06 อย่าเจอกันอีกเลย
[ พาร์ท : เปลวไฟ ]
“อืมม...”
ผมประกบปากจูบยัยพยาบาลบ้านี่เพราะเธอไม่ยอมเงียบเสียงเลย โวยวายเสียงดังจนน่ารำคาญจับจูบแม่งเลย เป็นไงล่ะอ่อนระทวยไปสิเจอจูบของผมเข้าไป
“อื้มม โอ้ยยย ๆ”ผมรีบถอนจูบออกมาเพราะยัยนั่นกัดเข้าที่ลิ้นผมอย่างแรง เจ็บชะมัดเลย
พรึบบ ตับ!!
“อ๊าา จุกก ยัยบ้า”ผมหงายหลังลงมาเพราะถูกยัยนั่นถีบเข้าเต็มๆกลางอก ผู้หญิงหรือผู้ชายวะแรงเยอะชะมัดเลย
“กรี๊ดดด ไอ้ทุเรศ!!”
“เห้ยย!!”ผมรีบเอาผ้าปิดลูกชายทันที ตอนหงายหลังลงมาผ้าคลุมที่สวมอยู่มันถลกขึ้นไปเห็นลูกชายของผมเป็นท่อนเบ่อเร่อเลย
“กรี๊ดด ฮื่ออ ไอ้ทุเรศ ไอ้โรคจิต ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”เธอโวยวายจากนั้นก็รีบลงจากเตียงไปอีกฝั่งทันที
“เห้ยย ดะ เดี๋ยวสิ ฉันขอโทษ”ผมรีบวิ่งไปห้ามเธอ
“หลบไปไอ้โรคจิต ฉันไม่น่ามากับนายตั้งแต่แรกเลย นายมันคนฉวยโอกาส นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับฉันเพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิงของนาย!”
“ขอโทษ อย่าพึ่งไปดิ”
“ปล่อย!! นายมันตัวอันตรายที่ฉันควรจะอยู่ให้ห่างมากที่สุด ไอ้บ้า!!”เธอสบถด่าผมคำโตจากนั้นก็ผลักผมออกแล้วรีบวิ่งออกไปจากห้อง
“เห้ย!! จะไปจริงๆเหรอเนี่ย!”ผมวิ่งตามเธอออกไป แต่เธอวิงเร็วมากครับผมนี่วิ่งตามไม่ทันเลย
“แฮ่ก ๆ ๆ อย่าพึ่งไป!!”ผมตะโกนตามหลังรถแท็กซี่ที่เธอขึ้นไปหมาดๆ นอกจากเป็นพยาบาลแล้วเธอยังเป็นนักวิ่งมาราธอนอีกเหรอเนี่ย วิ่งเร็วชะมัดเลย
เอาไงดีวะ...จะตามไปหรือจะปล่อยไปแบบนี้...
แต่จะว่าไปเธอก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับผมขนาดนั้น ผมไม่จำเป็นต้องไปง้อเธอก็ได้ ยังไงถ้าเธอยังทำงานเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นผมก็มีสิทธิ์เจอเธอได้อีกอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนก็เท่านั้นเอง
ผมหันหลังเดินลับเข้าไปในบ้านขึ้นไปด้านบนของห้อง อะไรวะกะจะแกล้งให้เข็ดสักหน่อยดันหนีกลับไปซะได้ แค่โดนจูบแค่นี้ถึงกับหนีกลับไปเลย อ่อนหัดจริงๆเลยผู้หญิงคนนี้
......
เวลาผ่านไป 21:00 น.
ผมนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงพยายามข่มตาให้หลับแต่หน้าของยัยพยาบาลบิ๊กเบิ้มก็ลอยเข้ามาในหัวตลอดเลย มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมเธอมีอิทธิพลกับผมมากขนาดนี้ พยายามจะหลับแต่ในหัวก็มีแต่หน้าของยัยบิ๊กเบิ้มนั่น
“มึงเป็นอะไรของมึงวะไอ้เปลว จะไปคิดถึงยัยเบิ้มนั่นทำไมกัน”ผมพูดกับตัวเอง
ตอนนี้เริ่มหงุดหงิดแล้วล่ะ ทำยังไงถึงจะหายวะ อยากนอนหลับอยากพักผ่อน ไม่อยากคิดถึงยัยเบิ้มนั่นเลย แต่แม่ง....
.........
ตัดมาอีกด้าน
[ พาร์ท : ไออุ่น ]
ฉันนั่งรถแท็กซี่กลับมาที่ห้องของตัวเอง ฉันอยู่กับนายนั่นไม่ได้หรอกมันเกินไปแล้วนี่เห็นฉันเป็นตัวอะไร นึกอยากจะทำยังไงก็ทำไม่สนใจว่าฉันจะรู้สึกยังไง มันอยากจะเกิดอะไรก็เกิดเถอะฉันจะยอมรับผลที่ตามมาเอง แต่ฉันจะไม่ไปเจอนายนั่นอีกเด็ดขาด ตอนแรกฉันก็นึกว่าจะเป็นคนดีนะแต่ที่ไหนได้เขาเป็นผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาสมากๆเลย ต่อไปนี้เราสองคนอย่าได้เจอกันอีกเลย
เช้าวันต่อมา
ฉันนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว ฉันคงยังไม่ไปเข้าเวรหรอกเพราะว่ายื่นใบลาไปแล้วหลายวัน ระหว่างนี้ก็คงจะกลับไปหาป้าอิ่มกับน้องๆก่อนนั่นแหละ แต่ถามว่าจะลาออกจากงานไหม คงไม่หรอกเพราะงานพยาบาลมันคงที่แล้วสำหรับฉัน ถ้าออกจากโรงพยาบาลไปหางานทำที่อื่นฉันก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดกว่าจะตั้งตัวได้ใช้เวลาเหมือนกันนะ ฉันอดไม่เป็นไรแต่ป้ากับน้องๆอดไม่ได้
ฉันเคยได้ยินป้าอิ่มพูดว่าป้าอิ่มมีสมบัติเก่าที่เคยเก็บสะสมอยู่มากมาย แต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไรรู้แต่ว่าป้าอิ่มแกหวงสมบัตินี้มาก ไม่ให้ใครแตะต้องเลยแม้กระทั่งฉันที่เป็นหลานแท้ๆ แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะเอาสมบัติของป้าอิ่มอยู่แล้ว ยิ่งรู้ว่าแกหวงมากฉันยิ่งไม่อยากยุ่งเลย
ถ้าฉันมีเงินฉันจะสร้างบ้านหลังใหญ่ๆจะจ้างคนมาช่วยป้าอิิ่มดูแลเด็กๆ ป้าอิ่มไม่ทิ้งเด็กๆหรอกเพราะพวกแกก็เหมือนกับลูกๆหลานๆของป้า ฉันกับป้าอิ่มช่วยกันดูแลเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ บางคนมาอยู่ที่นี่ยังเป็นทารกอยู่เลยมีคนเอามาทิ้งไว้หน้าบ้าน ป้าอิ่มก็เก็บมาเลี้ยงประคบประหงมเป็นอย่างดี สาเหตุที่ป้าอิ่มชอบเลี้ยงเด็กก็เพราะป้าอิ่มแกอยากมีลูกแต่มีไม่ได้เพราะมดลูกของป้าอิ่มไม่แข็งแรงพอที่จะตั้งครรภ์ ป้าอิ่มแกก็พยายามรักษาเพื่อที่จะได้มีลูกสืบสกุลเหมือนคนอื่นๆเขา แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวจนกระทั่งลุงเสียไปป้าก็เลยรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดูแทน จะบอกว่าเด็กๆพวกนี้เป็นยารักษาแผลใจให้ป้าอิ่มเลยก็ว่าได้
จะว่าไปฉันรีบเก็บของกลับไปหาป้าอิ่มกับน้องๆดีกว่า....ว่าแล้วฉันก็รีบลุกเก็บที่นอนจัดให้เรียบร้อยแล้วก็เดินไปล้างหน้าล้างตาอาบน้ำให้เรียบร้อย
@บ้านเด็กกำพร้า
ฉันหิ้วกระเป๋าใบเล็กๆของตัวเองเดินเข้าไปในรั้วบ้าน ภายในเงียบสงัดเหมือนไม่มีคนอยู่ เด็กๆก็คงจะวิ่งเล่นอยู่ด้านหลัง ป้าอิ่มก็น่าจะอยู่ในครัว ถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ
เพล้งง!!
“กรี๊ดด ฮื่อ ๆ ๆ”
“ป้าอิ่ม น้อง!”ฉันทิ้งกระเป๋าลงบนพื้นแล้ววิ่งเข้าไปทันที
ภาพที่ฉันเห็นคือ เด็กๆนั่งกอดกันแล้วร้องไห้ออกมาจนตัวสั่นเทิ้ม ป้าอิ่มแกก็ล้มพับอยู่ ข้างๆมีชายชุดดำ3คนกำลังยืนชี้หน้าป้าอิ่มอยู่ พวกมันเป็นใครแล้วมาทำแบบนี้ได้ยังไง
“หยุดนะ!!”ฉันตะโกนเสียงดังจากนั้นก็เข้าไปถีบผู้ชาย2คนที่ยืนประกบข้างป้าอิ่มอยู่ จนมันเซถลาแทบล้มลงไป
“มึงเป็นใครวะ เสือกไรด้วย!”ผู้ชายอีกคนหันมาพูดกับฉัน
“ฉันเป็นหลานป้าอิ่ม แล้วพวกแกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายคนแก่กับเด็กแบบนี้!!”ฉันตวาดไปเสียงดัง ให้ลองกล้าทำผู้หญิงดูฉันจะได้ทำให้รู้ว่าผู้หญิงอย่างฉันก็สู้คนเป็นเหมือนกัน
“ป้าของมึงติดหนี้เจ้านายกูสามแสน พอถึงเวลาจ่ายดอกก็เบี้ยว ไม่จ่ายตามนัดไม่ส่งดอก”
“ทั้งหมดเท่าไหร่”
“สามแสนห้า”
“ห๊ะ!! ทำไมมันเยอะขนาดนั้น”
“ป้าของมึงผลัดผ่อนมาหลายงวดแล้ว นี่ถือว่าเจ้านายกูใจดีที่สุดแล้วนะ ถ้าเป็นคนอื่นโดนยึดบ้านไม่มีที่ซุกหัวนอนไปแล้ว”
“ฉันขอเวลาสามวัน แล้วฉันจะเอาเงินไปให้ถึงที่เลย”
“ทำไมมันนานจังวะ”
“ฉันขอเวลารวบรวมเงินหน่อยสิ”
“เออๆ อย่าคิดจะเบี้ยวนะมึง ไม่งั้นเจอดีแน่”
“....”
“ไปเว้ยกลับ!!”พวกมันพากันออกไป
“ป้า ป้าเป็นไงบ้าง”ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง เนื้อตัวป้ามีรอยถลอกนิดหน่อย
“ป้าไม่เป็นอะไรหรอก ไปดูน้องๆเถอะ”
“ค่ะป้า”ฉันพาป้าไปนั่งที่เก้าอี้แล้วกลับมาดูน้องๆที่นั่งกอดกันกลมอยู่
“ไม่มีอะไรแล้วนะ พวกเขาไปแล้ว”
“พี่อุ่น ฮื่อ ๆ ๆ หนูกลัว ผมกลัว”น้องๆหันมากอดฉันแน่น
“ไม่เป็นอะไรนะ พี่อยู่นี่แล้วนะไม่ต้องกลัว”
ดีนะที่ฉันตัดสินใจกลับมาที่นี่ เพราะถ้าฉันไม่มาเจอป่านนี้น้องๆกับป้าอิ่มจะเป็นยังไงกันก็ไม่รู้
“อุ่นจะไปหาเงินมากมายนั่นมาจากไหน”
“อุ่นพอมีเงินเก็บอยู่บ้างค่ะป้า เดี๋ยวก็หาของไปขายเอาเงินมาเสริมด้วยก็น่าจะพอแล้ว”
“ป้าให้”ป้าอิ่มยื่นบางอย่างใส่มือฉัน
“ป้า!!”ฉันอุทานเรียกชื่อป้าอิ่มทันทีเมื่อเปิดมือออกมา มันคือสร้อยทองคำขาวที่สวยเอามากๆ ตรงกลางเป็นรูปของลุง นี่สินะสมบัติที่ป้าอิ่มรักเอามากๆ
“เอาไปขายแล้วเอาเงินใช้หนี้เขา”
“นี่มันของรักของป้านะคะ อุ่นรับไว้ไม่ได้หรอก”
“สมบัติพวกนี้แค่ของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้เอาไปเถอะ”
“....”ป้ายัดสร้อยทองคำขาวใส่เข้ามาในมือของฉันเหมือนเดิมแล้วเดินออกไป
ฉันจะไม่ถามและไม่อยากรู้ว่าป้าเอาเงินมากมายนั่นไปทำอะไรเพราะฉันไม่อยากให้ป้าคิดมาก และฉันก็คิดว่าป้าคงมีเหตุผลที่ไม่บอกเรื่องนี้กับฉัน