บทนำ
บทนำ
ร้อยตำรวจโท เลปกร เพียรกุล หรือเป็นที่รู้จักในนามผู้หมวดใบ มีสิ่งหนึ่งที่ขอสาบานว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่พาตัวเองเข้าไปเฉียด
แต่ดูเหมือนสวรรค์จะไม่เป็นใจ...
ครูพี่เอื้อ: ผู้หมวด ตอนนี้สะดวกคุยไหมคะ
ตำรวจหนุ่มเพิ่งกลับจากเคลียร์งานที่ฟิตเนสของตนเองได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง มาถึงบ้านก็อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเข้านอนในเวลาสามทุ่มครึ่ง เพราะพรุ่งนี้มีเวรเช้าจึงไม่อยากนอนดึก โดยปกติเขาก็หาได้เป็นคนชอบนอนดึก ประเดี๋ยวหน้าใสๆ จะโทรมเอาได้
หน้าโทรมแล้ว ‘สาว’ คนนั้นคงจะเมิน
เป็นเวลาเกือบสามปีที่เขาต้องวิ่งงานหลวงไม่ให้ขาด งานราษฎร์ไม่ให้เสีย เสร็จจากงานที่สถานีตำรวจก็ตรงดิ่งไปที่ Body Bai Fitness ทั้งเพื่อเคลียร์งานและออกกำลังกายฟิตหุ่น ช่วงปีสองปีแรกแรงบันดาลใจแกร่งกล้า เหนื่อยแค่ไหนก็สู้ไหว ด้วยภูมิอกภูมิใจกับธุรกิจแรกในชีวิตของตน แต่พอเข้าปีที่สามผลตอบรับกลับงอกเงยกว่าที่จินตนาการ กลายเป็นว่าจับปลาสองมือนั้นเหนื่อยสายตัวแทบขาดเกินไป พอดีกับที่เพื่อนสนิทขอฝากให้น้องของเจ้าตัวมาทำงานที่ฟิตเนส เขาจึงรับไว้ และนั่นช่วยให้เขาไม่ตึงมือกับหน้าที่การงานมากเกินไป
ชีวิตนายตำรวจหนุ่มเข้าขั้นดี แต่หลังจากได้รับข้อความของ ‘บุคคลต้องห้าม’ เขาก็สังหรณ์ว่าสิ่งแย่ๆ อาจจะเกิดขึ้นกับตน
ร.ต.ท. เลปกร(ใบ): ไม่สะดวกครับ
หลังตอบออกไปด้วยความสัตย์จริง นัยน์ตาคมก็เหลือบไปมองปุ่มบล็อกที่อยู่ด้านบน นึกอยากกดใจจะขาด แต่เพราะในบางโอกาสก็ยังต้องเจอหน้ากันอยู่จึงไม่อยากทำอะไรให้ผิดใจกันถึงขนาดนั้น แม้ว่าลึกๆ แล้วเขาไม่เคยอยากญาติดีกับครูพี่เอื้อที่เปิดโรงเรียนสอนภาษาอยู่บนชั้นสองของอัสมาคาเฟ่เลยก็ตาม
แต่ข้างกันก็เป็นบ้านของพี่สาวแท้ๆ เขาเองก็อยู่ละแวกนี้ เธอก็ไม่ต่าง มีบ้างที่พบเจอกันโดยบังเอิญ
เกือบสามปีเห็นจะได้ที่ได้ข่าวว่าน้องสาวฝาแฝดของอัสมากลับภูมิลำเนา คนน้องรับคอมมิชชั่นวาดรูป คนพี่สอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กนักเรียน แต่นับจากวันนั้นเมื่อสี่ปีที่แล้วซึ่งเป็นการพบเจอกันครั้งแรกระหว่างเขากับเธอ ความประทับใจค่อนข้างติดลบจนกู่ไม่กลับ ทุกวันนี้ยามเจอหน้ากันก็ไม่เคยยิ้ม ไม่เคยทักทาย ไม่เคยคุยกันสักคำ ต่างก็มองกันเป็นคนอื่นที่ไม่ต้องการให้วงโคจรขยับเข้าหากัน
แล้วอยู่ดีๆ ไอ้คนที่ตั้งป้อมเหม็นขี้หน้าเขาจะส่งข้อความมาหาทำไม
อธิกสุรทินรอบที่แล้วเขาเจอเธอแค่วันนั้นวันเดียว แค่เผลอเปิดประตูชนเค้กของเธอตก แม่นั่นก็ทำกับเขาราวว่าเป็นคนผิดมหันต์อย่างกับเผลอไปฆ่าใครตาย แม้จะขอโทษด้วยใจจริงเพราะรู้สึกผิด แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับแสดงความใจแคบและไม่น่ารักออกมาอย่างหน้าตาเฉย แล้วยังตำหนิเขาเกินความจำเป็นไปจนกระทั่งกระแนะกระแหนเขาว่าเป็นหมา ไม่คิดไว้หน้ากันสักนิด
ไม่บอกว่าเป็นน้องสาวแท้ๆ ของอัสมาก็คงคิดว่าเก็บมาเลี้ยง นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนั้นได้อย่างไร
คนคนนั้นน่ะ ให้ตายก็ไม่มีวันญาติดีด้วยแน่ๆ
แต่อธิกสุรทินรอบนี้เส้นขนานของเธอและเขาดันขยับเข้ามาใกล้กัน โดยที่เขาอยู่เฉยๆ แต่เป็นแม่นั่นเองต่างหากที่ไม่ยอมเฉย
ตั้งแต่ต้นปีมาจนจวนจะกลางปี มารดาก็เอาแต่พูดถึงเรื่องคำทำนายของหมอดูที่เคยบอกว่าในปีอธิกสรุทินเขาจะได้เจอกับเนื้อคู่ รอบที่แล้วไม่เจอ คุณนายขวัญเรือนจึงมั่นใจว่าปีนี้คงจะได้เจอเป็นแน่แท้
นั่นมีสิทธิ์เป็นไปได้สูงมาก ก็เขาเจอคนที่หมายมั่นให้มาเป็น ‘เนื้อคู่’ แล้วนี่นา
แต่แล้วคนที่ไม่อยากให้มีความเกี่ยวข้องดันกลับเข้ามาข้องแวะในปีนี้พอดิบพอดี เจอหน้ากันมาตั้งหลายปีต่างก็ทำตัวเป็นอากาศธาตุได้ แล้ววันนี้ผีตัวไหนมันเข้าสิงกันหรือ
เธอวนกลับเข้าในชีวิตเขาทุกๆ สี่ปีเหมือนวันที่ยี่สิบเก้าของเดือนกุมภาพันธ์ในปีอธิกสุรทิน
ครูพี่เอื้อ: คือว่าเอื้อมีเรื่องอยากคุยด้วยค่ะ
ร.ต.ท. เลปกร(ใบ): ทราบครับ แต่ผมไม่สะดวก
ครูพี่เอื้อ: ตอนนี้เอื้ออยู่ที่ร้าน SPACEBAR
เขาไม่ได้อยากรู้ความเป็นไปของเธอด้วยซ้ำว่าอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่ แต่แล้วข้อความที่ถูกส่งมาใหม่ก็ทำเอาตำรวจหนุ่มขนลุกเกรียวทั่วทั้งสรรพางค์กาย
ครูพี่เอื้อ: มาหาเอื้อหน่อยได้ไหมคะเฮียใบ
• ────── ✾ ────── •
*ปีอธิกสุรทิน คือปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน
น้องเอื้อเคยโผล่ในเรื่องของพี่สาวและพี่เขย >> เธอ...ที่ไม่โปรดปราน
เหตุการณ์ชนเค้กของพระนางอยู่ใน >> เธอ...ที่ไม่เข้าตา (ไม่เข้าตาที่11: บุญทำกรรมแต่ง)
ย้อนอ่านเพื่อความเข้าใจได้เพราะตัวละครเซ็ตเดียวกัน แต่ไม่อ่านก็ไม่มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องค่ะ