บทนำกินดุ (2) ร้องสักทีสิวะ! |
ภายในร้านมีเพียงเถ้าแก่ผู้เป็นเจ้าของร้านกำลังร่ำสุราอยู่เพียงลำพัง แม้แต่ตะเกียงสักดวงเขาก็ไม่จุดมันราวกับต้องการดื่มด่ำกับความมืดและความเงียบงันปราศจากสรรพชีวิตใดๆ
นางคุกเข่าก้มศีรษะลงกับพื้นเพื่ออ้อนวอนของานทำ ทว่าเถ้าแก่ผู้มีใบหน้าโหดเหี้ยมดุดันกลับโยนตำลึงเงินให้นางหนึ่งก้อน ก่อนจะตวาดไล่ให้นาง ‘ไสหัวไป’ แล้วหันไปจดจ่อกับสุราดังเดิม
ตำลึงเงินก้อนนั้นทำให้มารดาได้รับการรักษาจากหมอจนอาการป่วยค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ดังนั้นต่อให้หัวเด็ดตีนขาดนางจะต้องตอบแทนบุญคุณเถ้าแก่ให้จงได้
เฟยหนี่ว์มั่นใจว่าเถ้าแก่เป็นคนปากร้ายใจดี อีกทั้งคำว่า ‘ไสหัวไป’ คงเป็นเพียงคำพูดติดปากของเขานั่นเอง เพราะในบรรดาเถ้าแก่ร้านรวงมากมาย มีเพียงเขาผู้เดียวที่หยุดฟังว่านางต้องการสิ่งใด อีกทั้งยังโยนตำลึงเงินให้โดยไม่รีรอ
“ได้โปรดเถอะเจ้าค่ะ ข้ายอมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณเถ้าแก่”
“ยอมทำทุกอย่าง! เจ้าเข้าใจความหมายของมันอย่างถ่องแท้งั้นหรือ...”
เฟยหนี่ว์กะพริบตาปริบๆ เมื่อถูกย้อนถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ก่อนจะพยักหน้าแทบจะทันที หากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของเขา ป่านนี้มารดาของนางคงสิ้นใจตายไปเสียแล้ว ดังนั้นบุญคุณนี้หากต้องแลกด้วยชีวิตนางก็พร้อมจะทำ
“ดี!”
เมื่อไล่ไม่ไป ทางเดียวที่มีคือต้องขู่ให้เสียขวัญ เมื่อคิดเช่นนั้นก็ยื่นมือกักขฬะสากกระด้างคว้าหมับจับที่ต้นแขนบอบบาง แล้วกระชากร่างเล็กให้ลุกขึ้นจากพื้น โดยที่หญิงสาวยังไม่ทันตั้งตัว นางก็ปลิวเข้าไปปะทะกับแผงอกแกร่งของเถ้าแก่หนุ่มเต็มแรง
สองแขนกอดรัดด้วยอ้อมกอดฉกฉวย เฟยหนี่ว์ตกใจจนใบหน้าซีดเผือด
“ถะ...เถ้าแก่”
ส่งเสียงร้องประท้วงได้เพียงเท่านั้น เรียวปากอวบอิ่มก็ถูกปล้นปลิดด้วยริมฝีปากอุ่นกระด้าง บดขยี้บี้เรียวปากนุ่มนิ่มจนบอบช้ำ จังหวะที่หญิงสาวเผยอเรียวปากเพื่อส่งเสียงร้องเขากลับสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“อื้อ...”
ราวกับหัวใจทั้งดวงหวิวโหวงร่วงหล่นไปอยู่ที่ปลายเท้า ก่อนที่มันจะเต้นระรัวแรงราวกับจะกระโจนออกมานอกอกซ้ายเสียให้ได้
ภายในหัวสมองหมุนคว้างขาวโพลน ลมหายใจติดขัดทว่ากลับรู้สึกซ่านกระสัน อะไรบางอย่างแล่นปราดไปทั่วเรือนร่างก่อนจะหมุนมวนอยู่ที่ท้องน้อยดั่งว่ามีมวลผีเสื้อนับพันหมื่นสยายปีกขยับไหวอยู่ภายใน
เกาเฉิงกงไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่จูบ เขาตั้งใจจะสอนบทเรียนให้แก่หญิงสาว ว่านางไม่ควรเสนอที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่บุรุษเพศ เพราะนั่นอาจหมายถึง ‘ความสาว’ และ ‘เยื่อพรหมจรรย์’ อาจถูกตักตวงจากบุรุษที่เห็นแก่ตัว
‘หึ’
เกาเฉิงกงแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ ลิ้นร้อนยังคงกระหวัดเร้าดื่มด่ำความหอมหวานจากสาวน้อยแรกแย้มที่เพิงพ้นวัยปักปิ่นมาได้ไม่นาน ยิ่งเห็นว่านางตัวสั่นเทาหวาดหวั่น เขาก็ยิ่งสั่งสอนให้นางหวาดกลัวดั่งต้องการให้จารจารึกลงในหัวใจ
คิดได้เช่นนั้นมือหนาสากกระด้างเพราะกรำดาบร่ำกระบี่มาทั้งชีวิตจึงกระชากคอเสื้อของนางจนขาดวิ้น
แคว้ก!
คนถูกจูบสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนจะผวาเฮือกเมื่อมือหนากอบกุมทรวงอกอิ่มเอาไว้เต็มมือ ก่อนจะบีบขยำเค้นคลึงจนหัวใจดวงน้อยแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ
ทำถึงขนาดนี้แล้ว ทว่าเด็กสาวกลับยังคงยืนนิ่งให้เขากอดจูบฉกฉวยโดยไม่คิดจะเปล่งเสียงอุทธรณ์ใดๆ
‘ร้องสักทีสิวะ!’
‘ผลักออกสักทีสิ!’
เถ้าแก่ร่างสูงใหญ่ขมวดคิ้วมุ่น หมายใจว่าหญิงสาวคงหวีดร้องเสียงหลง ผลักไสเขาให้ไกลห่างด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนจะวิ่งหนีเตลิดออกไปแล้วไม่กลับมาอีก
ทว่า...
‘บ้าฉิบ!’
เด็กนี่กำลังจูบตอบข้างั้นหรือ!
เลือดในกายถึงกับสูบฉีดไปทั่วร่าง นักฆ่าเงาถึงกับบ้าใบ้แทบทำอะไรไม่ถูก เมื่อลิ้นเล็กๆ เรียนรู้ที่จะเกี่ยวกระหวัดลิ้นของเขา เฉกเช่นที่เขาทำกับนาง
‘เด็กบ้า!’