3 แม่ลูกพอกัน
“โอ๊ย! ไม่ไหว เหมืองหินอ่อนมีแต่ฝุ่น บอกให้พ่อซื้อบ้านในจังหวัดหรือที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ยอม กว่าเราจะเดินทางออกมาจากเหมืองได้ ใช้เวลาตั้งนาน”
“เอาเหอะน่า จะบ่นให้มันได้อะไรขึ้นมาเนี่ย เราร่ำรวยมีกินมีใช้อย่างทุกวันนี้ก็ดีแล้ว อยากได้อะไรก็สมใจทุกอย่าง”
“เรื่องเงินน่ะดีอยู่แล้ว แต่เรื่องผู้ชายหล่อๆ ล่ำๆ นี่สิ เมื่อไหร่สวรรค์จะส่งให้มาเสียทีก็ไม่รู้”
หญิงสาวพูดออกมาได้อย่างไม่กระดากปาก มารดาค้อนควัก ทำตาประหลับประเหลือก ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แม้รู้ว่าจันทราชื่นชอบผู้ชายหนุ่มหล่อเป็นพิเศษ เรียนไม่จบปริญญาโทเพราะหนีไปอยู่กับหนุ่มหล่อคนหนึ่ง
เมื่อสนใจผู้ชายมากกว่าเรียนหนังสือ จึงยุติการเรียนเพียงเท่านั้น ส่วนผู้ชายเลิกกันไปเพราะทนนิสัยเอาแต่ใจของจันทราไม่ไหว
“ต่อหน้าคนอื่น ห้ามพูดเรื่องผู้ชายเด็ดขาด”
“ทำไมล่ะ เรื่องปกติของผู้หญิงที่จะต้องมีอะไรวูบวาบผ่านเข้ามาบ้าง”
“สำหรับแกน่ะมันเยอะเกินไปเข้าใจไหม ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่พร่ำเพ้อถึงผู้ชายตลอดเวลาน่ะ พอบ้างเถอะ”
“รู้น่า แต่ก็ต้องเลือกคนดีที่สุดเอาไว้นั่นแหละ หรือว่าแม่ไม่ชอบผู้ชายหล่อ รวย นิสัยดีล่ะ”
“งมหาไปเถอะ ยาก ที่แน่ๆ ก็คือเวลาเจอคนถูกใจ อย่าแสดงออกมา มันน่าเกลียดมากรู้ไหม”
“โอเค เดี๋ยวจะพยายามสงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่แสดงออกว่าชอบใครเป็นพิเศษ”
“ดีแล้วอย่าหลีน้าเอกนะ”
“ว้าย ตายแล้ว ใครจะเจี๊ยะลง แก่ขนาดนั้น กล้ามเนื้อหย่อนยาน หนังหน้าย่น กินไม่ลงจริงๆ เลย”
หญิงสาวยังคงวิจารณ์เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเอกไปเรื่อยๆ โดยไม่เห็นมารดาทำตาฉ่ำเมื่อเอ่ยชื่อเอกออกมา
ภาพความหลังครั้งเก่าที่ประทับอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืม เสียดายที่ไม่ได้ชิดใกล้
“แม่ แม่ นิ่งเชียว คิดอะไรกับน้าเอกหรือเปล่าเนี่ย”
“นังลูกบ้า พูดอะไรอย่างนั้นน่าเกลียด”
“จะรู้เรอะ เอ...หรือว่าแม่เคยชอบน้าเอกก็เลยพูดกันๆ จันทราเอาไว้ อย่าเชียวนะ เดี๋ยวฟ้องน้ารินทร”
“เฮ้ย! หาเรื่อง ไม่มีจริงๆ พี่เอกกับแม่แค่คนรู้จักและเกี่ยวดองเป็นน้องเขยเท่านั้นเอง”
มารดาปฏิเสธเสียงลั่น กลัวว่าลูกสาวจะจับความรู้สึกของตัวเองได้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีความคิดอยากจะเป็นภรรยาของเอก แต่ไทได้เข้ามาแทรกเสียก่อน
เมื่อนึกถึงไทขึ้นมา เจ็บปลาบกลางอก ป่านนี้ลูกชายของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง
รินทรรับไหว้หลานสาวแสนเปรี้ยวและหันไปไหว้ดวงกมลและมองอย่างทึ่งในความงาม คิดไม่ถึงว่าอายุมากขึ้น แต่ยังคงความสวยเอาไว้และดูเหมือนว่าสวยกว่าเดิมเสียอีก
“พี่ดวงสวยมากเลยค่ะ ไปทำอะไรมา”
“แม่ไปเกาหลีค่ะน้ารินทร”
“นี่ยัยจันทรา น้อยๆ หน่อยเถอะ เธอรู้ได้ไงว่าฉันไปเกาหลี”
“แม่อย่าโกหกเลยน่า หน้าเด้งเนี่ยให้หมอเอาเข็มจิ้มมา ถุงใต้ตาบวมแม่ก็ไปผ่าตัดเลาะเอาไขมันออก หน้าผากย่นก็ผ่าตัดเย็บรั้งขึ้นไป จมูกนี่ก็...”
“พอๆ แล้วยัยจันทรา จะเผาแม่ไปถึงไหน”
“ความจริงนี่นา ไม่ได้เผาสักหน่อย”
หญิงสาวทำเสียงอ่อนในตอนท้ายและหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้กับน้าสาวที่มองด้วยความเอ็นดู แม้ว่าเธอจะแต่งตัวเปรี้ยวเสียจนเข็ดฟันก็ตาม
“ไปทำแล้วสวยก็น่าทำอยู่หรอกนะ”
“นั่นสิ ไม่เอาแล้วเลิกพูดเรื่องนี้เสียที ฉันปวดเฮด รินทรตอนนี้หลานทีราของฉันอยู่ไหนล่ะ มาบ้านเธอทีไรไม่เคยเจอเลย”
“อ๋อ ทีราอยู่ที่สำนักงานในไร่จ้ะ เย็นๆ ถึงจะกลับ”
“ยัยทีรานี่ขยันจังเลยนะคะ ลุยงานยังกับผู้ชาย ยัยทีราเป็นทอมหรือเปล่า”
“ว้าย ตายแล้วลูกแม่ ทำไมถามน้าอย่างนั้นล่ะ ทีราทั้งสาวสวยแล้วหวานมาก ทำอาหารก็เก่งนะ น้องไม่เป็นทอมหรอกจ้ะ”
“ไม่แน่หรอก เค้าอาจจะแอ๊บก็ได้ ใครจะรู้”
จันทราพยายามที่จะยัดเยียดนทีราให้ผิดเพศให้ได้ รินทรได้แต่ขำในคำพูดของหลานสาว ไม่ได้เก็บมาคิดอย่างจริงจัง
“ผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์จ้ะ”
“อย่างนี้ก็แนะนำผู้ชายให้ได้สิคะ”
“อย่าเลย เรื่องผู้ชายยัยทีราไม่สนใจ มุ่งแต่งาน”
รินทรไม่เห็นด้วยที่หลานสาวจะแนะนำผู้ชายให้กับลูกสาวตนเองเพราะรู้ว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง นึกตำหนิจันทราว่ามีแต่เรื่องเพศตรงข้ามเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จันทรากลับหัวเราะชอบใจเหมือนเห็นว่าเป็นเรื่องตลกที่เธอจะทำให้รินทรใจหายในเรื่องดังกล่าว