บท
ตั้งค่า

บทที่1│อุ่นกายในคืนหนาวใจ (1)

บทที่ 1

อุ่นกายในคืนหนาวใจ

SPACEBAR ในเวลาจวนจะสี่ทุ่มนั้นคับคั่งไปด้วยผู้คนที่ออกมาท่องราตรี ต่างกับเขาที่ไม่ควรมาอยู่ที่นี่ ที่ที่เลปกรควรอยู่คือบ้าน บนเตียงนอนของตัวเอง หากไม่ติดเพราะข้อความของแฝดผู้พี่แห่งบ้านเทพอักษรที่ส่งมากวนใจป่านนี้ก็คงหลับปุ๋ยไปแล้ว

ถูกเด็กนั่นเรียกว่าเฮียใบ เขาแทบลมจับ

ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่บทจะมา เธอก็ทำเอาเข้าตั้งตัวไม่ทัน ทว่าก็ยอมออกมาหาตามเจตนารมณ์ของอีกฝ่าย ด้วยเธอสำทับมาว่าตนเองดื่มไปพอประมาณจนรู้สึกมึนหัวและไม่อยากขับรถกลับบ้านเอง เขาที่เป็นตำรวจจะปล่อยผ่านไปก็ขัดกับจรรยาบรรณที่พึงมี ถึงได้พาเอสยูวีสัญชาติญี่ปุ่นของตนมาถึงอำเภอองครักษ์ ทั้งๆ ที่บ้านอยู่อำเภอเมือง

ก้าวเข้าไปในร้านได้ไม่กี่ก้าว สายตาก็ประสานเข้ากับหญิงสาวที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างอาภาสินี ที่บัดนี้นั่งกระดกแอลกอฮอล์เข้าปากจนหน้าแดงก่ำ

แก้วเหล้าถูกคว้าไว้กลางอากาศจนไม่สามารถส่งน้ำสีอำพันเข้าปากได้

ก่อนมันจะถูกดึงออกจากมือเล็กๆ แล้ววางลงจนเกิดเสียงดัง บ่งบอกว่าคนที่กระทำสิ่งนั้นไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก

เลปกรทิ้งสะโพกนั่งลงยังเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเมรีขี้เมา

หลุดพ้นจากพี่สาวคนรองไปได้ เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องวนมาเจอกับคนประเภทนี้อีก จึงได้แต่ส่ายหัวอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วพยักพเยิดหน้าให้เจ้าตัว

“ไง เรียกผมมาทำไม พวกเรามีอะไรต้องคุยกันด้วยเหรอครับ”

“มาจริงด้วยอะ” น้ำเสียงของอาภาสินีค่อนข้างยานคาง ซึ่งคนฟังก็หาได้แปลกใจ “นึกว่าจะไม่มา”

“มีอะไรครับ ผมไม่ได้ว่างนะ”

สาวเจ้ายังคงเงียบ ยื่นมือมาหวังจะคว้าแก้วเหล้าไปถือ แต่ก็ถูกเขาขัดด้วยการวางมันไว้ไกลมือบาง

“คุณเอื้อ ผมไม่ได้มีเวลาว่างพอมานั่งเฝ้าคุณดื่มเหล้าเป็นค่อนคืนนะครับ ถ้าจะให้มารับกลับก็กลับตั้งแต่ตอนนี้เลย แล้วที่บอกว่ามีเรื่องอยากคุยก็ไปคุยกันในรถ” อาภาสินีไม่ตอบ ไม่หือไม่อือกับคำพูดของเขาสักอย่าง เลือกที่จะฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะจนคนมองเผลอระบายลมหายใจออกมาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

“คุณเอื้อ?”

“...”

“ผมจะเช็กบิลแล้วพากลับบ้านนะ”

ว่าจบก็จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้กับเมรีขี้เมา

หาเรื่องแท้ๆ เลย อยู่บ้านดีๆ ไม่ชอบ ต้องออกมาเสียเงินโดยใช่เหตุ

แล้วจึงประคองร่างระหงไปยังรถของตนเอง ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงก่ำจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอแกร่ง ลมหายใจร้อนๆ รดรินพาขนกายลุกซู่ มือเรียวก็ปัดป่ายไปทั่วอย่างคนซุกซน

เขารับมือกับคนเมามามากพอสมควร ทั้งเพื่อนฝูง ทั้งเจ้านาย และพี่สาวคนรอง แต่ไม่เคยมีใครเมาแล้ว ‘หาเรื่อง’ ได้เท่าที่อาภาสินีทำเลย

ชายหนุ่มกัดฟันกรอด พูดเสียงลอดไรฟันอย่างข่มอารมณ์เมื่อมือบางป้วนเปี้ยนอยู่แถวหน้าท้อง “เอามือออกไป”

แต่ก็มินำพา...

เขาจึงเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงตัวรถแล้วจับคนขี้เมายัดเข้าไปนั่งด้านใน พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยให้เสร็จสรรพ

เธอเงยหน้ามองเขาตาแป๋ว

น่ารักตายแหละยายเพิ้ง!

“เดี๋ยวผมจะพาไปส่งที่บ้าน”

อาภาสินีไม่ตอบ แต่จังหวะที่ประตูจะถูกปิดลง แววตาที่เธอใช้มองกันกลับไม่เจือความปรือหยาดเยิ้มแต่อย่างใด แต่พอมองอีกทีก็เหมือนจะเป็นคนเมาทั่วๆ ไป

เลปกรรีบพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่อำเภอเมืองนครนายกอย่างไม่รอช้า

“ทำไมถึงมาดื่มไกลขนาดนี้”

เจ้าหล่อนไม่ตอบ แต่กลับทิ้งสายตามาที่สารถีโดยไม่คิดผละออกไปไหน

ใจจริงเขาไม่อยากสนทนาอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แต่เรื่องมันเลยเถิดมาแล้วเลยคิดเสียว่าเป็นการสอบปากคำ จะได้หายสงสัยว่าเหตุใดแม่นี่ถึงมาดื่มย้อมใจไกลถึงองครักษ์ และเขาอยากรู้เหลือเกินว่าอะไรดลใจให้เธอส่งข้อความไปหาเขา ทั้งๆ ที่คนรอบตัวก็ไม่ใช่น้อยๆ ไม่เห็นจะต้องเป็นเขาเลยที่ถูกเลือก

อาภาสินีในตอนนี้ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด

“ถ้าอยากดื่มทำไมไม่ไปร้านพี่กาด มันใกล้บ้าน”

ริมฝีปากสีหวานเผยอออก ตามมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เข้าร้านพี่กาดเดี๋ยวพี่อัสรู้”

“ทำไมถึงให้พี่อัสรู้ไม่ได้”

เธอเงียบ

เขาจึงยิงคำถามใส่ไปอีกครั้ง “แล้วไลน์หาผมทำไม ทำไมไม่บอกคนอื่น” ก่อนยกตัวอย่างเป็นแฝดผู้น้องของเจ้าตัว “น้องอี้ก็ได้”

ใบหน้าแดงปลั่งส่ายไปมาจนผมเผ้าปรกหน้า “ไม่ได้ ต้องเป็นเฮียใบ”

เสียงทุ้มเปล่งออกโดยไม่เจือความติดเล่น “อย่ามาเรียกผมแบบนั้น ผมไม่ใช่พี่ของคุณ”

หญิงสาวกลับจดจ้องคู่สนทนาอย่างไม่คิดหลบสายตา แม้จะจับคลื่นความจริงจังได้เต็มเปาแต่ก็ไม่นึกหวั่น

เธอเอ่ยชัดถ้อยชัดคำด้วยใบหน้าใสซื่อ “เอื้อก็ไม่ได้อยากเป็นแค่น้อง”

• ────── ✾ ────── •

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel