กินดุที่ 2 (2) ล่วงล้ำพรหมจรรย์บนโต๊ะสกปรก
สวบ!
ปลายหัวหยักแหวกรูแคบชื้นสอดประสานเข้าไปกว่าครึ่ง รับรู้ได้ว่าได้ทะลุทะลวงผ่านเยื่อพรหมจรรย์บางส่วนที่ยังไม่ฉีกขาดจากปลายนิ้ว
“อะ...อื้อ”
เฟยหนี่ว์ผวาเฮือก สองแขนยกขึ้นคล้ายจะผลักไสและปัดป้องบุรุษที่ถาโถมความเจ็บปวดให้ไกลห่าง ทว่าสติอันน้อยนิดกลับชะงักงันดึงแขนกลับมาแล้วเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงอย่างอดทน
นางเลือกที่จะตอบแทนบุญคุณเถ้าแก่ ดังนั้นนางจึงไม่มีสิทธิ์โวยวายร่ำร้อง แม้ว่าการอุ่นเตียงให้เขาจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดราวกับกลางแกนกายจะฉีกออกเป็นส่วนๆ ก็ตาม
ปวด!
เกร็งร้าวไปทั้งหน้าขา!
แม้จะอดทนจนใบหน้าแดงก่ำ ทว่าหยาดน้ำตามากมายกลับหลั่งรินออกจากดวงตาคู่งามเป็นสาย หญิงสาวหลับตาแน่นไม่กล้าแม้แต่จะสบตามองเถ้าแก่หนุ่มที่กำลังกอดก่ายโถมร่างกายลงมา
ตับ! ตับ!
เกาเฉิงกงขยับเขยื้อนเอวสอบเป็นจังหวะช้าๆ เขาไม่คิดจะรอให้ช่องแคบของนางคุ้นชินไปมากกว่านี้ เพราะการที่เขาเมตตาสอดใส่ด้วยนิ้วก็นับว่ามากเกินพอแล้ว
ตับ! ตับ! ตับ!
ยิ่งสอดประสานกระแทกเข้าไปจนสุดปลายอุโมงค์ ก็ยิ่งเสียวซ่านหน่วงหนึบจนเถ้าแก่หนุ่มถึงกับกัดฟันเข้าหากันจนเป็นสันนูน ความนุ่มนิ่ม ความอุ่นชื้น และความขรุขระเต็มไปด้วยปุ่มปมบีบรัดแท่งหยกใหญ่ยาวเอาไว้แน่น
นี่นะหรือ... หญิงพรหมจรรย์!
เด็กสาวช่างแตกต่างจากหญิงคณิกามากมายที่เขาเคยหลับนอน หรือแม้แต่นักฆ่าหญิงร่วมภารกิจที่มีความสัมพันธ์เอื้อผลประโยชน์ทางเพศร่วมกัน หลับนอนให้ความสุขเพียงในกามโดยปราศจากการผูกมัด ผลัดเปลี่ยนคู่นอนโดยไม่มีใครเป็นเจ้าข้าวเจ้าของใคร เพราะมองว่าการร่วมเพศเป็นเพียงการปลดปล่อยกำหนัดเท่านั้น
และที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ ‘เงา’ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรมีความรัก ไม่ควรมีครอบครัว ไม่ควรมีใครรอคอยอยู่ข้างหลัง เพราะนักฆ่าเงาต้องมอบชีวิตให้แก่ผู้เป็นนาย อีกทั้งยังสามารถตายได้ทุกเมื่อ เป็นเพียงดั่งเงาที่ไร้ตัวตนเท่านั้น
“อะ...อื้อ อื้อ”
คนใต้ร่างที่นอนเม้มเรียวปากเป็นเส้นตรงด้วยความเจ็บ สองมือกำเข้าหากันแน่นจนปลายเล็บจิกลงกลางฝ่ามือ เวลานี้นางเริ่มส่งเสียงครวญครางออกมา เมื่อความเจ็บปวดราวกับร่างจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้แปรเปลี่ยนเป็นความซ่านเสียวที่ทำให้หัวใจกระตุกวูบหวาม ใบหน้าแดงก่ำระเรื่อแดง เนื้อกายสั่นระริกเต้นเร่าไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย
“ถะ...เถ้าแก่ อะ...ฮึก อะ...อื้อ”
ใบหน้าหวามเหยเก ดวงตาที่ปิดสนิทเปิดปรือมองผู้มีพระคุณ ในขณะที่เรียวปากอวบอิ่มเผยออ้าครวญครางแทบไม่เป็นภาษา
ความซ่านเสียวหฤหรรษ์บีบรัดจนลมหายใจแทบขาดห้วง ยิ่งแท่งหยกใหญ่ยาวอัดกระแทกเข้ามา นางก็ยิ่งหน่วงเหนี่ยวเสียววาบมาจนถึงท้องน้อย
หัวใจเจ้ากรรมกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่า ทรวงอกของนางกระเพื่อมไหวตามจังหวะหายใจที่หอบกระชั้นกอปรกับแรงกระแทกที่ถาโถมเข้าหา
“แน่นฉิบหาย!”
นักฆ่าเงากัดฟันกรอดเมื่อความคับแน่นของอิสตรีบีบรัดจนเขาเกือบจะเผลอหลั่งออกมาก่อนเวลาอันควร มือหนาข้างหนึ่งจับเรียวขาขาวๆ ของนางให้ยกขึ้นพาดบนไหล่ ส่วนมือสากอีกข้างยื่นไปบีบเค้นเต้าหวานเอาไว้เต็มมือ
“อะ...อาห์”
เฟยหนี่ว์รู้สึกราวกับถูกจับเหวี่ยงแรงๆ จนหัวสมองขาวโพลน สูญสิ้นสติและความนึกคิดใดๆ เวลานี้หัวใจของนางร่ำร้องปรารถนาการเติมเต็มจากเขาราวกับเสพติดในรสสัมผัสที่ดิบเถื่อน
เอี๊ยด...แอ๊ด...
โต๊ะเก่าสกปรกไม่อาจรองรับร่างบอบบางที่กำลังถูกโถมกระแทกด้วยเรี่ยวแรงของชายฉกรรจ์ มันส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดอยู่เพียงครู่ ขาโต๊ะข้างหนึ่งก็หักพับลง
โครม!
ทว่าไวกว่าลมหายใจนักฆ่าหนุ่มรวบร่างบางขึ้นอุ้มเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที หญิงสาวกอดก่ายเขาเอาไว้แนบแน่นด้วยกลัวตก สองขากอดรัดรอบเอวสอบ สองแขนโอบกอดรอบลำคอแข็งแกร่ง ในขณะที่รูสวาทชื้นแฉะยังคงมีเอ็นอุ่นแช่ค้างเสียบคาอยู่เช่นนั้น
ชายหนุ่มไม่รอช้าจับให้นางยกสะโพกโยกขย่มลงบนเอ็นอุ่นในท่าลิงอุ้มแตงทันที