บทที่ 1 กระตุกหางเสือ
กลุ่มอาคารทีเอ็ม กรุ๊ปที่สูงเสียดฟ้า ช่างดูน่าเกรงขามนักภายใต้แสงแดดอันสาดส่อง
ภีมพลหน้าตาหล่อเหลารูปร่างที่กำยำพร้อมด้วยความสูงเกือบ 190 ซม. เขาก้าวเดินด้วยท่าทางที่น่าเกรงขามไปที่ด้านนอกห้องโถงพร้อมออร่าที่น่าหวาดกลัวที่แผ่ไปทั่ว
ด้านหลังของเขา ตามมาด้วยบอดี้การ์ดชุดดำกลุ่มหนึ่งที่ดูสุภาพเคร่งขรึม และวริศ ผู้ช่วยของเขา เขาทิ้งการประชุมการเงินนานาชาติที่เตรียมตัวมากว่าครึ่งปีด้วยความประณีตเพียงเพื่อไปจับคนคนหนึ่งที่หมู่บ้านที่ยากจน!
พวกเขาขึ้นรถไปท่ามกลางสายตาประหลาดใจของเหล่าพนักงานในบริษัท
โรลส์-รอยซ์ รุ่น limited-Edition กำลังมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่ยากจนที่สุด ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองไนร์ก้า——หมู่บ้านซันไลต์!
10 นาทีก่อนหน้า มีแฮกเกอร์แอบแฮกเข้าคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของภีมพล และขโมยแผนงานที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้ของโครงการท้องฟ้าสีครามไป
นอกจากฝั่งตรงข้ามจะทำให้ตำแหน่งของเขาต้องเสื่อมเสียแล้ว ยังบอกอีกด้วยว่า ถ้าจะเอาโครงการท้องฟ้าสีครามกลับคืน ต้องให้ภีมพลมาด้วยตัวเองเท่านั้น มิเช่นนั้น ก็จะเอาโครงการนี้ไปขายให้กับคู่แข่ง
เรื่องนี้ ภีมพลไม่สามารถรอช้าได้ และครั้งนี้ก็ยังเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เขาถูกคนจูงจมูก
เขานั่งอยู่ที่เบาะหลังในรถ สายตาอันแหลมคมจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ คนที่หยิ่งยโสและเย็นชาเช่นเขา ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆออกมาเลย
“ท่านประธานครับ ภูมิประเทศของหมู่บ้านซันไลต์เป็นที่ราบ มีภูเขาทอดยาวติดต่อกันล้อมรอบไว้เป็นพื้นที่แอ่งกระทะ ชาวบ้านทำมาหากินด้วยการปลูกสมุนไพรจีนและต้นทานตะวัน จากข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นหมู่บ้านที่ยากจนหมู่บ้านหนึ่ง 2ปีที่ผ่านมานี้ สภาพเศรษฐกิจถึงเพิ่งจะดีขึ้นมาหน่อย......”
ผู้ช่วยวริศรายงานสถานการณ์ของหมู่บ้านให้เขาทราบ หลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เนื่องจากโครงการท้องฟ้าสีครามนี้ คือโครงการที่จะชี้ชะตาอนาคตของทีเอ็ม กรุ๊ป
ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากภีมพล เขานั่งหลังพิงเบาะรถ สายตาดูเย็นชาเล็กน้อย
เข้าไปในหมู่บ้านได้เพียง 500 เมตร ริมถนนก็มีบ้านไม้ไผ่เล็กๆอยู่
แสงแดดอันอบอุ่นที่สาดส่อง นภาลัยกำลังตากสมุนไพรที่เพิ่งจะขุดกลับมาและทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย กลิ่นหอมอ่อนๆของสมุนไพรกระจายฟุ้งไปในอากาศ
ลักษณะของเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นในหมู่บ้านอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือ ที่มีดวงตาเหมือนอัญมณีคู่หนึ่งอยู่ ดูแล้วช่างสวยงามหมดจดราวกับไม่ได้กินอาหารของมนุษย์
ทานตะวันในทุ่งออกดอกบานสะพรั่งสวยสดงดงาม ท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาวนั้น ให้ความรู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก เวลาเช่นนี้ช่างสงบสุขดีจริงๆ
“คุณแม่!”
เสียงเด็กน้อยที่ฟังดูไร้เดียงสาดังกระทบหู เมื่อนภาลัยได้ยินจึงหันมามองเจ้าของเสียงพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
แฝดชายหญิงอายุ 5-6 ขวบคู่หนึ่งเดินจูงมือกันมาหาเธอ ดวงตากลมโตเหมือนอัญมณีสีดำสองคู่นั้น ช่างดูงดงามคล้ายกับทะเลหมู่ดาว
“คุณแม่ครับ! ผมกับขวัญข้าวขอไปเล่นที่บ้านธารณ์แป๊บนึงนะครับ!” แชมป์เสียงดังฟังชัด สายตาเปล่งประกายสดใส
“ไปเถอะจ๊ะ” หญิงสาวลูบหัวของเด็กๆด้วยความรักใคร่เอ็นดู “ถึงเวลากินข้าวต้องกลับมานะจ๊ะ คำสอนข้อแรกของตระกูลแตงมณ ห้ามไปรบกวนคนอื่นมากจนเกินไปนะจ๊ะ!”
“จำได้แล้วค่ะ!” ขวัญข้าวในชุดกระโปรงสีชมพูยิ้มอย่างเชื่อฟัง “ไปแป๊บเดียว เดี๋ยวก็กลับมาแล้วค่ะ!”
“เก่งมากจ๊ะ งั้นก็ไปเถอะจ๊ะ”
เด็กๆจูงมือกันพร้อมกับกระโดดด้วยความดีใจและหันหลังวิ่งออกไป
มองดูเงาทั้งสองที่วิ่งห่างออกไป นภาลัยก็ยิ้มมุมปากด้วยความปลาบปลื้มและเอ็นดู ความภูมิใจที่สุดในชีวิตนี้ของเธอก็คือการที่ได้ให้กำเนิดเด็กน้อยทั้งสองคนนี้มา
หลังจากเดินไกลออกไป ขวัญข้าวก็ก้าวช้าลงแล้วถามอย่างลึกลับว่า “พี่ พี่ว่าคุณพ่อจะมาจริงๆไหม?”
“ฉันแฮกเข้าระบบของเขาแล้ว” แชมป์ตบหน้าอกตัวเองอย่างลำพองแล้วพูดว่า “ฉันขโมยข้อมูลที่สำคัญที่สุดในคอมพิวเตอร์ของเขา พร้อมทั้งจงใจทิ้งที่อยู่เอาไว้ให้! ฉันรับรองเลยว่าเขาต้องมาแน่ๆ!”
ขวัญข้าวพยักหน้าและเลือกที่จะเชื่อพี่ชาย “งั้นพวกเรามารอเขากันเถอะ!”
สองพี่น้องไม่ได้ไปที่บ้านของธารณ์แต่อย่างใด แต่ทั้งสอง กลับหลบอยู่ที่ด้านหลังอ่างบัวใบหนึ่ง
ยื่นหัวออกมาครึ่งหนึ่งและจ้องไปที่ทางเข้าหมู่บ้านอย่างรอคอยว่าพ่อจะปรากฏตัว
“พี่ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะไม่บอกแม่ก่อนจริงๆหรอ?” ขวัญข้าวกะพริบตาที่กลมโตเหมือนองุ่นของเธอ “ถ้าแม่รู้ แม่จะโกรธเอานะ”