บทที่2
บทที่2
หลิวเหว่ยขี่ม้าออกนอกเมืองไปราวกับคนไร้จิตใจ สีหน้าของชายหนุ่มนิ่งสนิท เมื่อตอนย่ำรุ่งยามที่เขาสบเข้ากับดวงตาสวยของเสี่ยวจื้อก็เห็นได้ชัดว่ามันบวมแดง เขารู้ว่านางเสียใจกว่าครั้งก่อนที่เขาไปช่วยจัดการเรื่องอ๋องก่อกบฎ
เรื่องครั้งนั้นไม่ได้เดินทางไปไหนไกลเพราะเรื่องเกิดขึ้นที่เมืองหลวงและเพราะความกล้าหาญที่คนอย่างเขากระทำเมื่อรวมกับเรื่องเก่าในอดีตของบิดาทำให้ในครั้งนั้นเขาได้ตำแหน่งที่ค่อนข้างถือว่าข้ามหน้าข้ามตาใครหลาย ๆ คนแต่เพราะคำพูดของท่านราชครู แม่ทัพหาน และฮ่องเต้ที่ยังคงรู้สึกผิดกับสกุลหยุนในคราก่อนจึงทำให้หลิวเหว่ยได้ตำแหน่งที่มีอยู่มา แม้จะเป็นเพียงนายกองทั่ว ๆ ไป แต่ในเหล่าทหารก็จะรู้ว่าเขามีป้ายพิเศษที่ฮ่องเต้ประทานซึ่งสามารถออกคำสั่งคนที่มียศเดียวกันได้
ทำได้แม้กระทั่งสั่งนายกองคนอื่น หรือแม้กระทั่งตูตู ที่จริงป้ายนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มมีตำแหน่งเทียบเท่ากับเซี่ยตูตู เขาถึงได้มาขี่ม้าอยู่เช่นนี้ไม่ต้องเดินไปกับเหล่าพลทหาร
ชายหนุ่มถอนหายใจน้อย ๆ หากไม่เพราะเรื่องในวัยเยาว์เขาก็คงไม่ต้องพยายามขนาดนี้ คำพูดของท่านราชครูเขาก็เข้าใจ
คนเป็นพ่อทุกคนย่อมเป็นห่วงบุตรสาวของตน แต่ยิ่งฟังท่านราชครูพูดเช่นนั้นแล้ว หากเขายังคงมีแต่ตำแหน่งลอย ๆ มิได้เป็นแม่ทัพมิได้เป็นขุนนางขั้นห้าขั้นสี่แล้วล่ะก็ คนก็คงจะมองเสี่ยวจื้อไม่ดีเป็นแน่ คนคงได้นินทาที่นางไม่รู้จักสรรหาของดีให้ตนหยิบลูกท้อมีตำหนิที่หล่นจากต้น ชายหนุ่มส่ายหัวไล่ความกังวลใจออกไป
“หากจะแต่งกับเสี่ยวจื้อให้ไม่อายใครเจ้าก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง แต่อย่าลืมว่าลูกข้านางรักเจ้ามิต่างจากที่เจ้ารักนาง หากมันไม่สำเร็จจริง ๆ ก็กลับมาอย่าให้นางรอนานไม่เช่นนั้นข้าคงต้องหาคู่ให้นางใหม่คงปล่อยให้นางรอเจ้าเก้อไม่ได้” คำของราชครูเมื่อเย็นวานทำให้หลิวเหว่ยหนักใจ แต่หลินเหว่ยก็ตอบรับกลับไปทันที
“ข้าไม่ทำให้นางต้องรอแน่ ๆ ขอรับท่านลุง”
คนมีอายุถอนหายใจ เขารู้ว่าเรื่องของบุตรสาวและบุตรชายของสหายนั้นมันเกิดขึ้นได้อย่างไร แม้ฮูหยินของเขานางจะดูเหมือนไม่ชอบหลิวเหว่ย แต่แท้จริงแล้วเปิดโอกาสหลายครั้งทั้งยังถามคำถามนำเขาอีกหลายหน ก็คงหมายใจจะช่วยเด็กทั้งสองให้สมหวัง
“หวังว่าเจ้าไปแล้วจะไม่ลืมคำสัญญาที่ให้เอาไว้กับข้าตอนที่มาขอเสี่ยวจื้อนะ”
หลิวเหว่ยยกมือขึ้นเคารพผู้สูงวัยที่อุ้มชูเด็กน้อยไร้ที่พึ่งพิงเช่นเขา
“ข้าสัญญาและสาบานข้าจะไม่มีใคร จะมีเพียงแค่นางอย่างที่เคยได้ให้คำมั่นกับท่านลุงเอาไว้ขอรับ”
คนมีอายุถอนหายใจอีกครั้ง“หากบิดพริ้วแม้แต่น้อยปลายผมของนางเจ้าก็จะไม่มีวันได้เห็นอีก”
หลิวเหว่ยรู้ท่านราชครูเอ่ยเช่นนั้นก็หมายจะเป็นการเปิดโอกาศให้แล้ว แต่ก็ยังไม่วายทิ้งคำเตือนเอาไว้ให้ด้วย
“นายกองขอรับ แม่ทัพบอกให้ตั้งค่ายพัก คืนนี้เราจะพักกันที่นี่ขอรับ” หลิวเหว่ยพยักหน้ารับคำอีกฝ่าย พลางมองไปทั่ว ๆ แม้จะเดินทางมาไกลหลายลี้แต่ดูเหมือนจิตใจของเขาจะยังอยู่แค่ที่เมืองหลวงเท่านั้น
ชายหนุ่มเขียนความรู้สึกลงในม้วนกระดาษที่ซ่อนใส่เอาไว้ในอก
เขาค่อย ๆ คลี่ม้วนกระดาษที่หยิบออกมาจากกระบอกเหล็กที่ถูกสลักลวดลายงดงาม นี่เป็นของไม่กี่อย่างที่เป็นของบิดาแล้วเขาได้เก็บรักษาเอาไว้อย่างดี
‘วันที่หนึ่ง มิเห็นใบหน้าของเจ้ายังไม่ครบสิบสองชั่วยามดวงใจข้าก็ไม่เป็นสุขเสียแล้ว’
ขณะที่คนไกลที่เพิ่งออกเดินทางไปนั้นคิดถึงหญิงสาวอันเป็นที่รัก ลู่จื้อที่ตื่นมาและไปส่งหยุนหลิวเหว่ยเป็นอย่างแรกก็ยังไม่ได้ทำอะไรหลังจากนั้นอีก
นางนั่งเหม่อมองดูนกน้อยสองตัวที่คอลเคลียกัน ภาพของหญิงสาวที่ทุกคนเห็นอยู่ในตอนนี้ราวกับภาพที่สวรรค์สรรค์สร้างบ่าวไพร่ต่างชื่นชม ยกเว้นเจ้าของจวนอย่างราชครูที่มองดูบุตรสาวตนเองเป็นเช่นนั้นแล้วใจมันเศร้าเหลือเกิน
ผ่านไปนับสิบกว่าวันก็มีคนแจ้งข่าวมาทางเมืองหลวงว่าทัพแม่ทัพใหญ่หานพากองทัพเดินทางไปถึงชายแดนแล้ว การแจ้งข่าวกลับมาครั้งนี้มีจดหมายที่ฝากมาให้กับครอบครัวด้วย
“เสี่ยวจื้อจดหมายจากพี่หลินเหว่ยน่ะลูก” ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของฮูหยินผู้ที่อยู่เบื้องหลังความรักของบุตรสาวและบุตรชายของสหายสามี เดินยิ้มร่าเข้ามาหาคนเป็นลูก เพราะนางนั้นรู้ดีว่าลู่จื้อรอจดหมายนี้มากแค่ไหน
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่” หญิงสาวเปิดจดหมายออกอ่านอย่างรวดเร็ว
‘เดินทางถึงค่ายพักทหารแล้ว ความเป็นอยู่ดีว่าที่คาดไว้เจ้ามิต้องกังวล อยากจะพรรณนาความคิดถึงลงกระดาษให้เจ้ารู้ แต่กระดาษเพียงเท่านี้คงไม่เพียงพอจะบรรยายถึงความรู้สึกที่พี่มีต่อเจ้าได้จึงเขียนเป็นบันทึกเอาไว้ เมื่อวันที่พบเจอเจ้าอีกคราจะให้เจ้าอ่านให้หน่ำใจ’
เมื่อเห็นบุตรสาวอมยิ้มเมื่อได้อ่านจดหมายนั่นคนเป็นแม่ก็สบายใจ นางใช้เวลานานนับปีหยั่งเชิงสามีของตน
เพราะเป็นคนมีความรู้จึงคิดรอบครอบแม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีอะไรคู่ควรกับบุตรสาวของตนแต่เหลียงฮูหยินก็เอาความรู้สึกของลู่จื้อเป็นที่ตั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีของนางจากทำหน้านิ่ง ๆ สุดท้ายก็จะยอมให้ทั้งสองทำสัญญาหมั้นหมายเอาไว้ก่อน แม้ว่ามันจะยังไม่ได้ยืนยันอะไร แต่แค่นี้สำหรับหลิวเหว่ยก็คงเพียงพอแล้ว