บทที่3 หนีหน้า
อากาศช่วงเดือนเมษายน มาพร้อมกับอุณหภูมิที่สูงเกือบ40องศา มันช่างร้อนอบอ้าว ไร้ลม ไร้ความเมตตาปรานีกับผิวบางๆเป็นที่สุด ภายใต้ป้ายรถเมล์มีผู้หญิงสวยสมส่วนสูงราวๆ165 cm สวมชุดพนักงานbcสีดำ ขับเน้นหน้าอกเต่งตึง เอวคอด ผมดำยาวสลวยถูกมัดไว้ข้างหลังเป็นหางม้า ผิวขาวอมชมพู.. หน้าสวยหวานซับสีชมแดงระเรื่อจากอากาศร้อนจัด เหงื่อซึมไรผม ส่งผลให้หญิงสาวดูเซ็กซี่ขึ้น บรรดาชายทั้งหนุ่มทั้งแก่ต่างหันมามองตาวาว
"อื่อหือ ดาราปะวะแก สวย ชิบหาย"
"กู.. ว่าสวยกว่าดาราอีกวะ" เสียงซุบซิบนินทารอบป้ายจอดรอรถเมล์
"ทราย.. นั้นทรายนี้" เสียงหวานใส ถูกส่งมาจากรถมินิคูเปอร์สีชมพู เมื่อเห็นสาวสวยหุ่นดี ผิวขาวโดดเด่นใต้ป้ายรถเมล์ ...ด้านหลังกระจกมีหญิงสาวหน้ากลม ดวงตาคมเหมือนดวงตาที่ปล้ำเธอแทบทั้งคืน มือน้อยๆโบกหยองๆ เธอจะหลบก็หลบไม่ทัน ได้แต่ส่งยิ้มเหยๆกลับไป
"ทรายกำลังไปไหน.. ไปกับเราซิ.. เดี๋ยวเราให้พี่เคนไปส่ง...เราพึ่งเสร็จธุระพอดี" วาลุกาได้ยินชื่อแฟนเพื่อนถึงกับโล่งใจ
พร้อมส่งยิ้มสดใสให้เพื่อนรัก อย่างน้อยก็ไม่ใช่พี่เพลิงที่เธอนึกกลัว ผู้ชายที่ร้อนแรงคนนั้น คนที่ทำให้เธอหลอมละลาย ทำให้เธอแทบลุกไม่ขึ้น หน้าสวยขึ้นสีเมื่อคิดถึงชายหนุ่ม วาลุการีบสาวเท้าไปหาเพื่อนรักก่อนไหว้สวัสดีพี่เคนอย่างเรียบร้อย
"ขึ้นรถเลยครับ" ชายหนุ่มยิ้มอย่างอารมณ์ดี หญิงสาวแอบดีใจที่ได้เจอเพื่อนรัก วันนี้รถเมล์สายที่ขึ้นประจำมาช้ามาก.. แถมยังต้องเบียดเสียดกันขึ้นจนแทบตกรถเมล์
"ขอบคุณนะน้ำ..ขอบคุณนะคะพี่เคน" วาลุกาหันไปไหว้ขอบคุณแฟนของเพื่อน ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เพื่อนรัก เธอกับสายชลเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่มัธยม มีหลายคนแปลกใจที่เราเป็นเพื่อนรักกันได้
ด้วยสายชลเป็นลูกคุณหนู ครอบครัวเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าเครือข่ายระดับโลก ธุรกิจในกรุ๊ปก็มีหลายแขนง โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ตระกูล จารวรี กวาดไปกว่า1ใน3ของตระกูลชื่อดังในประเทศ
เนื่องจากสายชลเป็นลูกสาวคนสุดท้อง พ่อกับแม่หวงและห่วงมากที่สุด นั้นเลยเป็นเหตุผลทำให้สาวน้อยไม่มีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศเหมือนพี่ๆเขา
วาลุกาเองจึงมีโอกาสรู้จักกับเพื่อนรักตอนเรียนรร.รัฐชื่อดังของประเทศ ด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยยิ้ม นิสัยติดเย็นชา บวกกับเป็นเด็กทุนทำให้ใครๆต่างไม่ค่อยกล้าเข้าหา ถึงแม้เธอจะสวยหวานปนเซ็กซี่มากแค่ไหนก็ตาม ผู้ชายที่ตามจีบเธอนั้นนับไม่ถ้วน แต่เพื่อนผู้หญิงกับน้อยมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสายชล หญิงสาวตาคมผู้ร่าเริงสดใสคนนี้นั้นเอง
สองสาวต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สายชลสอบติดมหาวิทยาลัยระดับประเทศได้ ส่วนนึงก็มาจากวาลุกา ในขณะเดียวกันเวลาวาลุกามีปัญหาก็มีมือน้อยๆคู่นี้ยื่นเข้ามาอย่างไม่ลังเล
"อื่ออ ทรายเธอจะมาเกรงใจเราทำไม.. เราเพื่อนเธอนะ" น้ำทำหน้ามุ่ย ก่อนที่เพื่อนสาวจะยิ้มหวานออดอ้อน
"แหม เราเกรงใจนี้นา .. น้ำกับพี่เคนต้องเสียเวลาไปส่งเราอีก"
"ไม่เสียเวลาหรอก เราพึ่งทำธุระที่บ้านพึ่งเสร็จ ว่างมากก ว่างพอดี เนอะๆพี่เคน" หญิงสาวตามคมหาพวกสนับสนุน
"คร้าบบ ที่รักว่าไงก็ว่าตามกัน"
"พี่เคน!!!" สายชลอุทานหน้าแดง เมื่อชายหนุ่มเย้าแหย่
"อื่อ ว่าแต่น้องทรายยิ้มสวยจังนะครับ พี่ไม่ค่อยเห็นยิ้มเลย ยิ้มบ่อยๆซิครับ"
"ใช่มั้ยล้าา ยัยทรายยิ้มสวยมากกเหมือนแบบที่น้ำบอกเลยใช่มั้ยละคะ"
"นี้เธอเอาเราไปเม้าส์เหรอ" วาลุกาก้มหน้างุด แก้มขาวใสแดงระเรื่อ
"ก็เธอไม่ค่อยยิ้มไง ชอบทำหน้าเย็นชา.. หนุ่มๆเลยไม่กล้าจีบ ได้แต่เต๊าะๆ.. ฉันจะให้พี่เคนหาแฟนให้เธอแล้ว.. เธอจะได้ไม่เหงา" หญิงสาวฟังแล้วรีบส่ายหัวทันทีเมื่อเพื่อนพูดจบ
"ไม่เอาอะ ฉันไม่อยากมีแฟน แค่ทุกวันนี้ก็แทบไม่มีเวลาแล้ว" ปากตอบอย่างแต่สมองไพล่นึกไปถึงพี่ชายของคนตรงหน้า
ตอนนี้พี่เพลิงจะคิดถึงเราเหมือนเราคิดถึงพี่เขามั้ยนะ
เช้าวันนั้นเธอตกใจตื่นพร้อมกับอาการมึนหัวขั้นรุนแรง แต่วาลุกานั้นจำเหตุการณ์ได้ทุกอย่าง เธอจะไม่แสร้งว่าเมาแล้วลืม.. แล้วโยนความผิดให้กับพี่เขา เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอทั้งยั่วยวน เสนอตัว..พร้อมแก้ผ้ากระโจนใส่ผู้ชายเอง.. 'พี่เพลิง' ผู้เป็นดั่งไฟที่พร้อมจะเผาผลาญเธอให้มอดไหม้
เธอเองไม่เคยคิดมาก่อนว่าร่างกายของเธอจะไวต่อความรู้สึก สัมผัสแผ่วเบาทำให้เธอแทบคลั่ง พี่เขาสัมผัสทุกส่วนที่เจ้าของแบบตัวเธอเองไม่เคยรู้ .. ถึงพี่เขาด่าเธอว่า 'ร่าน' เธอกลับไม่นึกโกรธ เพราะคืนนั้นเธอเป็นแบบนั้นจริงๆ แม้แต่ช่วงเวลาที่พี่เขาหมดแรง ..ร่างขาวผ่องอมชมพูยังเบียดเสียด มือคู่สวยพยายามปลุกปั้นเจ้ามังกรน้อยให้ตั้งผงาด จนชายหนุ่มคำราม แล้วเจ้ามังกรน้อยก็พาเธอแทบคลั่ง แถมยังจัดให้เธออีกหลายยก..ก่อนที่จะพากันสลบไป
วาลุกาไม่รู้ว่าตัวเธอเป็นอะไร.. ยิ่งไม่รู้ว่าจะจัดการกับเหตุการณ์ตรงหน้านั้นยังไงดี.. ที่ทำได้คือรีบแต่งตัวแล้ว.. 'หนี' ทิ้งกลิ่นร่วมรักชวนมึนเมากระจายเต็มห้อง
'ฉันจะไม่แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดชีวิต' เธอสัญญาในใจ
"ทราย.. ทราย.. เห้ย.. ทรายได้ยินมั้ย"หญิงสาวสะดุ้งโหยง ก่อนทำหน้ามุ่ยส่งไปให้เพื่อนสาว
"อื่อ มีไรจ๊ะยัยน้ำ เรียกเบาๆก็ได้"
"ฉันเรียกเธอ.. เธอก็ไม่ตอบฉัน มัวแต่เหม่อ.. เอ๋หรือคิดถึงใครอยู่น้าา"สายชลทำหน้าเจ้าเล่ห์
"บ้าเหรอ.. ฉันจะคิดถึงใครละ วันๆทำแต่งาน กับคิดเรื่องเรียน" ดวงตาคู่สวยอมโศกเสมองไปทางอื่น ใบหน้าขาวสวยซับสีชมพูจางๆ
"จ้าาา แม่เด็กนักเรียนทุน... ไม่ใช่อะไรหรอกจ๊ะ ฉันจะถามเธอว่าเธอไม่อยู่หอแล้วเหรอ"
"อื่อ ช่วงปิดเทอมนี้ฉันกลับไปอยู่บ้านนะ"
เมื่อคิดถึงบ้าน.. มันทำให้เธอรู้สึกเศร้า..บ้าน..สถานที่..ที่ว่างเปล่า.. และไร้ตัวตน ถึงแม้เธอจะพยายามใช้ชีวิตให้ดีแค่ไหนก็ ..พยายามเป็นคนดี คนเก่ง พยายามไม่สร้างปัญหากับใคร..เป็นความพยายาม..ที่มาพร้อมความว่างเปล่า.. แท้จริงแล้วในใจลึกๆ เธอแค่ต้องการใครสักคนที่โอบกอดเธอ.. ภูมิใจในตัวเธอ.. แค่นั้นจริงๆ
"ว่าแต่..น้ำถามทรายแบบนี้ทำไมเหรอ?" หญิงสาวรีบเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะถามกลับไปด้วยความสงสัย
"เมื่อวันเสาร์นะดิ.. เราให้พี่เพลิงไปส่งที่หอทราย วันนั้นโทรไปทรายก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ.. ช่วงนี้เป็นอะไรเหรอ มีอะไรอยากเล่าให้น้ำฟังหรือเปล่า" สาวน้อยหน้ากลมตาคมถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย เพราะเธอรู้เรื่องครอบครัวของวาลุกาเป็นอย่างดี หญิงสาวรีบส่ายหน้ากับคำถามเพื่อน
"ไม่มีอะไรๆ พอดีช่วงนี้เรายุ่งเรื่องงานอะ รีบรับจ๊อบเก็บเงินก่อนเปิดเทอม กลัวปี4 ไม่มีเวลาหาเงิน.."
หญิงสาวหน้าตื่นเหมือนคนมีชนักติดหลัง..จะให้บอกได้ยังไงละ ว่าเธอหลบหน้าพี่ชายของเพื่อนรักอยู่ เราเอากันทั้งคืน.. เรื่องแบบนี้พูดกันได้ที่ไหน.. ดีไม่ดีสายชลอาจจะเสียความรู้สึก..ทั้งยังคิดว่าเธอตามจับพี่ชายสุดที่รัก..จนเธออาจต้องเสียเพื่อนที่สนิทที่สุดคนนี้ไปก็ได้
"พี่เคนคะ ..ทรายรบกวนจอดที่หน้า bts สถานีหน้าด้วยนะคะ.. พอดีนึกได้ว่ามีธุระอยู่" หญิงสาวรีบชี้โบ้ชี้เบ้ไปหน้าห้างสรรพสินค้าที่ติดกับสถานี
"อ้าว เดี๋ยวซิทราย อะไรเนี่ยนึกจะไป..ก็ไปแบบนี้นะเหรอ" รถมินิคูเปอร์สีชมพูจอดเอี๊อด ตามคำสั่งของหญิงสาว วาลุการีบหยิบกระเป๋ากุลีกุจอเปิดประตูลงจากรถ
"โทษทีตัว เราพึ่งนึกได้ว่ามีธุระ.. ไว้ยังไงเราโทรหานะ"
"เดี๋ยวก่อนซิทราย!! แล้วเสาร์หน้าเธอจะกลับหอมั้ย เราเหงาอยากหาคนไปเดินเที่ยว"
"โอเค งั้นเจอกันวันเสาร์.. บ๊ายๆจ้า"ไม่ทันที่สายชลจะได้พูดอะไรต่อเพื่อนรักก็หายลับตาไปซะแล้ว
ณ ห้องทำงานรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตระกูลจารวรี
"วิโรจน์ไฟล์วิดีโอที่ฉันให้อัดไว้ได้หรือยัง"เสียงขรึมส่งคำถามผ่านอินเตอร์คอม 'วิโรจน์' ที่เขาพูดถึงคือเลขาชายที่คอยดูแลเขาตั้งแต่เขาพึ่งเรียนจบจากอังกฤษ
"ผมส่งไปให้ตั้งแต่ต้นอาทิตย์ อยู่ในถุงกระดาษสีน้ำตาลเล็กๆบนโต๊ะครับนาย"เสียงเลขาชายตอบกลับอย่างสุภาพ แต่คำตอบเล่นเอาหนุ่มหล่อหัวเสีย
"อ้าว แล้วทำไมแกไม่รีบบอกฉัน!!"
"ผมบอกนายแล้วนะครับ แต่อาทิตย์นี้นายงานยุ่งมาก" ชายหนุ่มเงียบไป ก่อนนึกได้ว่าเลขาเคยบอกเขาไว้ก่อนหน้านี้จริงๆ แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาเขางานยุ่งจนหัวหมุน .. ยุ่งจนแทบปลีกเวลาไปหาสาวสวยที่คิดคำนึงถึงไม่ได้
"เออๆ ขอบคุณมาก อาทิตย์นี้ฉันงานยุ่งจริงๆ" ชายหนุ่มปิดอินเตอร์คอม.. มือหนาสากลูบหน้า นิ้วเรียวยาวเคาะโต๊ะ
ดวงตาคมมีแววครุ่นคิด 'แฟลชไดฟ์' ที่เขาหมายถึง คือคลิปวิดีโอช่วงงานเลี้ยงปิดภาคเรียนปี3 ..งานเลี้ยงที่ทำให้เขาได้จัดการกับสาวสวยที่หมายตา แต่มันคือคลิปที่ทำให้เขาลำบากใจที่จะเปิด.. เพราะใจนึงก็นึกกลัว..ใจนึงก็อยากรู้ความจริง..
เขากลัวจะพบอะไรบางอย่าง.. ถ้าเขาเลือกจะปิดหูปิดตา.. เขาเองก็ยังจะหลอกตัวเองได้.. ว่าเขาไม่ใช่นายอัคนีที่เอาเปรียบผู้หญิง.. แต่เป็นผู้หญิงคนนั้น.. เพื่อนรักของน้องสาวที่วางกับดักเพื่อดักเขาให้ตกหลุมพรางต่างหาก
แต่พฤติกรรมของวาลุกาทำให้เขาประหลาดใจ..ทำไมเธอต้องหนี.. ถ้าเป็นเพราะเธอต้องการจับเขา.. ทำไมเธอถึงหายไป.. ทำไมเขาโทรหาแล้วเธอไม่รับ.. ไลน์หาก็ไม่อ่าน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอบล็อกการติดต่อจากเขาไปแล้วหรือยัง
น้องทรายคนสวยของเขาอาจจะโกรธเขาไปแล้วก็ได้ เพราะเหมือนเขาเอาเปรียบเธอ.. รุกล้ำเข้าไปในตัวเธอ ตอนเธอกึ่งๆไม่ได้สติ .. เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรอยู่
ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนตัดสินใจเปิดแฟชไดฟ์ในคอม ..เขาพยายามนึกถึงช่วงเวลาที่เจอเธอ ก่อนที่จะไล่เวลากลับไป.. ตั้งแต่ช่วงที่หนุ่มๆสาวๆกินดื่ม เล่นน้ำ.. แล้วเขาก็พบความจริง..
'ใช่ เธอโดนวางยา!!!'
อัคนีหน้าซีดเขาไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะข่มขืนผู้หญิง ..แม้จริงๆจะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดก็เถอะ.. เธอคงผิดหวัง.. โกรธ.. เสียใจมากแน่ๆ.. แต่อีกอารมณ์ที่เขารู้สึกคือความกรุ่นโกรธ .. เขาโกรธผู้ชายสองคนนั้น.. โกรธที่มันกล้ายุ่งกับผู้หญิงที่เขาหมายตาไว้
ถ้าวันนั้นเขาไม่ไปที่งาน.. ถ้าเขาแม้แต่ขี้เกียจจะออกจากห้อง วาลุกาอาจจะโดนไอ้เหี้ยสองคนนี้จัดหนัก.. เนินเนื้อนวลที่เขาเคล้นคลึงอยากมันส์มือ โหนกใหญ่สีชมพูแสนสวยคงชุ่มฉ่ำด้วยน้ำรักของผู้ชายคนอื่น.. แค่คิดว่าของที่เป็นของเขาตกในมือคนอื่น..ในใจยิ่งลุกโชนด้วยความโกรธ..มือไวเท่าใจคิด ชายหนุ่มกดโทรศัพท์หาลูกน้องคนสนิทเพื่อมอบหมายงานบางอย่างทันที.. โชคดีของเขา ที่น้องทรายคนสวยเจอเขาก่อน และดีที่เธอยังไม่เป็นอะไร ไม่อย่างงั้นไอ้สองตัวนั้นได้ตายของจริงแน่
เสียงเปิดประตูถูกเปิด พร้อมกับร่างบอบบางของสายชล
"พี่เพลิงงงงง..จ๋าา" เสียงหวานใสถูกส่งมาจากน้องสาวสุดที่รัก ก่อนที่เจ้าตัวจะถลามาถึงหน้าโต๊ะทำงาน
"ว่าไงยัยแสบนึกยังไงถึงมาหาพี่ได้" น้ำเสียงติดจะหงุดหงิด ยังคงค้างในอารมณ์กับเรื่องที่เกิดขึ้น .. คำว่า 'เพื่อนน้องสาว' มันเป็นอะไรที่ชวนปวดหัว.. เพราะถ้าแค่จีบกันแล้วเลิกกัน .. มันคงเป็นเรื่องปกติ.. แต่ถ้าน้ำรู้ว่าเขาจัดหนักกับเพื่อนของเธอตอนที่ไม่มีสติ.. น้ำอาจโกรธเขามาก.. ที่สำคัญไม่ใช่แค่ 'เพื่อน' ธรรมดา แต่ดันเป็นเพื่อนรักด้วย
ตอนที่เขาเรียนต่างประเทศ น้องสาวตัวดีก็เอาแต่โม้ถึงเรื่องของสาวน้อยคนสวย เขารู้จักวาลุกาก่อนจะมาเห็นตัวจริงเสียอีก อาจเพราะสายชลเป็นลูกหลง ห่างจากเขา8ปี ห่างจากพี่เมธิณี10ปี ทำให้พวกๆพี่ทั้งรักทั้งห่วงความรู้สึกของน้องคนนี้เป็นที่สุด
"อะไรคะเนี่ยย พี่ชายสุดหล่อ.. น้องมาถึงก็ทำหน้าเครียดเลยนะ"สายชลโยนกระเป๋าชาแนลไว้บนโซฟาสีดำ ก่อนจะอ้อมไปข้างแพนทีนเพื่อเปิดตู้เย็นเอาน้ำส้มหวานๆเย็นมากินให้ชื่นใจ
"เห้ออ ค่อยหายร้อนหน่อย.. เนี่ย...ไม่รู้ยัยทรายทนเดินทางในวันอากาศร้อนจัดขนาดนี้ได้ไง ..เอาจริงนะ.. แค่น้ำเดินจากลานจอดรถเข้าห้าง.. น้ำยังร้อนจนแทนทนไม่ไหวละ" อัคนีถึงกับหูผึ่ง เมื่อได้ยินชื่อหญิงสาว
"หืมม.. น้ำเจอทรายเหรอ"
"ใช่ดิพี่ ตอนแรกน้ำไปทำธุระให้แม่เสร็จแล้ว ดันไปเจอทรายยืนรอรถเมล์ที่ห้างa น้ำเลยอาสาพานางไปส่งที่บ้าน.. แต่ที่ไหนได้..พอถึงหน้าห้างเรา ยัยเพื่อนรักดันชิ่งหนีขึ้นbtsไปซะงั้น.. ทิ้งให้น้ำเซ็งๆอยู่เนี่ย.. เลยนึกขึ้นได้วันนี้พี่เข้าบริษัท..เลยกะแวบมาป่วนพี่นี้แหละ" สายชลพูดน้ำไหลไฟดับ
"แล้ว..ทรายเป็นไงบ้างละสบายดีมั้ย"ชายหนุ่มหน้าเครียด
"ก็เหมือนเดิมแหละพี่ บ้างาน..ช่วงนี้นางกลับบ้านไม่ได้อยู่หอ.. จะกลับวันเสาร์นี้ละ เนี่ยน้ำยังนัดทรายว่าจะไปเดินช็อปปิ้งซะหน่อย ไปคนเดียวโคตรเหงาเลย"
"วันเสาร์??" คนตาคมฉายแววครุ่นคิดก่อนพึมพำ
"หืมม หมายถึงอะไรคะพี่เพลิง"
"เปล่าๆ ไม่มีอะไร.. ถ้าน้องน้ำคนดีของพี่เพลิงบ่นเสร็จ พี่ขอเรียนอัญเชิญคนสวยของพี่กลับบ้านนะ.. พี่จะรีบปั่นงาน.. พี่พึ่งนึกได้วันเสาร์พี่มีธุระสำคัญต้องรีบจัดการ"น้ำเสียงช่วงท้ายติดอารมณ์ดี มันทำให้น้องสาวสุดที่รักออกจะงงงวยกับพฤติกรรมของพี่ชายที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย