7 เธอคือเหยื่อความแค้น
คนเป็นสามีรั้งร่างงามเข้ามากอดแนบอก รักสุดหัวใจกับผู้หญิงคนนี้ แม้ว่าเมื่อก่อนเคยหลงทางไปบ้างแต่ก็เพียงนิดเดียว เมื่อของจริงที่ดีอยู่ใกล้ๆ เขาจะไม่ทิ้งเด็ดขาด ต่อให้หญิงนอกบ้านสวยงามแค่ไหนก็เป็นแค่เพียงสีสันของชีวิตเท่านั้น
จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมไร่องุ่นของเอกเพิ่มขึ้นจากเมื่อเช้า ขณะนี้บ่ายกว่าๆ อากาศไม่ร้อน สายลมเย็นฉาบผิวให้ความสดชื่นแก่ผู้คนไม่น้อย ทว่ากลับไม่ทำให้เพลิงไพรอารมณ์ดีไปได้เพราะรู้ว่าพื้นที่ทั้งหมดของไร่องุ่นนี้ส่วนหนึ่งเป็นของพ่อเขา
“สุขกับการเสพเงินคนอื่นให้พอ อีกไม่นานพวกแกก็ไม่มีความสุขอย่างทุกวันนี้ นายเอก นางรินทรและนางสาวนทีรา ความทุกข์กำลังจะมาเยือนแล้ว”
เพลิงไพรพูดในใจเท่านั้น ซึ่งเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ดวงตามองไปข้างหน้าอย่างเขม็ง มือทั้งสองข้างกำเข้าหากัน เวลานี้เขาต้องการพบครอบครัวคนโกง
สิ่งแรกที่ต้องทำคือไปถามหานทีราที่สำนักงาน รู้ว่าเธอจะต้องอยู่ที่นั่น ขณะกำลังเดินปะปะไปกับนักท่องเที่ยวอยู่นั้น ส่งสายตากวาดมองไปยังสำนักงานแล้วเกร่เข้าไปใกล้ๆ แกล้งมองโน่นมองนี่ไปเรื่อย
“ขอทางหน่อยค่ะ”
เสียงหวานๆ ที่ทักด้านหลัง ปลุกภวังค์แห่งความแค้นของชายหนุ่มให้คืนสติกลับมาเป็นปกติ มองหน้าหญิงสาวร่างบางแต่ได้สัดส่วน ความสูงของเธอไม่ต่ำกว่า 170 เซนติเมตร ผิวขาวหน้าตาสวย ผมยาวสีดำขลับถูกปล่อยลงไปสยายกลางหลัง
ผู้หญิงคนนี้สวยโดยธรรมชาติจริงๆ ไม่มีศัลยกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย
“ขอโทษครับ ผมกำลังเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามกับอากาศเย็นสบายเหมือนอยู่เมืองนอกเลย”
“ค่ะ ที่นี่อากาศเย็นสบายเกือบตลอดปี แทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศด้วยซ้ำ”
“คุณเป็นคนที่นี่หรือครับ”
ชายหนุ่มถามพร้อมกับเลิกคิ้วเข้มขึ้นด้วยความสงสัย ถ้าเธอเป็นคนที่นี่จริงนับว่าเป็นสาวต่างจังหวัดที่สวยมาก...สวยระดับนางเอกหนังเลยก็ว่าได้
“ค่ะ ฉันเกิดที่นี่ แม่เป็นคนที่นี่ค่ะ”
“ดีใจที่เจอคนพื้นที่ อย่างนี้ก็พอแนะนำผมได้สิครับว่าที่ไร่นี้มีอะไรน่าสนใจและองุ่นพันธุ์ไหนอร่อยที่สุด”
“ถ้าอย่างนั้นเชิญนั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ ฉันเอาเอกสารในแฟ้มนี้ไปที่ช็อปตรงนั้นก่อน”
สาวสวยในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีครีมพับแขนกับกางเกงยีนทรงสกินนี่เดินไปอย่างรวดเร็ว เขามองอย่างทึ่งๆ เธอคล่องแคล่วทั้งคำพูดและการเคลื่อนไหว
ประทับใจเหลือเกิน แต่พยายามห้ามความรู้สึกดีๆ เอาไว้ ไม่เผลอใจกับสาวในพื้นที่ กลัวจะเสียงาน
ร่างใหญ่นั่งลงที่เก้าอี้ข้างสำนักงานโดยมีเก้าอี้อื่นๆ ตั้งไว้รายรอบเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งกินลมชมวิว
“มาแล้วค่ะ นี่คืออภินันทนาการจากไร่องุ่นเอกอรุณ”
หญิงสาวยื่นแก้วเครื่องดื่มที่มีโลโก้ของไร่เอกอรุณส่งให้ เพลิงไพรรับมาถือเอาไว้ มองแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงใสเจือด้วยรอยยิ้มบางๆ
“อะไรครับ”
“น้ำองุ่นค่ะ เราผลิตเอง ลองชิมค่ะ”
“โอ ของซื้อของขาย ผมไม่กล้ารับเอาไว้หรอกครับ เดี๋ยวจ่ายเงินให้”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณกล้าเข้ามาถามฉันอย่างนี้ถือว่าเป็นแขกคนสำคัญ ต้องได้รับสิ่งดีๆ ค่ะและนี่คือคุ้กกี้องุ่นและองุ่นสด ลองชิมนะคะ ถือว่าเป็นอาหารว่าง”
กล่องกระดาษเล็กๆ ถูกเปิดฝาออกพร้อมกับองุ่นสดจำนวนหนึ่งและคุ้กกี้สามชิ้น ถ้าเพลิงไพรไม่มีอคติกับเจ้าของไร่คงจะยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการต้อนรับอย่างเป็นการเองของพนักงานสาวสวยคนนี้
“ขอบคุณครับ ให้ผมมากเกินไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ เผื่อว่าคุณติดใจแล้วซื้อกลับไป”
“ผมต้องซื้ออยู่แล้วครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอชิมองุ่นก่อนก็แล้วกันว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง อืม อร่อยมากเลยครับ”
“องุ่นที่นี่รสหวาน กรอบ เนื้อเยอะค่ะ เราจึงขายราคาสูงกว่าที่ไร่อื่นเพียงเล็กน้อยแต่ก็คุ้มเพราะผู้บริโภคได้ของดีๆ ไปรับประทาน”
“น่าสนใจ อยากจะซื้อจัง”
“ไปซื้อที่ช็อปได้เลยค่ะ”
“ผมต้องการซื้อหลักร้อยกิโลกรัมขึ้นไปครับ”
“หา! ซื้อร้อยกิโลเลยหรือคะ กินหมดหรือคะคุณ”
นทีราตกใจเมื่อรู้ว่าหนุ่มหล่อที่เป็นแขกพิเศษของไร่ในวันนี้ต้องการซื้อองุ่นเป็นจำนวนมากกว่า 100 กิโลกรัม
“ผมไม่ได้ซื้อไปกินหรอกครับ เอาไปขายต่อน่ะ คือว่าผมส่งสินค้าไปขายตามห้าง ไม่รู้ว่าของคุณขายส่งที่ห้างไหนบ้าง”