บทที่1 การกลับมาของเทพแห่งสงครามพร้อมกับเด็กหญิงคนหนึ่ง
บทที่1 การกลับมาของเทพแห่งสงครามพร้อมกับเด็กหญิงคนหนึ่ง
เวลาเที่ยง ณ บริเวณเขตทหาร
ในบริเวณนั้นมีชายชราหัวหงอกคนนึง แต่แต่งตัวในชุดทหาร ร่างกายเที่ยงตรงยังคงแสดงให้เห็นว่าแม้จะแก่แล้วแต่ก็ยังแข็งแรง และยศทหารบนบ่าของเขาแสดงให้เห็นถึงตัวตนของเขา
นี่เป็นคนชั้นสูงที่สุดของเขตทหารในประเทศต้าหัว
“แกจะไปจริงๆเหรอ?”
ชายชราใช้สายตาที่แหลมคมจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง โครงหน้าของชายหนุ่มชัดเจน บนร่างกายมีกลิ่นอายของความมีวุฒิภาวะที่ผ่านการล้างบาปจากสงคราม
“ใช่ครับ”
ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเล
“ฉินเฟิงฉันเป็นคนเฝ้ามองแกตั้งแต่เข้ามาที่นี่ ตั้งแต่เป็นทหารยศน้อยแกก็เริ่มไม่รักชีวิตตัวเอง ภารกิจอะไรที่มันอันตราย แกก็จะสมัครใจไปทำภารกิจนั้นกระทั่งยังเข้าร่วมหน่วยกริชที่โหดเหี้ยมอำมหิต เจ็ดปี เจ็ดปีเต็มๆ รอยแผลบนตัวแกที่โดนยิงไปสามสิบสองครั้ง ในเก้าครั้งนั้นแกเกือบไม่รอด ขาข้างนึงได้เหยียบเข้าประตูนรกแล้ว”
“ต่อมาจึงมีรุ่นนายพลฉินที่เป็นผู้นำที่สง่าและน่าเกรงขามของเมืองอีสเตอร์แลนด์ มีสงครามมานักต่อนักชนะหมดไม่เคยพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว ทำสงครามครั้งเดียวก็โด่งดัง ในเวลาที่ยากลำบากก็ได้ฆ่ากองกำลังศัตรูนับสามแสนนาย ทำสงครามครั้งเดียวก็ทำให้ประเทศได้รับความสงบจากภัยพิบัติแอบแฝง ผลงานแบบนี้ถ้าไม่ใช่แกเกรงว่าจิงตูคงไม่เหลือแม้แต่ซากแล้ว”
“ในวันนี้ ฉันอยากมอบตำแหน่งของฉันให้กับแกแต่แกกลับบอกว่าแกจะไปจากที่นี่?”
“ฉันขอถามแกครั้งสุดท้าย แกจะจากไปจริงๆหรอ?”
สายตาของชายชราราวกับว่าเต็มไปด้วยไฟแห่งสงครามอย่างไม่ต้องสงสัย
“ท่านหลี่ผมเพิ่งได้รับสารมาว่าผมมีลูกแล้ว อายุหกขวบ”
ฉินเฟิงแสดงความเคารพแบบทหารแก่ชายชรา
จากนั้นหันหลังจากไป
........
เมืองเจียงเฉิง
สนามบินเทียนอวี๋
“นายพล เบื้องบนสั่งมาแม้จะถอนตัวแต่ต้องไม่ละทิ้งหน้าที่”
ฉีหยุนผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ภายใต้กำมือของฉินเฟิน เมื่อเทียบกับฉินเฟิงแล้วเขาดูแข็งแกร่งกว่าหลายระดับ เขาก้าวเดินมายืนข้างๆฉินเฟิงก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้น
“อืม เข้าใจแล้ว”
ฉินเฟิงพยักหน้า เขารู้ว่านี่เป็นการตัดสินใจของท่านหลี่ที่มีต่อตัวเอง เขาปกครองเขตทหารในเมืองอีสเตอร์แลนด์มาเจ็ดปีเต็มๆ ในวันนี้โลกสงบสุข ศัตรูต่างถิ่นสลายเขาก็ควรที่จะกลับเมืองเจียงเฉิงแล้ว
อีกอย่าง ยังมีอิ่นซินอยู่
และยังมีสารที่ส่งกลับมาเมื่อวาน เธอมีลูกสาวหนึ่งคน
“อิ่นซิน เธอสบายดีไหม?”
ฉินเฟิงหยิบรูปออกมาใบนึง สภาพจิตใจสับสนมาก บนรูปมีคนๆนึงที่สวมเครื่องแบบOL เป็นผู้หญิงที่มีลักษณะเย็นชาด้านหลังมีข้อความนึง
ประธานบริษัทซานหยวนกรุ๊ปแห่งเมืองเจียงเฉิง
เจ็ดปีก่อน เมืองเจียงเฉิงได้สร้างเรื่องตลกไว้อย่างมาก ประธานหญิงแสนมาดเท่อย่างอิ่นซินถูกคู่แข่งลอบกัดและยังขึ้นเตียงกับขอทานอีก
ทันใดนั้น มีปัญหาจนเมืองเจียงเฉิงพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน มีคนมาถามอิ่นซินทุกวัน
ขอทานคนนั้นก็คือฉินเฟิง
ต่อมา เพราะเรื่องนี้หุ้นของบริษัทซานหยวนกรุ๊ปตกไปหนึ่งหมื่นล้านหยวน เพื่อไม่ก่อให้เกิดคำนินทาอีก ตระกูลอิ่นจึงฝืนใจยอมรับเรื่องนี้และให้ฉินเฟิงเป็นลูกเขยของตระกูลอิ่นแต่ฉินเฟิงรู้สึกตัวเองนั้นไม่เหมาะกับอิ่นซิน
วันที่สองก็ได้เข้าไปเป็นทหาร
เจ็ดปี เจ็ดปีเต็มๆ ภารกิจอะไรที่มันอันตรายเขาก็จะปฏิบัติภารกิจนั้นจนได้รับฉายาในค่ายทหารว่า ‘ไอ้บ้าที่ไม่รักชีวิต’ สุดท้ายจากทหารยศน้อย กลายเป็นเทพแห่งเจ้าอีสเตอร์แลนด์ มีวีรบุรุษในกำมือนับแสนนายเป็นนายพลที่ไม่มีใครเทียบได้ ทำสงครามครั้งเดียวทำลายกองทัพสามแสนนายจากประเทศศัตรู
เพียงเพราะว่า อิ่นซินยังเป็นคนที่เขาห่วงเสมอมา
“ขอโทษ”
ฉินเฟิงรู้ตัวเองรู้สึกผิดต่ออิ่นซิน ไม่เพียงแต่แค่คืนนั้นแต่เพราะตัวเองไม่ได้จากไปในปีนั้น
“คุณผู้ชาย คุณสังเกตไหมว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคล้ายคลึงกับคุณมาก”
จู่ๆ ฉีหยุนชี้ไปทางนั้น
ฉินเฟิงก็ได้มองไป เห็นเพียงเด็กผู้หญิงที่กำลังวิ่งมาทางเขาและด้านหลังยังมีผู้ชายสองคนที่สวมชุดสูทวิ่งตามมา
“ไอ้เด็กบ้า วิ่งทำไมหยุดเดี๋ยวนี้”
“รอเราจับแกได้ก่อน จะตีแกให้ตายแน่นอน!”
สีหน้าชายหนุ่มทั้งสองเต็มไปด้วยความดุ อีกอย่างทั้งสองก็ดูโตแล้วต้องวิ่งเร็วกว่าเด็กอยู่แล้ว ไม่นานก็จะตามทันแล้วห่างเพียงแค่เอื้อมมือ
ชายหนุ่มหนึ่งในนั้นยิ้ม และยื่นมือออกไปเตรียมที่จะจับเด็กนั่น
แต่ถูกฉีหยุนจับตัวได้ในมือเดียว “ชายสองคนรังแกเด็กผู้หญิงคนเดียวหมายความว่าไง แน่จริงก็มาดวนกับฉันว่าไง?”
“คุณเหรอ? เหอะ”
ชายหนุ่มสองคนมองฉีหยุนอย่างละเอียดถี่ถ้วน แว็บแรกดูเหมือนคนธรรมดา ทันใดนั้นก็แพร่สายตาที่ดูถูกออกมา “คุณเนี่ยนะ? อยากเป็นวีรบุรุษ?”
“เด็กน้อย ตอนไปโรงพยาบาลก็จงจำไว้ว่าฉันเป็นคนต่อยแกเอง”
ชายหนุ่มหนึ่งในนั้นเหวี่ยงหมัดไปที่หัวของฉีหยุน แต่ว่าฉีหยุนแค่ขยับหัวเบาๆ ก็หลบหมัดนั้นได้ สุดท้ายพูดดูถูกเบาๆ “ มีความสามารถแค่นี้เองเหรอ? งั้นขอโทษนะตอนไปโรงพยาบาลจงจำไว้ว่าฉันชื่อฉีหยุน”
จากนั้นก็เหวี่ยงหมัดออกไป
ต่อยโดนคางของคนนั้น
จากนั้นก็ทุ่มตัวชายหนุ่มอีกคนก็ล้มลงกับพื้น ทั้งสองก็ได้หมดสติไป
“เด็กน้อย อย่ากลัว”
ตอนนี้เด็กคนนั้นได้วิ่งไปอยู่ตรงหน้าฉินเฟิงและหลบอยู่ด้านหลังของฉินเฟิง ฉินเฟิงลูบหัวของเธอเพื่อปลอบเธอ
ฉินเฟิงมองเด็กผู้หญิงอย่างละเอียดถี่ถ้วน อายุราวๆประมาณหกเจ็ดขวบ
ผมสั้นเท่าติ่งหู สะอาดเสื้อผ้าเก่าแต่ซักจนสะอาดสะอ้านจนเป็นสีขาว อย่างไรก็ตามนี่ไม่สามารถซ่อนความน่ารักของเด็กหญิงได้
แต่ทว่าฉินเฟิงสังเกตเห็นว่าเด็กคนนี้เหมือนเขามาก
“คุณเป็นพ่อของหนูหรือเปล่า?”
เด็กน้อยก็มองไปที่ฉินเฟิง จู่ๆก็กอดขาของฉินเฟิงและร้องไห้ออกมา “กั่วกั่วเป็นคนที่มีพ่อแล้ว กั่วกั่วไม่ต้องยอมรับคนนิสัยไม่ดีคนนั้นเป็นพ่อแล้วฮือๆๆ.....”
ร้องไห้จนทำให้คนอื่นใจสลาย
และในขณะเดียวกันก็มีผู้หญิงคนนึงใส่รองเท้าส้นสูง รีบมาสถานที่แห่งนี้ “ฉินกั่วกั่ว”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เด็กน้อยรีบกลั้นน้ำตาหันหน้ามาทางผู้หญิงคนนั้นรีบกระโจนเข้าใส่ตัวผู้หญิงคนนั้น “แม่ แม่ รีบดูนี่สิ หนูหาพ่อเจอแล้ว หนูหาพ่อเจอแล้วจริงๆไม่ต้องยอมรับคนนิสัยไม่ดีคนนั้นเป็นพ่อแล้ว”
“แซ่ฉิน! อิ่นซิน”
ในใจฉินเฟิงเหมือนโดนฟ้าผ่าในตอนกลางวันและหายใจร้อนรน มองดูผู้หญิงที่ตัวเองคิดถึงอยู่ทุกวัน เขาจำไม่ผิดแน่ แม้ว่าเพียงแค่คืนเดียว เขาก็จำไม่ผิดแน่ๆ
งั้นเด็กคนนี้!
เป็นของเราเหรอ?