะ"
"ไม่ต้องมาสาบานเพราะฉันไม่เชื่อแกมันนังเด็กตอแหลต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างแกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอห๊ะว่าที่แกทำตัวเป็นเด็กดีเรียบร้อยน่าสงสารแกหวังอะไร"
"หนึ่งเปล่านะคะหนึ่งไม่ได้หวังอะไรทั้งนั้นค่ะ"
"แกกล้าเถียงฉันเหรอห๊ะนังตัวดี"
"หนึ่งเปล่าเถียงนะคะ หนึ่งแค่จะอธิบายให้คุณแม่เข้าใจเท่านั้นเองค่ะ"
"แกไม่ต้องมาอธิบายฉันไม่จำเป็นต้องฟังคนอย่างแกนังหนึ่ง อ่อหรือแกคิดว่าพี่พงค์รักแกเอ็นดูแกแกก็เลยกล้าว่าฉันแบบนี้ห๊ะนังหนึ่งนังเนรคุณ แกมันเนรคุณวันนี้ฉันจะตบสั่งสอนแกให้หลาบจำฉันทนกับแกมามากพอแล้ว" คุณแม่เงื้อมือตรงเข้ามาจะตบหน้าฉันแต่โซ่เอาตัวเข้ามาบังตัวฉันไว้
สปอยล์....
"เธอชื่อวันหนึ่งเป็นลูกสาวบุญธรรมของคุณพ่อใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ"
"ฉันชื่อมีย่านะเป็นลูกสาวของคุณพ่อ"
"อ่อค่ะยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณมีย่า"
"ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหรอกเราอายุเท่ากัน ว่าแต่เธอเรียนอยู่ที่นี่เหรอ"
"ค่ะ"
"แล้วเธอรู้จักเพลิงกัลป์ไหม"
"เพลิงกัลป์...เอ่อก็รู้จักค่ะ"
"ดีเลยอ่ะ ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงนิสัยยังไงชอบอะไรไม่ชอบอะไรแล้วเป๊กผู้หญิงของเขาเป็นแบบไหน"
"คุณต้องการรู้ไปทำไมเหรอคะ."
"ฉันก็ต้องรู้สิเพราะฉันกับเพลิงเราเป็นว่าที่คู่หมั้นกันน่ะ^^"