บทที่11 อิ่นซิน “ฉันมีสามีนะ”
บทที่11 อิ่นซิน “ฉันมีสามีนะ”
“แต่ว่า บริษัทซานหยวนกรุ๊ปของเราขอบข่ายเล็กเกินไป บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปน่าจะไม่เห็นเราอยู่ในสายตาหรอก เพราะฉะนั้นก่อนหน้านั้นฉันได้มีการตัดสินใจไปแล้วว่า จะร่วมมือกับบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป แต่ เมื่อคืน อิ่นซินกลับไปผิดใจกับฟางเย้น”
นัยน์ตาของนายท่านอิ่นทั้งคู่ ครั้งนี้เขามองไปอิ่นซิน หลานสาวคนนี้ของเขา แต่กลับเป็นท่าทางที่ถามหาความผิด สายตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
“อะไรนะ?”
อิ่นซินถอยหลังไปหนึ่งก้าว สีหน้าซีดลงเล็กน้อย
เธอรู้ว่าฟางเย้นคือทายาทของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป เป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป แต่เธอไม่รู้ว่าเพราะโปรเจคนั้น ทำให้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปกับบริษัทซานหยวนกรุ๊ปมีแนวโน้มที่จะร่วมมือกัน เมื่อวานนี้เพราะเกิดเรื่องอันตรายต่อลูกสาวของเธอ จึงทำให้เธอกระวนกระวายใจมาก จนเผลอด่าฟางเย้นออกไป
“เสี่ยวซิน ปู่ขอถามเธอหน่อยนะ มีเรื่องนี้เกิดขึ้นไหม?”
คุณท่านอิ่นมองไปยังอิ่นซิน
“ใช่ค่ะ”
สีหน้าของอิ่นซินซีดลง
“เมื่อคืน บริษัทฟางซื่อได้โทรศัพท์หาฉันแล้ว ว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์กับบริษัทซานหยวนกรุ๊ปของเรา ฉันพูดอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้แล้วใช่ไหม ว่าบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีโอกาสจะได้รับโปรเจคร่วมงานกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป ”
เสียงพูดของนายท่านอิ่นช้ามาก แต่สิ่งที่พูดออกมามันเต็มไปด้วยความกดดัน
ในเวลานี้นั่นเอง อิ่นป่ายที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ก้าวออกมา“ในเมื่ออิ่นซินมีเรื่องผิดใจกับคุณชายฟาง ทำให้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเรา และมันยิ่งทำให้บริษัทซานหยวนกรุ๊ปของเราคว้าโปรเจคนั้นของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ น้อง ก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้แล้วล่ะ”
“นั่นสิๆ กว่าจะคว้าโอกาสครั้งนี้มาได้ ขอแค่ได้โปรเจคของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป บริษัทซานหยวนกรุ๊ปของพวกเรา ก็จะสามารถบินทะยานไปสู่ฟ้าได้”
“โอกาสดีๆแบบนี้ กลับถูกอิ่นซินส่งลงหลุมไปซะอย่างงั้น จริงๆเลยนะ”
“อิ่นซิน เธอมันไร้ความสามารถจริงๆเลย ตอนนั้นรับบริษัทซานหยวนกรุ๊ปของเธอ แล้วเตะเธอออกจากการเป็นเจ้าบ้าน ยกศูนย์อำนาจของบริษัทซานหยวนกรุ๊ปออกมา ทางเลือกนี้ ตอนนั้นเดินมาถูกทางแล้วจริงๆ”
ทุกคนต่างพากันวิจารณ์ไม่หยุด สายตาที่มองไปยังอิ่นซิน เต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร
“ได้ เรื่องนี้ ฉันจะรับผิดชอบเอง”
อิ่นซินกัดริมฝีปาก ตอบตกลงอย่างยากลำบาก
สถานการณ์ในตอนนี้ ไม่ตอบตกลงก็คงไม่ได้แล้ว เป็นการยากที่จะทำให้ถูกใจทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น เธอไปมีเรื่องกับหางเย้นจริงๆ
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันได้ยินมาว่าคุณชายฟาง ชอบอิ่นซินมาโดยตลอด ยกอิ่นซินให้กับคุณชายฟาง เป็นภรรยาของคุณชายฟาง แบบนี้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปกับบริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็จะได้เกี่ยวดองกัน สนิทชิดเชื้อกันมากยิ่งขึ้น”อิ่นป่ายพูด
“ไม่ได้”
ในขณะที่อยู่ในห้องประชุมนั้น อิ่นซินรีบพูดปฏิเสธในทันที แล้วพูดต่อไปว่า“ฉันเป็นคนที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว และแต่งงานแล้ว ฉันมีสามีแล้วนะ จะไปแต่งงานกับคุณชายฟางได้ยังไง”
“แต่งงานแล้ว มีสามีแล้วงั้นหรอ?อิ่นซิน ในห้องประชุมนี้ใครไม่รู้กัน ว่าฉินเฟิงมันเป็นคนขี้ขลาดตาขาวไร้ความสามารถ เธอกลับยังกล้าเอามันยกขึ้นมาพูดบนนี้ ในเมื่อคุณชายฟางชอบเธอถือว่าเป็นบุญของเธอแล้วนะ”
“คุณชายฟางเป็นคนระดับไหน คุณชายฟางน่ะ เป็นนักเรียนนอก จบการวิจัย ไม่ว่าจะเรื่องทรัพย์สมบัติ หน้าตา ดีกว่าสามีเศษสวะของเธอ ไม่ใช่แค่ดาวครึ่งนะ”
“ฉันไว้หน้าเธอแล้วเธอไม่สนใจ อุบัติเหตุครั้งนี้ ความจริงเป็นสิ่งที่เธอก่อนขึ้นทั้งนั้น ไม่อย่างนั้น บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปจะปฏิเสธการร่วมงานกับบริษัทซานหยวนกรุ๊ปหรอ?นี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการคว้าโปรเจคของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปเลยนะ เธอกลับทำมันพัง!”
อิ่นป่ายเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง แต่ละคำพูด ยิ่งพูดก็ยิ่งมีอารมณ์มากยิ่งขึ้น สายตาแฝงไปด้วยนัยน์ตาคมกริบอย่างหนึ่ง ที่บีบบังคับอิ่นซินจนไร้หนทาง สุดท้าย อิ่นป่ายก็เคาะโต๊ะ แล้วถามด้วยเสียงดุดัน“ฉันขอถามเธอแค่หนึ่งครั้ง เรื่องนี้ เธอเป็นคนก่อขึ้นมา มันเป็นความรับผิดชอบของเธอ เธอจะเก็บกวาดเรื่องพวกนี้ไหม?”
“ฉัน……”
กดดันจนอิ่นซินหายใจไม่ออก
ในเวลานี้นั่นเอง ด้านหลังของอิ่นซิน ก็มีเสียงหนึ่งดังลอดออกมาเสียงหนึ่ง“เรื่องนี้ พวกเราจะจัดการด้วยตัวเอง แต่วิธีจะไม่เหมือนกับวิธีขอพวกคุณ อย่างไรเสีย ภรรยาผมก็พูดแล้ว ว่าเธอเป็นคนที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว!”
“ฉินเฟิง!”
อิ่นซินหันหน้ากลับไปทันที มองเห็นฉินเฟิง ทันทีที่เธอได้ยินเสียงนี้ ก็รู้ได้ในทันที
“ฉินเฟิง แกยังกล้ามาบริษัทของพวกฉันอีกหรอวะ!”
อิ่นป่ายมองหน้าฉินเฟิงพร้อมกัดฟันกรอด ในสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถ้าหากไม่ใช่หมอนี้ ครั้งนั้น พวกเขาก็คงสามารถบีบบังคับอิ่นซินได้สำเร็จแล้ว บังคับให้เอาหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์นั้นออกมาได้แล้ว
คงไม่เป็นดังเช่นทุกวันนี้!
“ทำไม เพราะอะไรถึงจะไม่กล้ามาล่ะ ฉันฉินเฟิงที่ทั้งการกระทำและกายเที่ยงตรง”
ฉินเฟิงถามกลับไปหนึ่งประโยค
“หึๆ ฉินเฟิง ฉันขอถามแกหน่อย แกจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”
อิ่นป่ายถามกลับเข้าประเด็นอีกครั้ง
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจหรอก ยังไงซะ โปรเจคของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป ภรรยาของผมก็สามารถเอากลับมาได้อยู่แล้ว” ฉินเฟิงพูด
“หึๆ มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ?ไม่กลัวลมแรงทำลิ้นพลิกรึไง?”
อิ่นป่ายหัวเราะหึๆ เต็มไปด้วยการประชดประชัน
“จุดนี้ คุณไม่ต้องสนใจหรอกครับ” ฉินเฟิงพูด
“เอาล่ะ อิ่นซิน สามีคนดีของเธอ ตัดสินใจแทนเธออีกแล้วสินะ แต่โชคชะตาของเธอในครั้งนี้ คงจะไม่โชคดีเหมือนครั้งก่อนหรอกนะ” อิ่นป่ายยักคิ้ว
ต่งๆ!
และในตอนนี้เอง นายท่านอิ่นกระแทกไม้เท้า แล้วพูดออกไปว่า“เสี่ยวซิน ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้ว ถ้าอย่างงั้นปู่ก็จะพูดกับเธอให้ชัดเจน ถ้าเธอคว้าโปรเจคของบริษัทเฟิงซิ่งมาไม่ได้ และยื้อความสัมพันธ์ของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปกลับมาไม่ได้ จะทำให้บริษัทซานหยวนกรุ๊ปของเราสูญเสียมหาศาล การสูญเสียนี้ เธอต้องเข้าใจนะ ว่ามันไม่ใช่เรื่องของเงินไม่กี่พันล้านหรอกนะ”
“ขอแค่ล้มเหลว การสูญเสียนี้ จะคิดบัญชีกับเธอทั้งหมด หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของเธอ ธุรกิจที่อยู่ภายใต้ชื่อของเธอ แม้กระทั่งทั้งบ้านของเธอจะถูกขับออกจากตระกูลทั้งหมด!”
“ในเมื่อ เธออยากจะเสี่ยงดูสักตั้ง ถ้าอย่างงั้นปู่จะขอสู้ด้วยความยินดี”
“เลิกประชุม”
หลังจากที่เลิกประชุม ทั้งห้องประชุมก็มีเสียงหัวเราะ สายตาที่มองไปยังอิ่นซิน มีสัมผัสแห่งความสนุกแฝงเอาไว้ บริษัทเฟิ่งซิ่งกรุ๊ปเป็นบริษัทใหญ่ที่มาจากจิงตูเชียวนะ ทำไมจะต้องมาร่วมงานกับบริษัทปลายแถวเล็กๆอย่างบริษัทซานหยวนกรุ๊ปที่เป็นบริษัทอยู่ในเมืองเจียงเฉิงด้วยล่ะ
แต่คุณชายฟาง เป็นคุณชายเพลย์บอยคนหนึ่ง แค่หิวกระหายอยากได้ร่างกายของอิ่นซินเท่านั้นเอง
คราวนี้ อิ่นซินซวยแล้ว
ซวยแน่นอน
ทั้งบ้านของอิ่นซินจบเห่แล้ว
“ฉินเฟิง คุณตัดสินใจแทนฉันอีกแล้วนะ!”
หลังจากที่รอทุกคนเดินออกไปแล้ว สีหน้าของอิ่นซินซีดลงเล็กน้อย จ้องไปที่ฉินเฟิงตาโต แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง“คุณรู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องนี้มันยากขนาดไหน มันใหญ่ขนาดไหน ทางออกเดียวที่มีอยู่บนตัวของคุณชายตระกูลฟาง มีแค่การจับมือกับบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปเท่านั้น เราถึงจะมีความหวังได้รับโปรเจคของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป ขอแค่คว้าโปรเจคของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปได้ ฉันถึงจะกลับไปนั่งตำแหน่งประธานได้อีกครั้ง เอาของที่มันควรเป็นของฉันกลับมาได้”
“โปรเจคนี้ มันสำคัญกับฉันมาก!”
“ช่างเถอะ พูดกับคุณไป คุณก็ไม่เข้าใจ สีซอให้ควายฟัง!โชคยังดีว่าฉันยังพอมีคนอยู่ในบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป”
“ยัยเมียบ๊องเอ้ย”
ฉินเฟิงมองแผ่นหลังของอิ่นซินเดินจากไป แล้วส่ายหัว
เขาพบอะไรอย่างหนึ่ง ชุดเครื่องแบบนักธุรกิจสาวที่อยู่บนเรือนร่างของเธอนั้น บวกกับรูปร่างที่ด้านหน้านูนรับกับสะโพกที่งอนสวย ถึงเธอจะมีลูกแล้วหนึ่งคน แต่นี่ก็เรียกได้ว่าคือรูปร่างของปีศาจสาว ส่วนที่ควรใหญ่ก็ใหญ่ ส่วนที่ควรเล็กก็เล็ก ใบหน้าสวยหมดจด เครื่องหน้าทั้งห้าสมดุลย์ ดวงตาคู่สวย เหมือนซ่อนดวงดาวน้อยใหญ่เอาไว้ในนั้น สมกับที่เป็นหญิงงามแห่งเมืองเจียงเฉิง และสมกับที่เป็นภรรยาของตนเอง
ประเด็นคือ เวลาที่พาลโมโหลงกับตน ยังคงสวยอยู่เลย