ตอนที่5[อยากตอบแทนบ้าง]
เด็กเลี้ยงของไอศูรย์
ตอนที่5
[อยากตอบแทนบ้าง]
ลุกส์มาส่งสาวน้อยสมัครเรียน ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำให้ตะวันฉายได้แต่ประหม่าไปหมดกับสถานที่ที่ใหญ่โต และนักศึกษาทั้งหนุ่มสาวต่างหน้าตาดีแต่งตัวออกแนวคนมีเงินมีระดับกันทั้งนั้น เธอยังคงนั่งตัวลีบอยู่ในรถไม่กล้าที่จะก้าวขาลง จนลุกส์ที่เปิดประตูลงอีกด้านถึงกับหันมาเตือนเธอ
"หนูตะวันลงมาสิ คนเขาเดินเข้าข้างในกันหมดแล้ว" ลุกส์ก้มลงไปเอ่ยเรียกสาวน้อยที่ยังนั่งอยู่เบาะหน้าของรถ
"พี่ลุกส์ทำไมมหา'ลัยมันใหญ่โตแบบนี้ล่ะคะ หนูไม่กล้าลงเลยดูนักศึกษาแต่ละคนสิ อย่างกับดารานายแบบทั้งนั้นเลย" ตะวันฉายได้แต่เอ่ยเสียงอ่อย
"รีบลงมาเลยครับ น้องสาวพี่ก็ไม่น้อยหน้าใครอยู่แล้ว มั่นใจในตัวเองหน่อยสิสาวน้อย" ลุกส์เอ่ยกล่าวให้กำลังใจคนคิดมาก นี่เธอคงยังไม่รู้ตัวอีกละสินะ ว่าตัวเองอยู่ในชุดนักศึกษาแล้วดูสวยน่ามองขนาดไหน
ตะวันฉายก้าวเท้าลงมายืนคู่กับหนุ่มใหญ่ ที่เธอเคารพรักเหมือนพี่ชาย ตลอดระยะเวลาที่ได้มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ทำให้เธอรักและผูกพันกับลุกส์ไม่น้อยเลย
ลุกส์พาสาวน้อยเดินเข้าในตึกสูงหลายชั้น เมื่อเข้าถึงด้านในก็เห็นนักศึกษาชายหญิงต่างนั่งกรอกใบสมัครกันอย่างขะมักเขม้น ลุกส์จึงปลีกตัวออกไปนั่งรอสาวน้อยอีกมุมที่มีโต๊ะพร้อมเก้าอี้ชุดอีกด้านหนึ่ง
ตะวันฉายนั่งกรอกเอกสารอยู่ตามลำพัง ไม่นานก็มีเสียงเล็กเอ่ยทักขึ้นด้านหลัง
"เราขอนั่งด้วยคนนะ" สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยขึ้น ทำให้ตะวันฉายรีบเงยหน้าขึ้นไปมอง
"อ้อ! ได้สิเธอมาสมัครเรียนเหมือนกันเหรอ" ตะวันฉายมองที่มือเห็นเธอถือใบสมัครอยู่ทำให้เอ่ยสรุปเอง
"ใช่ เราเพิ่งมาสมัครอยากลองเรียนที่นี่ดูบ้าง เราเป็นเด็กต่างจังหวัดเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่จึงยังไม่มีเพื่อนเราขอเป็นเพื่อนกับเธอได้ไหม" คนมาใหม่เอ่ย
"ได้สิเราชื่อตะวันฉายนะ เรียกตะวันก็ได้" ตะวันฉายส่งยิ้มให้เพื่อนใหม่ของเธอ
"เราชื่อเมยาวีเรียกเราเมย์นะ" ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสนิทสนม หลังจากส่งใบสมัครเรียบร้อยตะวันฉายก็แยกตัวจากเพื่อนใหม่เดินมาหาลุกส์
"เรียบร้อยแล้วใช่ไหม พี่เห็นหนูมีเพื่อนแล้วนี่" ลุกส์เอ่ยทัก
"ค่ะ เธอชื่อเมย์เป็นเด็กต่างจังหวัดเธอน่ารักมากนะคะ"
"ดีแล้วตอนเปิดเทอมจะได้ไม่เหงา"
ทั้งคู่เดินออกมาที่รถ แล้วขึ้นนั่งลุกส์จึงสตาร์ทเครื่องยนต์แล้ว ออกตัวไปทันที หนุ่มใหญ่ขับรถเข้าเส้นทางที่จะพาสาวน้อยไปเข้าห้าง มาถึงก็เลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานจอด
"พี่ลุกส์พาหนูมาที่นี่อีกทำไมคะ" ตะวันฉายหันไปถามคนขับที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
"คุณใหญ่ให้พาหนูมาซื้อมือถือ"
"ซื้อทำไมของหนูก็ยังใช้ได้ค่ะ" ตะวันฉายรีบบอกลุกส์
"เป็นคำสั่งคุณใหญ่หนูก็รับไว้เถอะนะ" ลุกส์หันมาเอ่ยกับสาวน้อยที่เอาแต่ทำสีหน้าเกรงใจ
"หนูมาอยู่นี่เป็นเดือนแล้วนะคะ ยังไม่เคยเจอหน้าคุณใหญ่ของพี่ลุกส์เลย หนูอยากเจอท่านอยากกราบขอบคุณท่านสักครั้งที่เมตตาหนู"
"เดี๋ยวก็ได้เจอเองนั่นแหละ อย่าคิดมากเข้าไปซื้อของกัน" ว่าจบลุกส์ก็พาสาวน้อยลงจากรถแล้วพากันเดินเข้าด้านใน
ลุกส์พามาเลือกซื้อมือถือรุ่นใหม่ในราคาที่แรงพอสมควร
"พี่ลุกส์มันแพงไปหนูไม่กล้าใช้หรอกค่ะ ถ้าทำหลุดมือแตกขึ้นมาคงเสียดายแย่" ตะวันฉายได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธสั่นรัว
"รีบรับไว้เถอะ เป็นคำสั่งคุณใหญ่" นี่เธอก็สงสัยอยู่เหมือนกันนะ ว่าทำไมคุณใหญ่ของพี่ลุกส์ถึงได้ใจดีกับเด็กในอุปการะนัก หรือว่าท่านเป็นคนใจบุญชอบทำบุญทำทานไปทั่วหรือไง
ตะวันฉายเอื้อมมือไปรับถุงใส่มือถือมาจากพี่ลุกส์ แล้วเดินตามพี่ลุกส์มาขึ้นรถกลับบ้าน ในใจได้แต่คิดว่าสักวันถ้ามีโอกาสเธอจะรีบตอบแทนคุณใหญ่ของพี่ลุกส์บ้าง
อยู่ในรถไม่นานลุกส์ก็เลี้ยวรถเข้าเขตประตูรั้วสวยที่ล้อมรอบไปด้วยรั้วอิฐทึบสูงท่วมหัว แล้วเข้าไปชะลอจอดสนิทอยู่หน้าตึกใหญ่ เราต่างเปิดประตูก้าวลงจากรถ ตะวันฉายรีบเดินอ้อมไปหลังบ้าน
สาวน้อยขึ้นไปเปลี่ยนชุดรีบลงมาชั้นล่างเพื่อจะเข้าครัวไปช่วยงานป้าภาในทันที
"ป้าภามีอะไรให้หนูช่วยบ้างไหมคะ" ตะวันฉายเดินเข้าด้านในเห็นป้าภาจัดเตรียมวัตถุดิบไว้ทำอาหารในมื้อค่ำจึงเอ่ยถาม
"หนูตะวันมาเหนื่อย ๆ นั่งพักก่อนก็ได้ลูก" ป้าภาที่เป็นคนสูงวัยที่สุดในบ้านเอ่ยขึ้น ทำให้สาวน้อยได้แต่ส่ายหน้าอย่างน่าเอ็นดู
"ไม่ค่ะ หนูไม่เหนื่อยสักนิด เห็นป้าทำอาหารแล้วหนูอยากช่วย หนูอยากทำอาหารเก่งเหมือนป้าภาบ้าง" เด็กสาวที่หน้าตาน่ารักเอ่ยออดอ้อน
"ทำไมหนูตะวันถึงอยากทำอาหารเก่งละ ปกติเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ไม่ค่อยจะสนใจทำอาหารกันเลยนะ" ป้าภาที่หันผักอยู่เงยหน้ามามองเด็กสาวตรงหน้า
"ก็หนูอยากทำให้เก่งจะได้ทำให้คุณใหญ่ และพี่ลุกส์พี่เรย์ทานนะสิคะ เพราะทุกคนดีกับหนูมาก หนูจึงอยากทำเพื่อตอบแทนท่านบ้าง" สาวน้อยเงยหน้ามาตอบป้าภาด้วยรอยยิ้มน่ารัก
"อืม! ป้าว่าไม่นานหรอกเดี๋ยวหนูตะวันก็ทำอาหารเก่งเชื่อป้าสิ ถึงตอนนั้นคนแก่อย่างป้าก็คงหมดความหมาย" หญิงสูงวัยเอ่ยเย้าแหยเด็กสาวที่เธอเอ็นดู
"ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ ป้าภาของหนูทำอร่อยที่สุดกว่าใครอีก" ว่าจบตะวันฉายก็ฉีกยิ้มกว้าง รอยยิ้มเธอทำให้ไอศูรย์ที่เดินลงมาหยิบของชั้นล่างพอดีได้ยินเสียงสนทนากันในห้องครัวทำให้เขาแอบฟังแอบมองถึงกับยิ้มตามอย่างนึกเอ็นดู
"หนูลองทำแกงมัสมั่นไก่ดูสิ เป็นของโปรดของคุณใหญ่เลยนะ"
"จริงหรือค่ะ แกงมัสมั่นเป็นของโปรดของคุณใหญ่เหรอ ถ้างั้นหนูจะตั้งใจทำให้เก่งไว ๆ เลยค่ะ" สาวน้อยยิ้มกับป้าภาอย่างร่าเริง ทำให้คนที่แอบมองแอบฟังถึงกับมีรอยยิ้มไม่หุบ
"คุณใหญ่มาแอบทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ" เสียงทักด้านหลังของลุกส์ทำให้หนุ่มใหญ่อย่างไอศูรย์ถึงกับสะดุ้งเฮือกและไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว
"เอ่อ! แล้วมึงทำไมต้องมาเงียบ ๆ ด้วยวะ"
"ผมก็เดินลงมาปกติ มีแต่คุณใหญ่นั่นแหละที่ไม่ได้ยิน" ลุกส์เอาแต่จ้องหน้าเจ้านายหนุ่ม ที่ทำหน้าเลิ่กลั่กออกมา
"ฉันก็ลงมาเอาของและก็กำลังจะขึ้นไปพอดี" ว่าจบไอศูรย์ก็ก้าวเท้าขึ้นชั้นบน ทำให้ลุกส์ได้แต่ยืนมองตามร่างสูงใหญ่ที่รีบร้อนขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างงง ๆ
"อะไรของเขาวะ" ลุกส์ถึงกับส่ายหัวพึมพำอยู่คนเดียว แล้วก้าวเดินเข้าไปในครัว
"เย็นนี้มีอะไรทานบ้างครับ" หนุ่มใหญ่เอ่ยถามสาว ๆ ในครัว
"แล้วของโปรดพี่ลุกส์ละชอบแบบไหน" เสียงหวานของแม่ครัวสาวเอ่ยทัก
"ของโปรดพี่เหรอ แกงเขียวหวานไก่ครับฝีมือป้าภาทำอร่อยได้สุดยอดมาก"
"ถ้างั้นออกไปรอเลยค่ะเดี๋ยวได้ทาน" ป้าภาเอ่ยขึ้นทำให้ลุกส์ส่งยิ้มให้แล้วเดินออกไปรอในบ้าน