บทที่ 7 ผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อ
10 นาทีต่อมา——
แลมโบกินีลดความเร็วลงเพื่อเข้าลานจอดรถ
ที่นี่คือที่พักของกรินทร์ นายแพทย์ส่วนตัวของเขา และเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่ภีมพลไว้ใจที่สุด
หลังจากส่งตัวอย่างให้เขา ภีมพลก็นั่งรอผลที่โซฟาอย่างอดทน และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ความรักและความสัมพันธ์ที่เขามีกับเธอเมื่อ 7 ปีก่อนลอยเข้ามา......
เมื่อนึกไปถึงรายละเอียดบางอย่าง ในร่างกายของเขาก็ร้อนระอุขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุและนิ้วเรียวยาวก็ยกขึ้นมาถูจมูก
10 นาทีต่อมา——
กรินทร์ที่สวมเสื้อคลุมยาวสีขาวเดินออกมาพร้อมกับยื่นผลการพิสูจน์ 2 ใบในมือให้กับเขา “คุณภีม คุณลองดูสิ”
ภีมพลยื่นมือออกไปรับ เขากวาดสายตาคมกริบมองดูเนื้อหาด้านบนและในที่สุดก็ถึงบรรทัดสุดท้าย——
ความน่าจะเป็นของการเป็นบิดา 99.9999999%
ก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่การคาดเดา แต่ตอนนี้มีหลักฐานอย่างแท้จริงแล้ว ดังนั้นความรู้สึกของภีมพลจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงไป ทั้งประหลาดใจและไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร
เมื่อตอนที่ผลออกมา กรินทร์เองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน
ทุกคนในโลกต่างรู้ดีว่าคุณภีมไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับผู้หญิงเลย นอกจากนั้น เขายังเย็นชาและไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนอีกด้วย
ผู้หญิงคนไหนกันนะ ที่เข้าใกล้เขาได้? แถมยังมีลูกกับเขาอีกต่างหาก?
“ขอบคุณนะ” ภีมพลแตะไหล่เขาเบาๆ แล้วเดินจากไป
กรินทร์มองไปยังแผ่นหลังที่เดินจากไป นานมาแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกถึงเรื่องฉับพลันอะไรเช่นนี้
สวรรค์!
นี่มันข่าวใหญ่มากๆ เลยนะเนี่ย! !
แลมโบกินีขับกลับไปที่เอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า
ภีมพลถือผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อทั้ง 2 แผ่นไว้ เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องคืนนั้นของเมื่อ 7 ปีก่อน และยังนึกไปถึงผู้หญิงคนนั้น ที่ไม่รู้ว่าคือโชคดี หรือ โชคร้ายของเธอ
ตอนนั้น เขาจงใจทิ้งแหวนเอาไว้ให้วงหนึ่ง แต่เธอกลับไม่ยอมมาหาเขาเลย!
สิ่งนี้เพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ภีมพลสรุปได้ว่า เธอไม่เหมือนกับคนทั่วๆ ไป
ผู้หญิงที่ชื่อนภาลัยคนนี้ เป็นคนเดียวที่เขาเข้าใกล้เธอแล้วไม่รู้สึกรังเกียจ เรื่องนี้ แม้แต่ตัวภีมพลเองก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพราะอะไร
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปยังเบอร์หนึ่ง จากนั้นจึงสั่งด้วยเสียงเบาๆ “หาข้อมูลของผู้หญิงที่ชื่อนภาลัยให้ผมหน่อย เธออาศัยอยู่ที่หมู่บ้านซันไลต์ และผมต้องการข้อมูลทั้งหมดของเธอ!”
ระหว่างทางกลับบ้าน ภีมพลก็ยอมรับความจริงที่ว่ามีเด็กสองคนนั้นอยู่
เมื่อกลับมาถึงวิลล่า สิ่งแรกที่เขาทำก็คือเปลี่ยนนาฬิกาโทรศัพท์ที่ข้อมือของเด็กๆ ให้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่สุดแสนจะเท่
เมื่อปิดนาฬิกาลงและไม่มีสัญญาณ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องร้อนใจและมาถึงที่นี่แน่ๆ
ณ หมู่บ้านซันไลต์
นภาลัยนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่ว่าจะนอนอย่างไร เธอก็นอนไม่หลับ เธอจึงมาพิงอยู่ที่ใต้ต้นซากุระด้วยความโกรธและเด็ดกลีบดอกไม้สีชมพูอันสวยงามซ้ำแล้วซ้ำเล่าประหนึ่งว่ากำลังระบายความโกรธที่มีต่อภีมพล
เมื่อนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่อยู่ร่วมกันกับเด็กๆ มาตลอด 6 ปี เธอก็ไม่สามารถหลับตาลงได้
เธอจะเต็มใจได้อย่างไรในเมื่อดวงใจของเธอถูกแย่งไป?
คาดไม่ถึงเลยว่า พอจะโทรเข้าไปที่นาฬิกาโทรศัพท์ของเด็กๆ ก็กลับปิดเครื่องไปซะอย่างนั้น! นิสัยไม่ดีกันหมดเลย! พอมีพ่อก็ลืมแม่!
ไหนเคยสัญญาไว้ว่าจะไม่ปิดเครื่องตลอด 24 ชั่วโมงไง ไม่รู้ว่าเพราะโดนขมขู่บีบบังคับหรือเปล่าเนี่ย!
ข่มขู่บีบบังคับ?
การคาดเดานี้กลับเข้ามาในหัวของนภาลัยอีกครั้งและเธอก็ได้ข้อสรุปที่น่าตื่นตาตื่นใจ : ภีมพลไม่คิดที่จะให้เด็กๆ กลับมาแล้ว!
“สาวิน” อยู่ๆ เธอก็ตื่นตระหนกและพุ่งเข้าไปในบ้านไม่ไผ่พร้อมทั้งตะโกน “ฉันจะเข้าไปในเมืองนะ! ไปก่อนนะ!”
“อาจารย์! อย่าเพิ่งทำอะไรหุนหันพลันแล่น! รออีกสักหน่อยเถอะ!”
“รอไม่ได้แล้ว!”
นภาลัยเข้ามาในเมืองด้วยความหุนหันพลันแล่น เธอเดาว่า ภีมพลจะต้องไม่พาเด็กๆ ไปที่บริษัทแน่ๆ คงจะต้องไปที่เอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่าอย่างแน่นอน
เขาคือพ่อของเด็กๆ เพราะฉะนั้นเขาอยู่ที่ไหน นภาลัยจึงรู้ชัดอย่างกระจ่างชัดอยู่แล้ว
นภาลัยสงบสติอารมณ์และคิด แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะกลัวว่าถ้าหากเด็กๆ ไม่ยอมกลับไปกับเธอล่ะ จะทำอย่างไรดี?
แล้วถ้าเกิดภีมพลไม่ยอมปล่อยเด็กๆ ไป จะทำอย่างไรดี? ในที่ของเขา เขาจะต้องรวมพลังกันแน่ๆ!
เธอคิดหาวิธีที่จะเชื่อถือได้มากไปกว่าการขโมยเด็กไม่เจอ!
ใช่! ขโมย!
ณ เอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า วิลล่าที่ภายในสดใสพร่างพราว
ภีมพลแนะนำฐานะของเด็กๆ ต่อพ่อบ้านและเหล่าคนใช้อย่างยิ่งใหญ่
“สวัสดีครับ/ค่ะ คุณชายแชมป์! สวัสดีครับ/ค่ะ คุณหนูขวัญข้าว!”
ทุกคืนยืนเรียงแถวคำนับเด็กๆ ด้วยความเคารพ ทุกคนรู้สึกดีใจแทนคุณภีมและตระกูลกงพลีจากใจจริง!