บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ผู้ชายสังคมเถื่อน

นายอติคม ศดานันท์ หรือคม วัย 39 ย่าง 40 ปีนี้ แต่ใครๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะรู้จักเขาดีในนามของ “นายหัวคม” นั่นแหละคือตัวตนของเขา ชายหนุ่มมีพี่ชายอีกหนึ่งคนชื่อเขมรัฐ- ศดานันท์ ใช่เขาและเขมรัฐเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน คนพี่ของเขานั้นอยู่ทางภาคเหนือจังหวัดลำปาง เป็นพ่อเลี้ยงผู้ร่ำรวยทำธุรกิจเกี่ยวกับชาเขียว ส่วนตัวเขานั้นทำสวนปาล์ม จะว่าไปสวนปาล์มของเขานั้นกินพื้นที่ในจังหวัดไม่น้อย ก็เล่นมีเป็นพันๆ ไร่ แถมชาวบ้านแถวนี้ก็ต่างเอาที่ดินมาขายให้เขาหมด เป็นแบบนี้แล้วเขารวย บอกได้เลยว่ามีเงินมากมายที่จะใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด อย่าว่าแต่ชาตินี้เลย ชาติหน้าก็ยังใช้ไม่หมด

“เฮ้! ไอ้คมมึงเป็นอะไรวะ”

นานแล้ว สังเกตเพื่อนนานแล้ว ก็เล่นมาถึงนั่งเหม่อลอยมองแต่ทะเลตรงหน้า ไม่ยอมพูดจาอะไร

“ไอ้เชี้_ มึงอย่ามาขัดขวางความคิดถึงกูดิวะ! ”

อติคมว่าเพื่อนไม่จริงจังนัก ก็หนึ่งอาทิตย์แล้วมารอเจอแม่สาวน้อยดุ๊กดิ๊ก ก็คนมันคิดถึง อยากเจอจนไม่เป็นอันทำการทำงาน เพราะหล่อนคนเดียวทำให้ต้องโดดงานมานั่งรอทุกวัน แต่ก็ไม่ยักจะเจอ

“เฮ้อ! มึงเป็นเอามากขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้คม มึงบ้าไปแล้ว”

เชษฐา ปิ่นมณี หรือเชษ เพื่อนรักของอติคม ชายหนุ่มเป็นเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้ รีสอร์ทที่อติคมอู้งานมาส่องสาวทุกวัน

“ไอ้ห่า! มึงไม่เข้าใจกูหรอก ปากดุ๊กดิ๊กทั้งหอมทั้งหวาน แถมกูเป็นจูบแรกของเธอด้วยนะเว้ย! มึงรู้ไหมกูว่ากูอยากมีเมียว่ะ กี่บาทกูก็ยอมจ่ายถ้าเธอยอมเป็นเมียกู”

คนงกเงินอย่างอติคมนั้นเหรอจะยอมเสียเงินด้วยเรื่องแบบนี้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว ตอนนี้เชษฐาลุกขึ้นมายืนจ้องหน้าเพื่อนรัก เอามือตบหน้าอีกฝ่ายแรงๆ เพื่อเรียกเตือนสติ

“มึงบ้าไปแล้วไอ้คม มึงแค่ได้จูบ ได้กินขี้มูกของเธอมึงก็อยากได้เขาเป็นเมีย มึงไปหาหมอไหมเพื่อน”

“หุปปากเน่าๆ ไปเลยไอ้เชษ กูกำลังรอเธออยู่ มึงอย่ามาบังสิวะ”

ตีเพื่อนให้หลบไปให้พ้นหน้าตน ตอนนี้ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระนี้ อยากเจอ อยากเห็น อยากจูบปากหวานๆ ช่างพูดนั้น อยากกอดร่างนุ่มนิ่มหอมๆ อยากทำมากกว่าวันนั้นใจแทบขาด

“มึงควรกลับไปดูสวนปาล์มนะไอ้คม มึงไม่ควรมาอยากมีเมียตอนนี้”

“มึงก็พูดได้มึงลูกสอง กูเมียก็ยังไม่มี มึงควรเข้าใจกูนะเว้ย! กูอยากก้าวเข้าอายุ 40 พร้อมเมียและลูกในท้อง มึงเข้าใจกูหน่อย” น้ำเสียงจริงจัง

“ที่ผ่านมากูก็เห็นมึงนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำ ก็เลือกเอาสักคนมาเป็นแม่ของลูกสิ ทำไมตอนนี้เกิดอยากได้เมียได้ลูก แปลกไปแล้วไอ้คม”

“กูก็นอนจนเบื่อแล้วกับของซี้ดๆ แซ่บๆ เปรี้ยวๆ พวกนั้น แต่คนนี้กูว่ากูจริงจังว่ะ ไม่เหมือนใครแปลกตา ไม่ต้องแต่งเติมก็น่ารักดึงดูดกูอยากฉุดขึ้นเตียงแล้วขึ้นเตียงอีก”

พูดแล้วใบหน้าของเจ้าหล่อนโผล่เข้ามาในสายตา สายตาคมจึงเพ่งเล็งโฟกัสจุดยกมือใหญ่ขยี้ตาตัวเองแรงๆ ว่าภาพที่เห็นมันเป็นภาพลวงตาหรือว่าความจริง ขยี้ตาแล้วยังคงอยู่

“เฮ้อ! ไอ้เชษแม่ของลูกกูว่ะ!”

พูดพลางชี้มือไปข้างหน้า แล้วรีบวิ่งไปหาเป้าหมาย เป้าหมายมาต้องรีบจับ รีบคว้า รีบยื่นเสนอสินสอดให้ จะช้าทำไม อยากได้ใจแทบขาด

“ไอ้คม...” ไม่ทันแล้ว เพื่อนของเขาวิ่งโล่ไปหาผู้หญิงคนนั้นแล้ว

“มึงอยากได้เมียถึงขนาดนี้เลยเหรอวะ มึงจะรู้ว่านรกมีจริง นั่นไงว่าแล้วก็มาเลย” พูดยังไม่ทันขาดคำภรรยาของตนก็โทรเข้ามาทันที

“ครับๆ พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละหนู” ใช่ เขาได้ภรรยาเด็กกว่าสิบปี เลยต้องเอาอกเอาใจ รับปากคนในสายแล้วก็เดินออกไปจากตรงนี้

“ดุ๊กดิ๊กของพี่...”

เมยานี บุหลัน หรือมีน วัย 24 ปี มองมาทางต้นเสียงเรียกทันที มั่นใจว่าเป็นตัวเอง ไม่มีใครเรียกตนแบบนี้นอกจากไอ้หน้าโจรถ่อยคนนั้น แล้วทำไมต้องจำได้ด้วย เหลือเวลาอีกสองวันเท่านั้นก็จะกลับไปสู่โหมดทำงานปกติ หมดเวลาลาพักร้อนแล้ว อยากลืมทิ้งทุกอย่างไปกับน้ำทะเล จึงเดินออกมาเพื่อจะระบายกับท้องฟ้าอากาศสายลมและทะเลอีกครั้ง เจ้าหล่อนทำงานเป็นธุรการของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จะว่าไปก็ไม่ได้ชอบงานที่ทำ แต่ต้องทำเพื่อความอยู่รอด ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองก็ต้องดิ้นรนเพื่อปากท้องของตัวเอง

“ไอ้หน้าหนวด!...”

พูดได้แค่นั้นก็ต้องรีบสาวเท้าวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ข้อมือเล็กถูกมือหยาบกร้านฉุดดึงรั้งไว้ หล่อนจึงเสียหลักเซเข้าหาคนตัวโตกระแทกเข้าอกแกร่ง

“อ่า! จะไปไหนดุ๊กดิ๊กของพี่ รู้ไหมมารอทุกวันเลย”

ดึงร่างเล็กเข้ามากอดรัดแน่น ด้วยกลัวว่าเจ้าหล่อนจะดิ้นหนีตนไป ก็เพราะแม่นางตัวเล็กคนนี้คนเดียวเชียว ทำให้ทำงานทำการไม่ได้ วันๆ เอาแต่เพ้อละเมอหา พอเจอแล้วต้องจับ ต้องยัดเยียดความเป็นสามีให้ ช้าไม่ได้แล้ว อายุก็เยอะขึ้นทุกวัน มันนานมากกว่าจะเจอคนที่ทำให้ใจคิดถึงสั่นไหวอยากฉุดกระชากชำเรา

“ไอ้เครา! ไอ้บะ...อื้อ! ”

ยังไม่ทันได้ด่าจบก็ถูกปากโสโครกของอีกฝ่ายบดขยี้ลงมาเสียแล้ว แถมตอนนี้ลิ้นของอีกฝ่ายกำลังรุกรานเข้ามาในโพรงปากตน พยายามถอยลิ้นตัวเองหนีจากการรุกเร้า แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเขาชำนาญกอดเกี่ยวเรียวลิ้นของเธอไว้ ดูดดึงเคล้าคลึงเล่น

“อ่า! หวานเหมือนเดิม เป็นไงจูบที่สามของผัว ไม่สิสามี ต้องสุภาพหน่อย”

ผละออกมาตอบหน้าตาย ยิ้มมุมปากเยาะเย้ยอย่างผู้ชนะ แค่จูบก็ทำให้เคลิ้มนึกถึงห้องนอนแล้ว ไม่อยากคิดเลยร่างน้อยๆ เบียดสีอยู่ตอนนี้จะน่าขย้ำแค่ไหนเวลาอยู่บนเตียง ใช่แล้วช้าไม่ได้ อายุก็จะ 40 ปีแล้ว ขืนช้ามีลูกไม่ทันใช้แน่ๆ

เมยานีแหงนมองคนตัวโตด้วยความกรุ่นโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็เล่นกอดรัดแน่นแบบนี้ คิดแล้วก็อยากจะเอาปืนมายิงให้ตายคาที่เสียจริง

“คนถ่อย คนไม่มีมารยาททางสังคม คนเลว คนชั่ว ผู้ชายเชี้_ๆ ไอ้...”

“ฮืม! ไม่ถ่อย ไม่เลวก็อดได้เมียน่ะสิดุ๊กดิ๊ก อ้อ! ลืมไปเลย จะเป็นผัวเมียกันอยู่แล้วลืมแนะนำตัว”

พูดทั้งๆ กอดรัดร่างเล็กไว้ในอ้อมกอด นาทีนี้ไม่อาจปล่อยไปได้ ก็เธอไม่ใช่หมูในอวยที่จะเชือดง่ายๆ เหมือนสาวๆ คนอื่นที่เคยเจอมา

“ฉันไม่อยากรู้จักแก ไอ้หนวด!”

“ต้องรู้จักสิ เวลาเข้าหอกันไม่รู้ชื่อมันจะไม่ดีนะดุ๊กดิ๊ก มันจะครางชื่อผัวไม่ถูก”

ชอบจริงๆ เวลาคนตัวเล็กต่อปากต่อคำด้วย มันทำให้ชีวิตที่เงียบสงบมีสีสันน่าอยู่ขึ้นเยอะ

“ใครบอกฉันจะเป็นเมียแก ปล่อยเดี๋ยวนี้นะฉันจะกลับแล้ว” สั่งเสียงแข็ง

“ไม่ปล่อย เราต้องกลับด้วยกันนะ พักที่ไหนไปขนของย้ายไปอยู่ด้วยกันเลย อยากได้อะไรผัวจะซื้อให้ ว่าแต่ทำงานทำการอะไรลาออกไปเลย เป็นคนที่ไหน อยู่กับใคร แล้ววันนี้ไม่ร้องไห้เหรอ อยากชิมขี้มูกอีกนะรู้ไหม” อดแหย่เรื่องเมื่อครั้งแรกเจอกันไม่ได้

“มันเรื่องของฉัน แล้วปล่อยได้แล้ว ฉันจะกลับบ้านแล้ว อย่ามายุ่งกับฉัน ผู้ชายเชี้_! ผู้ชายระยำ! ” พูดแล้วน้ำตาก็คลอเบ้าทันที เมื่อคิดถึงความเจ็บปวดของตัวเอง

“เฮ้อ! อย่าเอาว่าที่ผัวไปเปรียบกับพวกนั้นสิ มันเลวก็อย่าเหมารวมพี่สิทูนหัว ไม่ร้องไม่เศร้านะ มันไม่เอาก็ช่างหัวมัน แต่พี่คนนี้เอานะ ไปอยู่กับพี่พี่พร้อมทุกอย่าง แก้วแหวนเงินทองพี่มีให้ใช้ไม่ขาด” ยังไงก็พร้อม ได้หมดถ้าสาวเจ้าเนื้อหอมคนนี้ยอมไปกับตน

เมยานีมองชายแปลกหน้าที่จูบตนถึงสามครั้งเพียงแค่เจอกันสองครั้งเอง ไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้ต้องการอะไร เห็นผู้หญิงอย่างเธอง่ายเหรอ เห็นเป็นของเล่นรึไง ‘ผู้ชายมันก็ชั่วเหมือนกันหมด ไม่ต่างอะไรกับไอ้หน้าเงือกสักคน’ เอ่ยในใจ เมื่อคิดย้อนไปถึงแฟนหนุ่มคนก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหล่อนก็ไม่ต้องเสียใจแบบนี้หรอก การมีความรักแล้วโดนหักหลังมันเจ็บ ในเมื่อผู้ชายคิดว่าผู้หญิงเป็นเพียงของเล่น ของง่ายได้ เธอก็จะทำตัวง่าย แล้วหลอกให้พวกผู้ชายเลวๆ พวกนั้นรักค่อยทิ้ง

“นายมันก็แค่ผู้ชายสกปรก จะมีอะไรมาให้ฉัน” เอ่ยอย่างดูถูก

“เอ้า! พูดแบบนั้นได้ยังไงดุ๊กดิ๊ก อยากรู้ว่ามีให้หรือไม่มีให้ต้องไปอยู่กับพี่ก่อน แล้วจะรู้ว่าอยู่บนกองเงินกองทองมันสุขสบายแค่ไหน”

ก็เขารวยจริงๆ และพร้อมจะเลี้ยงแม่น้องนางในอ้อมกอด เพียงแค่เธอยอมไปกับตน ถึงไม่ยอมก็จะบังคับเอาให้ได้ ในเมื่ออยากได้ต้องได้ ไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปได้หรอก ผู้หญิงที่สวยธรรมชาติ ใบหน้าก็ช่างนวลเนียนเหลือเกิน ไม่แต่งหน้ายังสวย ถ้าแต่งหน้าจะไม่นางฟ้าบนดินเลยเหรอเนี่ย

“แก้มนี้ของพี่ ปากนี้ก็ของพี่นะดุ๊กดิ๊ก จำไว้ว่าตอนนี้เป็นของพี่แล้ว” มือหยาบลูบไล้ตามแก้มนวลแล้วมาหยุดที่ปากช่างพูดของเจ้าหล่อน

“เฮอะ! ฉันเป็นของแกตอนไหนไม่ทราบไอ้หนวด!...”

“ก็เป็นตั้งแต่วันที่พี่กินขี้มูกเธอแล้วไง รึจะเถียงว่าเราไม่ได้จูบกัน อ้อ! วันนี้ก็จูบนิ หรือจะให้จูบอีกครั้งเอาไหม ว่าไงพักที่ไหนไปเก็บข้าวของไปอยู่บ้านของเรากัน”

ยังยืนยันความคิดเดิม ตอนนี้ช้าไม่ได้แล้ว เชษฐาลูกสองแล้ว เขาต้องเร่ง ไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดไป ตอนนี้อติคมมั่นใจมากว่าเธอคนนี้แหละแม่ของลูก ถ้าไม่ใช่คนตัวเล็กจะเป็นใครไปได้เล่า นาทีนี้มีคนเดียวเตะใจตน

“ฉันมีงานต้องทำ” ตอบอย่างจริงจังสังเกตคนตัวโต อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะเล่นตลกอะไรกับตน คือไม่มีทางที่ผู้ชายแต่งตัวกุ๊ยแบบนี้จะทำได้อย่างที่พูด

“ไม่ต้องทำ ลาออกแล้วไปนอนกินอยู่บ้านพี่ดีกว่าหนู”

“จะให้ฉันไปอยู่กับคนแปลกหน้า หน้าโจรคงไม่ได้หรอกนะ แล้วก็ปล่อยได้แล้ว” ดิ้นให้ตัวเองเป็นอิสระ แต่ก็เหมือนเดิมเขากอดรัดหล่อนแน่นเหลือเกิน

“อ่า! งั้นมาทำความรู้จักกันหน่อยไหม พี่ชื่อ อติคม ศดานันท์ ชื่อเล่นคม แต่คนแถวนี้เรียกนายหัวคม อายุ 39 ย่าง 40 ปีนี้ สถานะโสด ขอย้ำว่าโสดแต่ไม่ซิง แค่นี้พอจะเป็นพ่อของลูกของดุ๊กดิ๊กได้ไหมจ๊ะ” ถามแล้วก็ก้มลงหอมแก้มนวล

“อุ้ย!” ยกมือขึ้นลูบแก้มของตน เมื่อถูกหนวดเคราของเขาถูไถแก้มตน

“กุ๊ยอย่างนายเนี่ยนะเป็นถึงนายหัว แก่ก็แก่ อย่าหวังจะได้เห็นขาอ่อนฉันเลยย่ะ!” เอ่ยอย่างดูถูก

“จูบก็จูบมาแล้วแค่ขาอ่อนจะยากอะไร ก็ตอนนี้ก็โชว์ขาอ่อนอยู่ไม่ใช่เหรอ” เอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ ก็ตอนนี้เจ้าหล่อนใส่กางเกงยีนขาสั้นปิดแค่เพียงแก้มก้นเท่านั้นเอง แล้วยังมีขาอ่อนอะไรให้ดูอีกล่ะ

“แก!....”

“จุ๊!..อย่าพูดแบบนั้นสิ เดี๋ยววิญญาณของลูกเราที่วนเวียนอยู่แถวนี้จะตกใจเอาว่าแม่พูดไม่เพราะกับพ่อ ไม่เอานะดุ๊กดิ๊ก” มือใหญ่ปิดปากเล็กก่อนจะได้พูด ก็ตอนนี้เขาไม่อยากรออะไรแล้ว อยากพาเธอไปเที่ยวชมอาณาจักรของตน

“ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะมีลูกกับแกไอ้หนวด” เอ่ยอย่างไม่พอใจ

“พี่รู้ดุ๊กดิ๊กคิด ช่างเถอะ บอกได้รึยังชื่อเสียงเรียงนามอะไร”

“อยากรู้จักชื่อฉันก็จ่ายมาก่อนสิหนึ่งหมื่น และจูบก่อนหน้านั้นฉันคิดจูบละหมื่น” คิดว่ายังไงก็ไม่มีให้ตนแน่ แต่เธอดูถูกผิดคนเสียแล้ว

“ได้ จัดให้ตามคำขอ แต่ต้องไปเอาที่บ้านของเรานะ ส่วนเรื่องงานเรื่องอะไรไม่ต้องไปทำแล้ว ไปอยู่บ้านคอยปั๊มลูกดีกว่า”

ว้ายยยยยยย

เป็นต้องร้องกรี๊ดออกมา เมื่อร่างลอยขึ้นเหนือพื้นทราย มือเล็กทุบตีออกแกร่งด้วยความโกรธ แต่เท้าแข็งแรงยังคงก้าวไปในรีสอร์ทอย่างมั่นคง

“จะพาฉันไปไหนไอ้หนวด”

“ก็กลับบ้านเราน่ะสิ ข้าวของเดี๋ยวฉันจะให้ลูกน้องมาเก็บเอง แต่ตอนนี้เราต้องไปดูห้องหอ และตรวจสินค้าก่อนจ่ายเงินไง ฉันให้ล้านเลยถ้าดุ๊กดิ๊กว่าง่าย”

เท้าแข็งแรงก้าวยาวๆ ไปยังรถของตัวเอง ส่วนเรื่องข้าวของของคนตัวเล็กนั้นช่างมัน ค่อยให้สมหวังมาขนให้ก็ได้ แต่ตอนนี้ต้องการตกลงกับหญิงสาวให้เรียบร้อย ถึงไม่ตกลงก็จะบังคับให้ได้อย่างใจตน

“ฉันไม่ไปกับแกไอ้บ้า...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”

ร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งก็ไม่เป็นผล เมื่อตอนนี้เขาพาเดินมาถึงมอเตอร์ไซค์วิบากคันเก่าจอดอยู่ และไม่ต้องปล่อยให้เดา เมื่อชายหนุ่มอุ้มเธอไปนั่งถังน้ำมันของรถคันที่เธอเห็น

“จน! จนขนาดนี้จะมีปัญหาที่ไหนมาเลี้ยงฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้เครา ไอ้เชี้_!” เอ่ยอย่างดูถูก เมื่อเห็นรถวิบากคันเก่าจอดอยู่ บวกสภาพเจ้าของมันแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรเลย ดูยังไงก็เป็นแค่กุ๊ยข้างถนน

“อยากรู้ว่าเลี้ยงได้ไม่ได้ก็มาเป็นเมียพี่สิดุ๊กดิ๊ก” พูดพร้อมนำตัวเองขึ้นนั่งซ้อนด้านหลังของคนตัวเล็ก แล้วดึงร่างเล็กให้นั่งในท่าที่ตนจะขับรถคู่ใจให้ได้สบาย

“นะ...นายจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วยค่ะฉันกำลังถูกฉุด”

เมยานีเห็นท่าจะไม่ดีจึงร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น แล้วผู้คนก็ต่างพากันวิ่งมาเพื่อจะช่วยเจ้าหล่อน แต่ยังไม่ทันได้เดินเข้าใกล้ก็ถูกสายตาคมของอติคมจ้องเอาเสียก่อน

“อย่ามายุ่งเรื่องของผัวเมีย ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอย่าเสือกเว้ย!”

“ครับ นายหัวคม”

หนึ่งในคนที่วิ่งมาจะช่วยเจ้าหล่อนเอ่ย แล้วทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ทิ้งเหลือแต่เมยานีกับอติคม ตอนนี้เจ้าหล่อนมึนงงไปหมด ทำไมทุกคนถึงต้องเกรงกลัวไอ้โจรถ่อยคนนี้ด้วย ‘หรือว่ามันจะเป็นนายหัวจริงๆ ไม่น่าจะใช่ สถุลแบบนี้เหรอจะเป็นนายหัว ป่าเถื่อนชะมัด’ เจ้าหล่อนคิดในใจ

“ไม่ต้องงงเมียจ๋า...เดี๋ยวถึงรังรักของเราทูนหัวจะรู้ทุกอย่าง ตอนนี้กลับก่อนนะ”

อติคมมองออกว่าคนตัวเล็กกำลังมึนงงสับสน จึงฉวยโอกาสนี้พูดแล้วติดเครื่องรถขับออกไป โดยมีคนตัวเล็กนั่งอยู่ข้างหน้าตน

เมยานีนั่งตัวเกร็ง ด้วยกลัวว่าตัวเองจะตกรถ อยากดิ้นก็ไม่กล้าดิ้น เกิดมาเพิ่งเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเอง มือเล็กคว้ามัดแขนแกร่งที่จับแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ไว้อย่างเหนียวแน่น

ชายหนุ่มยิ้มพร่า เขารับรู้ได้ว่าคนข้างหน้ากำลังกลัว เลยบิดคันเร่งเร่งเครื่องให้วิ่งเร็วกว่าเดิม

ว้ายยยยย

“ขับช้าๆ หน่อยไอ้บ้า...”

“เรียกพี่คมก่อนสิจ๊ะดุ๊กดิ๊ก แล้วเมื่อไหร่จะบอกชื่อพี่สักทีฮึ!” เอ่ยพลางยื่นหน้ามาพาดไหล่มน

“เอาหนวดเครานายออกไปจากต้นคอฉันนะ ฉันขยะแขยงจะแย่อยู่แล้ว” หดคอลงด้วยความจั๊กจี้

“ไม่เอาออกจะทำไม อีกไม่นานก็ถึงแล้ว จะซุกจะไซ้ให้ครางไม่ได้ศัพท์เลยเมียจ๋า...”

แล้วความเงียบก็มาครอบคลุม อติคมเลยขับรถไปร้องเพลงไปอย่างอารมณ์ดี ไม่รู้ว่าตัวเองใจร้อนไปรึเปล่าที่รุกสาวน้อยหนักแบบนี้ แต่ถ้าช้ากว่านี้แม่คนตัวเล็กก็หนีหายไปอีก ก็กว่าจะเจอนั้นยากเหลือเกิน ต้องไปนั่งเฝ้านั่งรอเป็นอาทิตย์กว่าจะเจอ ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน และตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะพาสาวน้อยวิวาห์จานด่วน

เจ้าหล่อนได้แต่นิ่งเงียบตัวเกร็ง ตอนนี้ในหัวของเธอคิดไม่ตก กลัวเหลือเกินว่าจะถูกผู้ชายหน้าโจรคนนี้ฆ่าเอา ถึงแม้ว่าลึกๆ ในใจจะบอกว่าเชื่อใจบุรุษคนนี้ได้ แต่จะเป็นไปได้เหรอ ในเมื่อเพิ่งเคยเจอกันสองครั้งเอง แถมหน้าตาก็ราวกับโจรป่าไม่มีผิด ‘ยัยมีนแกจะทำยังไงดี ถ้ามันข่มขืนแล้วฆ่าแกทิ้งเหมือนในข่าว ตายแน่ๆ ฮือๆ’ โอดครวญในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel