บทที่ 4
บทที่ 2
ณ คอนโดหรูราคาแพงระยับติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้เป็นเจ้าของห้องในคอนโดแห่งนี้ กำลังนั่งสูบบุหรี่ด้วยความเบื่อหน่าย บุหรี่มวนแล้วมวนเล่าถูกเผาพ่นควันด้วยฝีมือของผู้เป็นเจ้าของห้อง จนส่งกลิ่นบุหรี่ลอยคละคลุ้งอยู่ทั่วห้อง ทำเอาผู้ที่เพิ่งเปิดประตูห้องและเดินเข้ามาได้แค่เพียงก้าวเดียวต้องไอโคลกๆ เพราะสำลักควันบุหรี่
“โอ๊ยยย...คุณน้อง ทำไมในห้องมีแต่กลิ่นบุหรี่ละคะ”
มอลลี่ สาวประเภทสอง ซึ่งทำหน้าเป็นผู้จัดการส่วนตัว ได้โวยวายในทันทีที่เดินมาหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่ด้านหน้าหญิงสาวผู้สะสวยคนหนึ่ง และก็ได้รับการตอกกลับที่ทำเอามอลลี่ถึงกันสะอึกไปหลายนาทีด้วยกัน
“สูบบุหรี่ก็ต้องมีกลิ่นบุหรี่สิ จะให้มีกลิ่นน้ำหอมได้ยังไงกัน”
‘เมขลา’ ดาราสาวผู้เป็นเจ้าของห้องเค้นเสียงตอบ โดยไม่เหลือบสายตามองผู้จัดการส่วนตัวแม้แต่นิดเดียว มือเล็กคว้าบุหรี่ที่วางอยู่บนที่เขี่ยบุหรี่มาดูดสารนิโคตินเข้าปอด ก่อนจะพ่นควันสีเทาใส่หน้ามอลลี่ด้วย
มอลลี่ถึงกับไอโคลกๆ เมื่อถูกพ่นควันบุหรี่ใส่เต็มหน้า ยกมือปัดควันบุหรี่ให้วุ่น เค้นเสียงดุใส่ดาราสาวที่ยังคงสูบบุหรี่ไม่หยุด
“นี่คุณน้อง...ไปกินรังแตนมาหรือยังไง อารมณ์ถึงได้ขุ่นมัว กวนโมโหพี่ตั้งแต่เจอหน้ากัน”
เมขลามองผู้จัดการส่วนตัวที่ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามตนเอง ก่อนจะโยนบุหรี่ไปบนที่เขี่ยบุหรี่ แล้วเปลี่ยนเป็นหยิบบรั่นดีมากรอกเข้าปากราวกับดื่มน้ำเปล่าก็ไม่ปาน
“จะไม่ให้โมโหได้ยังไงคะ ฮันนี่นั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในคอนโดจนรากจะงอกแล้ว ไหนพี่มอลลี่บอกว่าฮันนี่จะได้รับบทนางเอกเร็วๆ นี้ละคะ นี่รอแล้วรออีก รอเป็นชาติแล้วยังได้รับแต่บทนางตัวรองเท่านั้น”
ได้ยินคำบ่นยาวยืดของเมขลา มอลลี่ก็รีบย้ายตัวเองมานั่งชิดกับดาราสาว บีบนวดตามต้นแขนขาวเนียนของอีกฝ่าย พร้อมกับเอ่ยปลอบแกมให้คำแนะนำไปด้วย
“ใจเย็นๆ นะคะ คุณน้องขา...”
เมขลาสะบัดมือให้พ้นจากมือของมอลลี่ คว้าบุหรี่มาอัดเข้าปอด พร้อมกับถลึงตาใส่ด้วย “จะให้ฮันนี่ใจเย็นไปถึงไหนอีกคะ นี่ฮันนี่รอนานเกือบเป็นปีแล้วค่ะ”
“รออีกนิดนะคะ คุณน้อง...” มอลลี่ปลอบให้ดาราสาวใจเย็น พร้อมกับเอ่ยกล่อมต่อ “ขอแค่เพียงคุณน้องทำตามที่พี่บอก ขยันเข้าไปหาเฮีย คุณน้องก็จะได้รับบทนางเอกในเร็วๆ วันนี้ค่ะ”
“จะให้ไปหาตาเฒ่าหัวงูอีกนานแค่ไหนคะ ฮันนี่ทอดกายให้เขาทุกครั้งที่เขาโทร.เรียก นับรวมๆ แล้วก็เป็นเวลาเกือบเจ็ดเดือนแล้ว แต่ฮันนี่ได้รับแค่บทตัวประกอบกระจอกๆ ไม่ได้เป็นนางเอกละครสักที”
เมื่อหน้าตาไม่ได้สวยงามเป็นที่โดดเด่นมากเหมือนดาราคนอื่นๆ เมขลาซึ่งได้รับบทเป็นแค่ตัวประกอบแทบในทุกเรื่อง จึงอยากถีบตัวเองให้ก้าวขึ้นเป็นดาราเบอร์หนึ่งให้ได้ และจำต้องใช้เรือนกายของตนเป็นบันไดไต่เต้าสู่ความสำเร็จในวงการบันเทิง
มอลลี่บีบนวดตามต้นแขนเนียนขณะเอ่ยกล่อมแกมโกหก “คุณน้องฮันนี่จ๋า...คุณน้องไปหาเฮียให้บ่อยขึ้นกว่านี้ได้ไหมคะ คุณน้องเล่นไปแค่สัปดาห์ละครั้ง ในขณะที่ดารารุ่นน้องคนอื่นๆ ไปหาเฮียแทบทุกวัน พวกเธอเหล่านั้นก็มีเวลาในการประจบประแจงเอาใจมากกว่าคุณน้อง เฮียก็รักก็หลงแล้วมอบบทเด่นๆ ให้พวกเธอไปหมด”
“ต้องไปบำเรอสวาทเขาแทบทุกวันเลยหรือคะ มันเกินไปแล้วค่ะ”
เมขลาถามเสียงหลงและต่อว่าในตอนท้าย ไม่พอใจที่ต้องไปทอดกายให้ตาเฒ่าซึ่งเป็นผู้กำกับละครได้เริงสวาทบนเรือนกายของเธอ แต่...ถ้าหากผู้กำกับยังหนุ่มแน่น หัวไม่ล้าน และหล่อเหลาเหมือนดาราชายคนอื่นๆ เธอจะไม่เกี่ยงเลยที่ต้องเริงสวาทด้วยในทุกวันดั่งที่มอลลี่ได้เอ่ยบอก
“ฮันนี่อยากได้บทนางเอกไม่ใช่หรือ ก็ต้องยอมและทนให้เฮียเสวยสุขบนเรือนร่างของฮันนี่ ไม่เช่นนั้นดาราหน้าใหม่จะคว้าบทนางเอกไปหมดนะคะ”
มอลลี่เอ่ยย้ำให้เมขลาได้คิดตาม ซึ่งอีกฝ่ายถึงกับนิ่งเงียบไปหลายนาที ก่อนจะค้านออกมาไม่เต็มเสียงนัก
“แต่ให้นอนกับตาเฒ่าทุกวัน ฮันนี่ก็ไม่ไหวนะคะ เฮียทั้งอ้วน ทั้งตัวเหม็น แถมยังมีเซ็กที่ห่วยแตกอีกด้วย เขาขึ้นสวรรค์ทุกรอบ แต่ฮันนี่กลับตกสวรรค์ทุกครั้ง มันน่าเบื่อมากเลยนะคะ พี่มอลลี่”
เมขลาเอ่ยปรับทุกข์โดยไม่มีอายเมื่อพูดถึงเซ็กกับผู้กำกับคนหนึ่ง ที่มอลลี่เป็นคนแนะนำให้เธอได้รู้จัก และบอกว่าผู้กำกับคนนี้สามารถทำให้เธอเป็นดาราเบอร์หนึ่งของประเทศไทยได้ ขอแค่เพียงเธอบริการเขาให้ถึงใจเท่านั้น
“เอาน่าคุณน้อง...อย่าบ่นเลยค่ะ อยากได้บทนางเอก อยากเป็นดารานัมเบอร์วันของประเทศไทย และเพื่อชื่อเสียงที่จะดังเป็นพลุแตก คุณน้องก็หลับหูหลับตาบริการเฮียไปเถอะค่ะ และนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณน้องต้องไปหาเฮียทุกวันด้วยค่ะ”
“สองวันครั้ง หรือสามวันครั้งไม่ได้หรือคะ” เมขลาต่อรอง
และมอลลี่ก็ยื่นคำขาดว่า “สองวันครั้ง ตกลงตามนี้นะคะ อย่าไปนึกถึงเซ็กห่วยแตกของเฮีย แต่ให้นึกถึงความสำเร็จของตัวเอง พอฮันนี่มีชื่อเสียงแล้ว ฮั่นก็จะเนื้อหอม ใครๆ ก็ต้อง
การฮันนี่ ผู้จัดละครคนอื่นๆ รวมทั้งโฆษณาก็จะวิ่งเข้าหา ตารางานจะแน่นเอี๊ยดตลอดทั้งปี และดีไม่ดี ฮันนี่อาจดังไปถึงต่างประเทศ คราวนี้ฮันนี่ก็จะได้โกอินเตอร์สมใจอยากยังไงละคะ”
เจอผู้จัดการส่วนตัวชักแม่น้ำทั้งห้า และตบท้ายด้วยความสำเร็จอันดูสวยหรู ได้โกอินเตอร์เป็นดาราดังระดับโลก เมขลาก็คล้อยตาม ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยประกายวาววับ เมื่อนึกถึงวันที่ตนเองอาจจะได้ไปเดินบนพรมแดงบ้าง
“ถ้ายังงั้นก็ได้ค่ะ ฮันนี่เชื่อพี่มอลลี่ค่ะ”
“ต้องใจถึงแบบนี้สิค่ะ ความสำเร็จถึงจะวิ่งเข้าหาพวกเรา” คราวนี้มอลลี่ตบหนักๆ ลงบนต้นแขนของเมขลา คลี่ยิ้มออกมาได้กับคำตอบรับของดาราสาว
และด้วยมัวแต่คลี่ยิ้มกับฝันหวานในยามกลางวัน เมขลาจึงไม่มีโอกาสได้เห็นสายตาและรอยยิ้มที่กระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ของผู้จัดการส่วนตัว
ซึ่งดาราสาวไม่มีโอกาสล่วงรู้เลยว่า...ทุกครั้งที่เธอไปบำเรอสวาทให้กับผู้กำกับคนนี้ มอลลี่ได้รับเงินค่าหัวคิวจากผู้กำกับถึงคราวละหนึ่งหมื่นบาท แน่นอนว่ามอลลี่ยุส่งให้เมขลาไปหาผู้กำกับหื่นกามบ่อยครั้งมากเพียงใด เธอก็จะได้เงินเข้ากระเป๋ามากเท่านั้นด้วย
ทางด้านของเมขลาซึ่งไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เพราะมัวแต่ฝันหวานถึงชื่อเสียงของการได้เป็นดารานัมเบอร์วันของเมืองไทย ก็ได้แต่พยักหน้ารับและพร้อมทำตามคำแนะนำของมอลลี่ทุกอย่าง
“ค่ะ ฮันนี่พร้อมทำตามที่พี่มอลลี่แนะนำ ฮันนี่ลืมนึกไปว่าตอนนี้มีดาราหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย แต่ละคนทั้งสวย ทั้งสาวมากกว่าฮันนี่มาก ถ้าฮันนี่ไม่เอาใจเฮีย ฮันนี่ก็ไม่ได้เกิดสักที”
“ถูกต้องที่สุดค่ะ คุณน้องขา...”
มอลลี่หัวเราะร่วนขณะรับคำ หัวเราะให้กับเงินทองที่จะได้เป็นกอบเป็นกำจากความโง่เขลาของเมขลา
“แต่สัปดาห์หน้า ฮันนี่คงไปหาเฮียไม่ได้ทั้งสัปดาห์ค่ะ”
“อ้าว! ทำไมคะ ตะกี้เพิ่งบอกว่าจะยอมไปหาเฮีย แล้วทำไมน้องฮันนี่ถึงกลับคำพูดละคะ”
มอลลี่ถามเสียงหลงในทันที ขึงตาใส่ดาราสาว ก็ตกลงกันอยู่หลัดๆ ว่าจะไปบำเรอสวาทให้ผู้กำกับเฒ่า แต่ไม่ทันไรก็กลับคำซะแล้ว
“ก็สัปดาห์หน้าฮันนี่จะไปเที่ยวประเทศตุรกี พี่มอลลี่ลืมแล้วหรือคะ ฮันนี่บอกพี่มอลลี่ไว้หลายวันแล้ว และชวนพี่มอลลี่ไปด้วย แต่พี่มอลลี่บอกว่าติดงานไปไม่ได้”
เมขลาเอ่ยบอกแกมเท้าความถึงเรื่องการไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ซึ่งเธอได้บอกอีกฝ่ายไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้ว อีกทั้งชวนไปเที่ยวด้วยกัน แต่ก็ถูกมอลลี่ปฏิเสธ