ตอนที่7 ตระกูลชิน
ณ.ตระกูลชิน
"บัดซบพวกแกบอกข้าว่ายังหาลูกข้าไม่เจออีกรึ ไปหาลูกข้าให้พบถ้าไม่เจอพวกเจ้าตาย!!"
เสียงของผู้นำตระกูลชิน กล่าวขึ้นโดยน้ำเสียงเดือดดาล เพราะเมื่อวาน ชินจ้าว และ สหายของลูกมันยังไม่ได้กลับออกมาจากป่าอสูร จึงทำให้ผู้นำตระกูลโกรธเป็นอย่างมาก ตระกูลชินเป็นตระกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องการนำสัตว์อสูรมาเป็นทาสอยู่บ่อยครั้ง ผู้นำตระกูลชิน คือ ชินหลง เป็นคนที่โหดร้ายอัมหิต ชาวบ้านในเมืองจรัสแสง ต่างรู้ดี ข่าวของการหายสาปสูญของชินจ้าวสร้างความยินดีปิติให้แก่ชาวบ้าน เพราะทั้งตระกูลเลวไม่แพ้กัน...
"นี้ๆ พวกเจ้าข่าวที่ว่านายน้อยตระกูลชินหายสาปสูญในป่าอสูรเป็นเรื่องจริงเหรอ? " ชาวบ้านที่กำลังซื้อซาลาเปาเอ่ยถามพวกลูกค้าของตน
" ใช่ๆ เป็นอย่างที่ท่านว่า หึ! ข้าว่าตายไปซะก็ดี พวกที่มีอำนาจแล้วใช้ในทางที่ผิดน่ารังเกียจยิ่งนัก" เสียงของลูกค้าคนนึงเอ่ยขึ้น
"ชู่ววว!! เจ้าอย่าพูดดังไปช่วงนี้คนของตระกูลชินออกตามหานายน้อยของพวกมันอยู่" เสียงของลูกข้าอีกคนกล่าวเตือนด้วยความหวังดี
"หรือ จะเป็นท่าน เทพอสูร ที่ฆ่าพวกนั้น เพราะสัตย์อสูรส่วนใหญ่ที่พวกมันจับมาล้วนเกือบทั้งหมดมาจากป่าอสูรทั้งสิ้น" เสียงของชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆกล่าวเสริม
"มันจะเป็นไปได้เหรอ เทพอสูรไม่ปรากฏตัวตั้ง100กว่าปีมาแบ้วน่ะ" ชาวบ้านอีกคนกล่าวเสริม
"ข้าจะไปรู้เรอะ!! ตายไปได้ก็ดีพวกตระกูลชิน" ชาวบ้านต่างพูดคุยกันเรื่องของตระกูลชิน ที่ หายตัวไปอย่างลึกงับในป่าอสูร
ไป๋หลงและอสูรที่ติดตามมาด้วยได้ยินข่าวสารที่พวกชาวบ้าน คุยกัน ก็ยกยิ้มที่มุมมากไอความตายถูกแผ่ออกมา และหายไปอย่างรวดเร็ว มู่จินและมู่หลานที่มีระดับมากกว่าไป๋หลงยังต้องกลืนน้ำลายลงคอและตกตะลึง ไม่คิดว่า นายน้อยของพวกตนจะเป็นสัตว์ประหลาดเช่นนี้....
"นายน้อยท่านแค่จะมาดูภายในเมืองน่ะอย่าทำเรื่องเกินตัวเลยนะขอรับ" มู่จินกล่าวบอกด้วยความเป็นห่ว
ง
"ข้ารู้อยู่แล้วแต่เรื่องที่พวกมันทำ...พวกท่านทั้งสองก็ได้ยินถึงความป่าเถื่อนของพวกมัน ข้าจะลบตระกูลมันออกไปซะ!! " ไป๋หลงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยาก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
"เอาล่ะ เราไปเดินเล่นกันเถอะ มู่จิน มู่หลาน "
"ขอรับ"
ไป๋หลงตอนนี้คลุมผ้าสีดำ ใส่หน้ากากอสูรที่ซื้อมาจากร้านขายของเล่น ทำให้ไป๋หลงเป็นที่สนใจไม่ใช่น้อย แต่ไป๋หลงหาได้สนใจไม่ ไป๋หลงเดินไปชมความงามของเมืองไปเรื่อยๆ จนเจอกับเหตุการณ์บางอย่างข้างหน้าทำให้ไป๋หลงเกือบจะคุมสติของตัวเองไม่ได้ ดีที่ มู่จิน และมู่หลาน จับนายน้อยของตนไว้ไม่ให้พุ่งไปฆ่าคนพวกนั้น...
ภาพที่ไป๋หลงเห็นคือ ภาพของสัตย์อสูรที่กำลังโดนทำร้ายอยู่ แต่ ที่สัตว์อสูรตอบโต้ไม่ได้เพราะเป็นทาส ตอนนี้สัตว์อสูรตนนั้นกำลังปกป้องบางอย่างอยู่ซึ่งก็คือ เด็กที่เป็นสัตว์อสูรคาดว่าน่าจะเป็นบุตรของสัตว์อสูรที่ทำร้ายเป็นแน่
" หน่อยแกเป็นแค่ทาส สัตว์อสูรชั้นต่ำ ขัดขืนคำสั่งข้าอย่างงั้นรึหาที่ตาย พวกเจ้าซ้อมมันไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะตาย ฮ่าๆๆๆ " ชายร่างอ้วนท้วมกล่าวด้วยน้ำเสียงสำราญสบายอารมณ์
"ขอรับ "
พวกไพร่ที่รับใช้เจ้านายร่างท้วมมีเครื่องประดับเต็มตัวพลังฝึกยุทธ์แทบจะไม่มีแต่ลูกน้องของมันนั้นถือว่าเก่งใช้ได้ แต่ไม่ใช่กับไป๋หลง พวกมันมาอยู่ตรงก็แค่ ก้อนฝุ่นเท่านั้น
ชาวบ้านที่เห็นไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเพราะพวกมันเป็นคนของตระกูลชิน เป็นหนึ่งใน12ตระกูลใหญ่ที่เมืองจรัสแจง ไป๋หลงที่กำลังโกรธเดือดดาลกำลังปล่อยแรงกดดันออกมาทำให้มู่จิน และ มู่หลานตกใจเผลอปล่อยไป๋หลงไป...
ตู้มมม!!
อ้ากกกกกก
เสียงร้องของกลุ่มคนที่กำลังลุมทำร้ายสัตว์อสูรดังขึ้น ทำให้พวกชาวบ้านแถวนั้นตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีผู้ใดกล้ายุ่งกับตระกูลชินแม้แต่คนเดียวหรือแม้แต่ตระกูลใหญ่ด้วยกันก็ตาม..
" บัดซบแกเป็นใครถึงมาทำคนของข้า รนหาที่ตาย!!" ชายร่างท้วมกล่าวด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
"หุปปาก!! "
"อึกก" ชายร่างท้วมกระอักเลือดออกมาคำโต บัดซบแรงกดดันอะไรกันพวกมันเป็นใครกันแน่ ชายร่างท้วมคิดในใจ
ขณะที่ไป๋หลงกำลังจะลงมีจัดการกับพวกลูกน้องชายร่างท้วม10 กว่าคน มีสายตา2 คู่กำลังนับจ้องเขาอยู่ชายหนึ่งหญิงหนึงอายุราวๆ12-13 ปีกำลังชมการต่อสู้บนโรงน้ำชาที่นั่งอยู่ด้านบนสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้..
"ท่านพี่ ท่านคิดว่าคนผู้นั้นเป็นใครที่กล้าทำร้ายคนของตระกูลชิน "
เสียงของเด็กผู้หญิงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง รูปลักษณ์ของนางนั้นสามารถสะกดชายหนุ่มให้ลุ่มหลงนางได้ ผิวขาวดุจหิมะ เส้นผมสีเงินดวงตาสีน้ำเงินดูเข้ากันยิ่งนักที่สำคัญนางใส่ชุดของศิษย์ปี2 ของสำนักหมื่นกระบี่เป็นสำนักอันดับหนึ่งของการใช้กระบี่ในเมืองจรัสแสง เสื้อผ้าศิษย์ปี2 นั้นมีสีขาวปักด้วยเส้นเส้นด้ายสีทองเป็นรูปกระบี่และพระอาทิตย์
"ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันข้าไม่สามารถตรวจดูพลังของคนผู้นั้นได้ แต่ที่น่าแปลกคือ ทำไมคนผู้นั้นถึงใส่หน้ากากอสูรและปิดหน้าปิดตาข้าว่าคนผู้นั้นต้องมาจากสำนักใหญ่ จากทวีปอื่นเป็นแน่ อีกอย่างเราอย่าไปสร้างความขุ่นเคืองให้คนผู้นั้นก็แล้วกัน"
เด็กหนุ่มผู้นี้ ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตร ถ้าสาวๆได้เห็นคงยอมพลีกายเป็นแน่แท้ และยังเป็นพี่แท้ๆ ของนางอีกด้วย...
"ข้าก็คิดเช่นนั้น" เด็กหญิงกล่าวตอบแก่ผู้เป็นพี่ชาย
ตัดมาทางด้านไป๋หลง
" แก ไม่รู้รึว่าพวกข้าเป็นใครถ้ายังไม่รู้ข้าจะบอกให้เอาบุญ ก่อนจะส่งแกไปโลกหน้า ข้าคือคนของตระกูลชินเป็น1ใน12 ตระกูลใหญ่ของเมืองจรัสแสง!! " ชายร่างท้วมกล่าวด้วยท่าดีอวดเบ่งหวังว่ามันจะใช้อำนาจบารมีตระกูลมาขู่
" หึ!! คนที่ข้าสังหารไปพูดแบบเดียวกับเจ้านี้แหละ " ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"ฮ่าๆๆ จะมาโกหกข้าคนนี้ยังเร็วไป พวกแก จัดการฆ่ามันซ่ะ ฆ่าให้มันตายทรมานอย่างที่สุดข้าอยากฟังเสียงร้องของมัน!!" ชายร่างท้วมสั่งลูกน้องของมันทั้งหมด แต่ขณะนั้นเองก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น...
" บังอาจ!! "
เสียงของผู้ติดตามของไป๋หลงซึ่งคือมู่จินกล่าวออกมาเพราะมันโกรธเป็นอย่างมากที่มีคนมาดูถูกนายน้อยของตัวเอง มู่จินได้ระเบิดพลังระดับจักรพรรดิอสูรออกมา...
ตู้มมมม!!
พลังของมู่จินระเบิดออกมาสร้างความตกตะลึงให้แก่ชาวบ้านและผู้ฝึกยุทธ์บริเวณนั้นเป็นจำนวนมากรวมทั้งสองพี่น้องที่นั่งอยู่บนร้านน้ำชาเช่นกัน..
" ทะ...ท่านพี่พะ..พลังระดับนี้มัน!! " หญิงสาวที่เคยสุขุมและงดงามตอนนี้ใบหน้าของนางมีแต่ความตกตะลึงจนไม่สามารถพูดออกมาได้...
" ไม่ผิดแน่พลังระดับนี้เทียบเท่ากับเจ้าเมืองจรัสแสงหรือไม่ก็อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป!!" ผู้เป็นพี่กล่าวด้วยน้ำเสียงตกตะลึง...
"บังอาจมากที่ดูหมิ่นนายน้องของพวกข้าพวกเจ้าชั่งรนหาที่ตายข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด"
เสียงมู่จินกล่าวออกมาด้วยความเดือดดาลแต่ที่หน้าตกใจกว่านั้นคือ คำว่านายน้อย คนที่มีระดับพลังถึงเพียงนี้ เป็นแค่ผู้ติดตามสร้างความตกตะลึงให้กับคนเหล่านั้นจำนวนมากไป๋หลงไม่ได้สนใจอะไรรอบข้างแม้แต่นิดเดียว แค่ส่งสัณญาณมือว่า อย่าพึ่งลงมือและให้สลายแรงกดดันซะ มู่จินทำตามที่ไป๋หลงบอกทันทีโดยไม่มีข้อกังขาทำใหแรงกดดันหายไป ทำให้ผู้คนแปลกใจเล็กน้อย ไป๋หลงเดินไปยัง สองแม่ลูกที่เป็นสัตว์อสูร เมื่อผู้เป็นแม่สัตว์อสูรเห็นว่าคือผู้ที่ช่วยมันก็กล่าวออกมา...
"ข้าขอขอบคุณท่านมากท่านจอมยุทธ์ แต่พอได้แล้วข้าไม่อยากให้ท่านมีปัญหา" เสียงของสัตว์อสูรตนนี้กล่าวด้วยความห่วงใยถึงจะไม่เคยเจอกันมาก่อนก็เถอะ..
"ไม่เป็นไร ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง"
ไป๋หลงหยิบโอสถมาจากแหวนมิติ เป็นโอสถรักษาขั้นสูง สีเหลืองทำให้ผู้คนแปลกใจเหตุใดต้องเสียโอสถระดับสูงให้สัตว์อสูรที่ไม่รู้จักเช่นนี้ด้วย...
"เอาโอสถให้ลูกเจ้ากินด้วยจะทำให้อาการของเขาดีขึ้น" ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นซึ่งเป็นชายร่างท้วมที่ไป๋หลงไปมีเรื่องด้วย
" บัดซบ แกคิดว่าจะช่วยพวกมันทั้งสองตัวได้เรอะหึ เห็นปลอกคอทาสตรงนั้นไหมมันไม่สามารถเอาออกหรือทำลายได้เพราะมันทำจากแร่ชนิดพิเศษที่ทำให้สัตว์อสูรอ่อนแอลงและไม่มีทางขัดขืนได้ เป็นไงล่ะถ้าเจ้าฆ่าข้ามันจะไม่สามารถเอาออกได้หรอก ฮ่าๆๆๆ "
ชายร่างท้วมกล่าวด้วยความหยิ่ง ยโสคิดว่าตนนั้นที่ไพ่เหนือกว่าแต่ผิดถนัด
"อ้อเหรอ ก็แค่เศษเหล็กเท่านั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า"
ไป๋หลงกล่าวจบก็นำมือไปจับปลอกคอทาส ออกแรงบีบจนมันเกิดการบิดงอและแตกออกปลอกคอร่วงลงพื้น การกระทำของไป๋หลงนั้นสร้างความตกตะลึงเป็นอย่างมาก ให้แก่ผู้คนเพราะแร่ชนิดพิเศษนั้นเป็นแร่ที่หาได้ยากและแข็งแกร่งยากที่จะทำลาย แต่ไป๋หลงแค่ออกแรงบีบมันก็หักงอและแตกออก ทำให้ผู้คนยิ่งตกใจกับบุคคลตรงหน้านี้เป็นอย่างมาก
"ทีนี้ข้าก็ฆ่าเจ้าได้แล้วซินะ" ไปหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"มะ มะ ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้!! เจ้า...เจ้า มันก็แค่คนขี้ขลาดที่ไม่ยอมเปิดเผยหน้าตาเท่านั้นแหละแน่จริงเจ้าก็ถอดหน้ากากออกซะ"
ชายร่างท้วมกล่าวด้วยน้ำเสียงเดือดดาล เพราะมันหวังว่าจะสามารถเห็นใบหน้าของคนที่ทำให้มันเป็นถึงเพียงนี้ จะได้จัดการกับไป๋หลงในภายหลัง
"ได้ แต่ " ไป๋หลงกล่าวทิ้งท้ายไว้จนชายร่างท่วมที่กำลังยิ้มแต่มันต้องหุบยิ้มลง
"ต้องชนะข้าในการประลองแบบ1-1 ถ้าเจ้าชนะข้าได้ ข้าก็จะถอดหน้ากากออก" ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆแฝงไปด้วยความกดดัน
ชายร่างท้วมก็คิ้วขมวดแต่ตัวมันอยู่ขั้นที่นักรบที่แท้จริงถึงมันจะไม่ค่อยฝึกแต่ก็วัดพอจะมั่นใจในฝีมือ.. มันจึงตอบตกลง
"ตกลง!!" ชายร่างท้วมกล่าวด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส
"ได้มู่จิน เจ้าให้สัณญาณเริ่มการประลอง " ไป๋หลงบอกแกมู่จิน
"ขอรับนายน้อย"
"เริ่มการประลองได้"
จบ