บทย่อ
“ทำไมต้องเป็นหนูคะ” “ก็เห็นเธอแล้วมันเสี้ยนปาก ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็คือ ถูกใจตั้งแต่แรกพบ เห็นแล้วเงี่ยน เธอหน้าสวย หุ่นเอ็กซ์ ทั้ง ๆ ที่อายุเท่านี้ เห็นแล้วอยากเอาจนเอ็นแข็ง ยื่นข้อเสนอไปแล้วเธอกลับปฏิเสธ มันก็เลยยิ่งรู้สึกตื่นเต้น เหตุผลมีแค่นี้ ส่วนเธอจะยอมหรือไม่ก็แล้วแต่ ตัดสินใจเองฉันไม่บังคับอยู่แล้ว” หญิงสาวเงียบอยู่นาน นั่นเพราะเธอตกใจ เธอไม่เคยมีแฟนจึงไม่เคยมาก่อน ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมาแบบไม่อายปากและทำให้เธออายแทน เธออายจนพูดไม่ออก คำพูดของเขาจะเรียกว่าอะไรดีนะ ชมหรือกำลังบอร์ดี้ชาร์มมิ่งกันแน่ เขามองดูเธอด้วยสายตาหื่น ๆ โดยไม่ปิดบัง ดูไปดื่มไปเหมือนกำลังดูทีวีโดยมีเธอเล่นเป็นนางเอก หลังจากดื่มไปอีกหลายอึก สูบบุหรี่จนหมดมวนแล้วยืนขึ้น “โอ้เอ้เล่นตัวคิดจะเรียกเงินเพิ่มหรือไง รู้หรือเปล่าว่าหนี้น้องชายเธอเท่าไหร่ เกือบล้านเชียวนะ เงินจำนวนนี้สำหรับฉันมันแค่ขี้เล็บ แต่กับเธอที่มีแม่ป่วยติดเตียงก็คงไม่ใช่เรื่องเล็ก” เขาทำท่าจะเดินออกไป แต่ผักบุ้งขวางเขาเอาไว้ หลังจากใคร่ครวญอย่างหนัก เรื่องเกิดขึ้นไม่ทันให้ตั้งตัว พรุ่งนี้แล้วที่เธอต้องเคลียร์เงินให้น้อง แล้วเธอจะไปหาเงินล้านมาจากที่ไหนตอนตีสอง “ฉันยอมค่ะ เมื่อไหร่คะ ที่ฉันต้องทำ”
บทที่ 1 บทนำ
@ไนต์คลับ
"ผักบุ้ง!!"
เสียงตะโกนเรียกโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นไม่ขาดสาย ก่อนสาวน้อยร่างเล็กเจ้าของชื่อ ผักบุ้ง จะขานรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ถึงแม้ภายในใจจะเหนื่อยแสนเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม
"ขา เจ้!!"
หญิงสาวใบหน้าทรงเสน่ห์ วัย 22ปี เดินมาหา เจ้นก ผู้จัดการของไนต์คลับชื่อดังที่เธอทำงานอยู่ด้วยท่าทางขะมักเขม้น
"ผักบุ้งคนสวย นางฟ้าของเจ้! มาหาเจ้เร็วๆ"
เจ้นกกวักมือเรียกเด็กสาวให้รีบเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางรีบร้อน ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างเอ็นดู
"มีอะไรหรือเปล่าคะ ยิ้มหวานเชียว"
ผักบุ้งเอ่ยถามอย่างสงสัย ท่าทางของอีกฝ่ายเริ่มไม่น่าไว้วางใจจริงๆ
"วันนี้มีแขกSUPER V.I.P มาหลายคนเลย รวย ๆ กันทั้งนั้น เขามาจองชั้นบนไว้ทั้งชั้นเลยนะ"
เจ้นกพูดไปพลางทำหน้าเพ้อฝันอย่างมีความสุข แตกต่างจากผักบุ้งที่ยังงงงวยกับอีกฝ่าย คิดว่าจะมีเรื่องอะไรสำคัญเสียอีก
"ค่ะ...แล้วเจ้เรียกหนูมาทำไมคะ"
"วันนี้เด็กที่ร้านมีไม่พอ เจ้ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ" เจ้นกพูดพลางมองเด็กสาวตาหวานอย่างมีเลศนัย
"แต่เจ้คะ บุ้งไม่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่านะ เราคุยกันไว้แล้ว"
ผักบุ้งเริ่มโอดครวญเมื่อเริ่มจะเข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย
"แค่ขึ้นไปชงเหล้าให้แขกเฉยๆน่า ไม่มีการแตะตัว ไม่มีเรื่องเกินเลย แนนกับปอยก็อยู่ เจ้ไม่ได้ให้บุ้งอยู่คนเดียว นะหนูนะ ช่วยเจ้เหอะ"
"แต่เจ้....."
เด็กสาวเริ่มกลัวเธอไว้ใจเจ้นกแต่ไม่ไว้ใจแขกผู้ชายที่นี่เลยสักคน พวกปากว่าตาขยิบเธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่งด้วยแม้แต่น้อย
"โถ่...ผักบุ้ง หนูรู้ไหมว่าหนูเป็นเด็กที่สวยที่สุดที่เจ้เคยเจอมาเลย แต่หนูดันเอาความสวยมาหลบนั่งคิดเงินอยู่หลังคอมนี่นะ เจ้เสียดายแทนเลย เอางี้ พรุ่งนี้มีเรียนใช่ไหม งั้นเจ้ให้ทิปพิเศษสามเท่าเลย ถ้าหนูขึ้นไปดูแลแขก"
"แล้วถ้าเขาลวนลามหนูล่ะคะ"
หญิงสาวเริ่มจิตใจเอนเอียงเมื่อได้ยินค่าตอบแทนที่จะได้รับ แต่ก็ยังไม่วายกล้า ๆ กลัว ๆ เหมือนเดิม
"อืม...งั้น..เอานี่ไป ถ้าพวกมันลวนลามบุ้งเมื่อไหร่ก็เอานี่ไปจี้มันเลย เด็กชงเหล้าของเจ้ ทุกคนรู้ว่าไม่ใช่เด็กเอ็น แค่ชงเหล้าเฉย ๆ ข้างบนก็มีเด็กเอ็นอยู่แล้ว ไม่มีใครแตะเด็กอย่างหนูหรอกมันเป็นมารยาทน่ะ”
เจ้นกทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะวิ่งไปหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าขนาดเล็กในกระเป๋ามาใส่มือหญิงสาว
“นี่อะไรคะ”
“เครื่องช๊อตไฟฟ้า”
“ให้หนูเหรอคะ”
“ใช่ ป้องกันตัว พอใจยัง เจ๊ทำขนาดนี้แล้วนะ”
ผักบุ้งมองของในมืออย่างชั่งใจ ก่อนจะเงยหน้าถามว่า
“ใช้ยังไงคะ”
เจ้นกยิ้ม แปลว่าผักบุ้งตกลงแล้ว เธอจึงสอนวิธีใช้ให้ผักบุ้ง ผักบุ้งตั้งใจฟังและทดสอบเมื่อสามารถใช้เป็นแล้วจึงพูดต่อว่า
"โอเค บุ้งขึ้นไปทำให้ก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา"
ผักบุ้งทำสีหน้าขึงขังก่อนจะเตรียมหันหลังเดินขึ้นไปยังชั้นบนของไนต์คลับ
"เดี๋ยว!!...หนูจะไปชุดนี้ไม่ได้ มานี่เลยแม่สาวน้อย"
ผักบุ้งถูกดึงไปยังห้องแต่งตัวก่อนจะถูกจับเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมด จากเสื้อยืดกางเกงขายาวธรรมดาๆกลายเป็นชุดพนักงานกระโปรงสั้นมากจนแทบจะเห็นแก้มก้น ดีที่เสื้อยังเป็นเสื้อแขนยาวสีขาว ผูกหูกระต่ายที่คอ ยังต้องสวมที่คาดผมหูกระต่ายเพื่อให้ดูน่ารักเข้ากันกับชุด
ผักบุ้งยืนมองตัวเองในกระจกอย่างอึ้งๆ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเข้าเลขสองไม่เคยเลยที่จะแต่งตัวแบบนี้ มันดูแปลก ๆ แต่โชคดีที่ขาของเธอสวยจึงดูน่ารักไม่น้อย
"คงไม่มีใครมาจับขาฉันหรอกนะ ทำไมกังวลแบบนี้ฟะ ไม่เอาน่าบุ้งเธอต้องสู้สิวะ"
หญิงสาวตบแก้มตัวเองสองสามครั้งพลางพูดให้กำลังใจตัวเองไปด้วย สำหรับชีวิตเด็กสู้ชีวิตอย่างเธอก็มีแค่นี้แหละ พึ่งพาแต่ตัวเอง เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทน ในเมื่อต้นทุนในชีวิตของคนเรามันไม่เท่ากัน
@ห้อง SUPER V.I.P
กลางห้องขนาดใหญ่ปรากฏมีชายหนุ่มหล่อสี่สองคนที่รูปร่างสูงใบหน้าคมต่างนั่งจ้องหน้ากัน
ในขณะที่รอบๆห้องถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าชายชุดดำเกือบยี่สิบคน ที่ได้แต่ยืนมองเจ้านายของพวกตนอย่างเงียบๆเช่นกัน หญิงสาวสี่ห้าคนที่นั่งขนาบข้างก็ได้แต่อึกอักมือไม้สั่นอย่างหวาดกลัว เพราะเหล่าหนุ่มหล่อแต่ละคนก็ต่างแผ่รังสีอำมหิตออกมาไม่ต่างกัน
"กูคิดว่ามึงจะจัดการมันเงียบๆ"
ชายหนุ่มคนแรกเอ่ยขึ้น
"มันแหกปากเองช่วยไม่ได้"
ชายหนุ่มคนที่สองเอ่ยขึ้น
"มึงก็เลยอัดมันซะเละขนาดนั้น ไอ้ห่าเมฆ"
ตามมาด้วยคนที่สามที่เอ่ยออกมานิ่งๆ
"มันท้าทายยังหาเรื่อง กูไม่คิดจะออมมืออยู่แล้ว"
ชายหนุ่มที่ชื่อ เมฆ ตอบกลับเพื่อนของตนไปอย่างไม่แยแส
"แล้วมึงจะมานั่งกลุ้มทำไมวะ!"
เสียงชายหนุ่มคนแรกหรือ วาทิม เอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
"กูพึ่งรู้ว่าไอ้ห่านั่นเป็นพี่ชายของตัวเล็ก"
"เชี้ยแล้วไงไอ้เมฆ ถ้าตัวเล็กรู้เข้ามึงจบแน่"
ชายหนุ่มคนที่สอง หรือ ฌอน พูดขึ้นอย่างหนักใจแทนเพื่อน
"เออ... แม่ง กูควรทำไงดีวะ"
"กูก็คงช่วยไม่ได้ เรื่องความรักกูขอบาย"วาทิมเอ่ยขึ้นอย่างตัวใครตัวมัน
เมฆได้แต่นั่งหน้าเครียดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี มืดแปดด้านไปหมด
"อ่อน...!"
เสียงชายหนุ่มคนสุดท้ายเอ่ยขึ้นหลังจากนั่งเงียบมานาน สายตาเย็นชากวาดมองเพื่อนตัวเองอย่างสมเพช
"แค่ผู้หญิงคนเดียว มึงจำเป็นต้องเรียกพวกกูมาไหม เสียเวลา!"
เคย์พูดขึ้นโดยไม่รักษาน้ำใจใครเลยสักคน
"ถ้าวันไหนมึงมีความรัก มึงจะรู้"
เมฆมองหน้าเพื่อนแล้วทำหน้าหยัน
"เหอะ!..คนอย่างกูไม่เคยง้อผู้หญิงโว้ย"
เคย์แค่นยิ้มร้ายกาจออกมา พลางยกบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบตรงนั้น มืออีกข้างก็ยกแก้วไวน์หมุนไปมา พลางจ้องมองเข้าไปในนั้น
คนอย่างเคย์ไม่มีทางหลงงมงายไปกับความรักงี่เง่าจอมปลอมเด็ดขาด
ก๊อก!..ก๊อก!...
"ขออนุญาตเข้าไปนะคะ" เสียงใสเอ่ยขึ้นก่อนจะผลักประตูเข้าไปช้าๆ
ผักบุ้งถึงกลับผงะ ไม่รู้ว่าตนเองเข้าไปขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า สายตาทุกคู่ถึงได้จ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว
"ยัยบุ้ง มานี่ๆ"
เสียงหญิงสาวรุ่นพี่กวักมือเรียกให้เดินเข้าไปหา
"ค่ะ พี่แนน"
ร่างบางเดินเข้าไปอย่างเงอะงะ ก้าวขาแทบไม่ออกประหม่าไปหมด
"มานั่งข้างๆคุณเคย์เร็ว"
แนนโยนงานหินให้รุ่นน้องเพราะดูเหมือนว่าชายหนุ่มที่ชื่อเคย์จะโหดที่สุดในบรรดาชายหนุ่มทั้งสี่คนนี้แล้ว
"ค่ะ"
ร่างบางถูกจับให้มานั่งข้างๆชายหนุ่มหน้าโหด อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สายตาหวานกวาดมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มก่อนจะถูกสายตาเย็นชาสบกลับมาผักบุ้งถึงกับสะดุ้ง
"อย่านั่งนิ่งสิบุ้ง รินไวน์ให้คุณเขาด้วย"
เสียงรุ่นพี่ที่นั่งข้างๆเอ่ยเรียกสติของเด็กสาวอีกรอบ
"ค่ะๆ"
มือไม้สั่นเทาค่อยๆรินไวน์ใส่แก้วให้ชายหนุ่มอย่างช้าๆ รู้สึกอยากหดร่างกายของตัวเองให้เหลือเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้
"พอแล้ว"
เสียงเย็นชาเอ่ยขึ้น แทบจะชิดใบหูเล็ก ผักบุ้งถึงกับขนลุกซู่ ย่นคอหนีอย่างหวาดๆ