บทที่ 8 เพชรสีฟ้าสังเคราะห์ ขยะ
บทที่ 8 เพชรสีฟ้าสังเคราะห์ ขยะ
“ก้อนหินก้อนหนึ่ง?”
ทุกคนมองไปที่สร้อยคอเส้นนั้น มันเป็นเชือกสีแดงธรรมดา ที่ร้อยด้วยหินไข่ห่านธรรมดา ถ้าจะบอกว่าแตกต่างจากหินไข่ห่านทั่วไปตรงไหน
ก็คือส่วนด้านบนของมันเป็นหลุม เหมือนแม่น้ำที่เหือดแห้ง
“ฮ่าฮ่า ฉันก็คิดว่ามันคืออะไรสักอย่าง? ท่าทางจริงจังขนาดนี้ ที่แท้ก็เป็นหินก้อนแตกๆก้อนหนึ่ง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าขำจะตายแล้วๆ
ทีแรกฟางเย้นจริงจังมาก แต่พอเขาดูดีๆอีกรอบ ก็พบว่ามันยังคงเป็นก้อนกรวดธรรมดาๆ และไม่ได้มีค่าอะไร เขาก็หัวเราะออกมาทันที
ก็นึกว่าจะเป็นคู่แข่งคนหนึ่ง
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแค่พวกขยะ
ยังคงเป็นเจ้าพวกขยะที่โง่เง่า
"ฉินเฟิง ฉันก็นึกว่านายจะพัฒนา ให้ของที่มันดูมีค่าหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นก้อนหินธรรมดาๆแบบนี้ เทียบกับฟางเย้นแล้ว ฟ้ากับเหวชัดๆ ในช่วงเวลาตอนนั้น ลูกสาวของฉันซวยจริงๆเลยที่มาเจอผู้ชายอย่างนาย
จางลี่ส่ายหัว แล้วมองมาที่ฟางเย้นยิ่งมองก็ยิ่งถูกชะตา
ฉินเฟิงมองไปที่หินก้อนนั้นแล้วครุ่นคิด
ในปีนั้นเขาไปทําสงครามครั้งแรก ได้เก็บหินก้อนเล็กๆก้อนนี้บนทะเลทรายโกบี เพื่อเป็นระลึก สงครามในครั้งนั้นอันตรายมากผู้คนต่างตายกันหมด เขาคือคนเดียวที่รอดชีวิต
เพียงเพราะว่าเขาใส่หินนั้นในกระเป๋าหน้าอกของเขา
แล้วมันก็กันกระสุนที่พุงเข้ามาได้พอดี
หลังจากนั้น หินก้อนนี้ก็อยู่กับฉินเฟิงมาตลอดไม่ว่าจะเป็นการสู้รบที่ใหญ่หรือเล็ก เป็นสักขีพยานว่าฉินเฟิงทำอะไรในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา และยังเป็นสักขีพยานว่าฉินเฟิงจากทหารตัวเล็กๆคนหนึ่ง กลายเป็นบุคคลสุดยอดที่ไม่มีใครเทียบได้ในยุคนี้
ฉินเฟิง เรียกอีกอย่างว่าเทพเจ้าแห่งสงคราม
ดังนั้น หินก้อนนี้จึงสําคัญมากสําหรับฉินเฟิง ตลอดเจ็ดปีไม่เคยห่างจากตัวเลย
“เก็บดีๆนะ นี่คือสิ่งที่มีค่าที่สุดสําหรับพ่อนอกเหนือจากลูกและแม่ของลูก” ฉินเฟิงพูด
“ได้ค่ะคุณพ่อ หนูชอบมัน ขอบคุณนะคะ”
ฉินกั่วกั่วพยักหน้า ดีใจ
“ฉินเฟิง นี่คือสิ่งที่นายเก็บมาจากทะเลทรายโกบีใช่มั้ย? แล้วนายยังจะเอาให้กั่วกั่ว? ช่างน่าสมเพชจริงๆ ”
เมื่อฟางเย้นเห็นฉินกั่วกั่วกําลังเล่นกับหินก้อนนั้นอย่างมีความสุข และไม่ได้สนใจเพชรสีฟ้า(บลูไดมอนด์)ของเขา เขารู้สึกโกรธมาก
ฉินเฟิงหันหน้าไปมองฟางเย้น ดวงตาของเขาไม่เป็นมิตรเอาซะเลย “หินก้อนนี้ผมเก็บมาจากทะเลทรายโกบีจริง แต่ถ้าเทียบกับสร้อยคอที่ต้องแลกกับชีวิตคนเส้นนั้นของคุณ มันดีกว่าหมื่นเท่าเลยล่ะครับ
ประโยคนี้ราวกับก้อนหินก้อนใหญ่ที่ตกลงมาบนผิวทะเลสาบ แล้วทําให้เกิดคลื่นซัดกระเพื่อมขึ้น
ปั๊ว!
จางลี่ตบมือลงบนโต๊ะและพูดอย่างดุดันว่า "ฉินเฟิง นายพูดเรื่องไร้สาระอะไร? แลกกับชีวิตคน? นายให้ของขวัญที่ดีไม่ได้ แล้วยังจะมาใส่ร้ายฟางเย้นอีก ช่างต่ำช้าไร้ยางอายจริงๆ”
“ฉินเฟิง นายมันเลวกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย”
พ่อของอิ่นซินหันหน้าไปอีกทาง ไม่อยากแม้แต่จะชายตาแลฉินเฟิง
นัยน์ตาของอิ่นซินเต็มไปด้วยความผิดหวัง เธอคิดว่าถึงแม้ฉินเฟิงจะยังไม่ประสบความสําเร็จ ไม่มีรสนิยมก็ยังพอรับได้ แต่คิดไม่ถึงว่ารสนิยมจะแย่ได้ขนาดนี้
ไม่มีเงินพอที่จะซื้อของขวัญ เธอก็ไม่คิดโทษฉินเฟิง แต่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อของขวัญ แล้วยังไปว่าร้ายของขวัญของคนอื่น
คนแบบนี้ เลวจริงๆ
“ฮ่าฮ่า ฉินเฟิง นายมันไม่มีเงินจนบ้าไปแล้วเหรอ ตัวเองจน ให้ก้อนหินที่แตกๆนั่นเป็นของขวัญก็ว่าหนักแล้วนะ ยังจะมาหาว่าของขวัญของฉันมีปัญหาอีก"
ฟางเหยียนชี้ไปที่ฉินเฟิงและหัวเราะออกมา
วินาทีต่อตัวของเขาแข็งทื่อเพราะฉินเฟิงพูดออกมาว่า “ถ้าเป็นของจริงแน่นอนว่ามันบำรุงรักษาพลังระบบประสาทและช่วยในการนอนหลับ แต่ถ้าเป็นของปลอมก็คงจะไม่มีสรรพคุณพวกนี้”
“ฉินเฟิง นายหมายความว่ายังไง!”
ดวงตาของฟางเย้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขาชี้ไปที่ฉินเฟิง “นายมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าของชั้นปลอม? สิทธิ์ที่ว่านายไม่สามารถให้ของขวัญที่ราคาแพงแบบนี้ได้น่ะหรอ?”
เพชรสีฟ้า (บลูไดมอนด์) หายากที่สุดในตลาด หายากจนไม่มีราคาคงที่ในตลาด ในท้องตลาดทั่วไปจะมองไม่เห็นแม้แต่เงาของมันเลย มีเพียงการประมูลที่มีชื่อเสียงเท่านั้นจึงจะปรากฏ ”
“บริษัท LV ในการประมูลเมื่อปีก่อนใช้เงินสิบล้านซื้อเพชรสีฟ้า(บลูไดมอนด์) ที่มีรอยร้าวนั้น จากนั้นแยกมันออกเพื่อสร้างแบรนด์ ASD ทั้งหมด 500 แบรนด์ เพชรรุ่นหัวใจสีฟ้าจะมีรอยแตกในแต่ละชิ้น และเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเพชรสีฟ้า(บลูไดมอนด์) ที่มีรอยแตกร้าว และก็เพื่อให้เพชรชุดนี้มีราคาสูงขึ้น เพชรรุ่นหัวใจสีฟ้าจะมีรอยแตกอยู่ระหว่างกลางของแต่ละชิ้น”
“ขอถามหน่อยว่า เพชรรุ่นหัวใจสีฟ้าของคุณ มีรอยแตกที่ส่วนไหน?”
ฉินเฟิงถามฟางเย้นทีละประโยคๆ จนทำให้สีหน้าของฟางเย้นซีดเผือด
พออิ่นซินได้ยินดังนั้น ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและรีบไปตรวจดู แล้วเงยหน้าขึ้นพูดอย่างซับซ้อนว่า “นี่เป็นเรื่องจริงค่ะ เพชรรุ่นหัวใจสีฟ้ามีรอยร้าวอยู่ตรงกลาง”
“บริษัทLV เป็นบริษัทสินค้าหรูชั้นนํา ในด้านนี้ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน และสร้อยคอของคุณมีแสงสีฟ้ามากเกินไป แม้แต่เพชรสีฟ้า(บลูไดมอนด์) ก็ไม่ใช่ เป็นแค่เพชรสีฟ้าสังเคราะห์เท่านั้น บางทีก็อาจจะแค่สามสิบหยวน”
“และเพชรสังเคราะห์จะเปลี่ยนสีหลังจากการฉายรังสีเท่านั้น เพชรแบบนี้มีกัมมันตภาพรังสีที่แรงกล้า ถ้าหากสวมใส่ไปนานๆอาจทําให้เกิดอันตรายอย่างมากต่อร่างกาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหากสวมใส่บนเด็กอายุหกขวบ ผลที่ตามมาจินตนาการภาพไม่ได้เลย”
“คุณ มีความแค้นกับลูกสาวผมอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อฉินเฟิงพูดจบ ดวงตาของเขาก็ฉายแววดุร้ายออกมา ทำให้ฟางเย้นตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว และก็ล้มลงกับพื้นในที่สุด ส่ายหัวไปมาแล้วพูดว่า “ผมจ่ายเงินไปสามพันเพื่อซื้อมันมา ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอันตราย”
“คุณ”
เมื่ออิ่นซินเห็นว่าฟางเย้นยอมรับแล้ว เธอโกรธมาก ร่างกายของเด็กเดิมทีก็อ่อนแออยู่แล้ว ถ้าหากป่วยและบวกกับใส่เพชรสีฟ้าสังเคราะห์นั่นอีก
คงตายแน่ๆ!
กั่วกั่วเป็นลูกสาวของเธอ!
“ไสหัวไปเลยนะ”
แล้วทันใดนั้นอิ่นซินก็ตะโกนด่าฟางเย้น จนฟางเย้นกลัวแล้วรีบวิ่งออกไป ไม่กล้าอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว ไม่รู้ว่าทําไม ก่อนหน้านี้ที่ฉินเฟิงถามเขา เขารู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออกอย่างช้าๆ!
มีเพียงตอนที่เขาหนีออกจากบ้านตระกูลอิ่นเท่านั้น ที่ได้หายใจเข้าลึกๆ
หลังจากที่ฟางเย้นไปแล้ว จางลี่ก็มองไปที่เพชรสีฟ้าสังเคราะห์นั้น เห็นชัดเจนว่าเธอทำตัวไม่ถูกอึดอัดใจ มากไปกว่านั้นเธอคุยโม้โอ้อวดเพชรนี้มาตลอด คิดมาตลอดว่าฟางเย้นจะไปได้ดี แล้วนี่ก็เป็นชายหนุ่มประสบความสําเร็จที่เธอหามาด้วยตัวเอง คิดไม่ถึงว่าจะมาหลอก
จุดนี้สู้ฉินเฟิงไม่ได้เลย
“ฉินเฟิง นายอย่าคิดว่าตัวเองรู้เรื่องเพชรสีฟ้า(บลูไดมอนด์) แล้วจะเก่งมากนะ สําหรับขยะอย่างนายไม่มีทางที่เราจะให้เข้าบ้านได้ ”
จางลี่พูดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
สีหน้าของอิ่นซินดูซับซ้อน หลายปีมานี้ หลังจากที่ฉินเฟิงจากไป ไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน น้อยใจมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้เธอจะไม่ยอมให้อภัยฉินเฟิง
อิ่นหยวนไม่ได้พูดอะไร