6 น้าภพอย่าค่ะ
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเพียงพรก็พาวาสนาและญารินดามาที่ร้าน พอเพียงการเกษตร เธอแนะให้พนักงานรู้จักกับวาสนาและลูกสาว ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำงาน
“เดี๋ยวน้าวาสไปซื้อของสดในตลาดกับเจ้าสมหมายนะคะ พรสั่งไว้แล้วเดี๋ยวคงเอารถมารับ ส่วนหนูกอหญ้าอยู่กับน้าก่อน”
“ค่ะคุณพร” วาสนารับเงินจากเพียงพรแล้วเดินไปหน้าร้านที่มีรถกระบะคันหนึ่งจอดอยู่
“น้าพรคะ ที่นี่มีคนงานเยอะไหมคะ”
“ไม่เยอะเท่าไหร่หรอกนะ รวมแล้วทั้งคนขาย คนยกของ คนขับรถก็ คนงานจิปาถะอีกรวมๆ ก็ประมาณ 40 คน แต่ก็อยู่กันไม่ค่อยครบหรอก บางคนก็ออกไปส่งของ บางคนก็ออกไปคุมรถเกี่ยวที่เขามาจ้าง ที่นี่เราอยู่กับแบบพี่น้อง”
“แล้วหนูต้องช่วยงานอะไรบ้างคะ”
“หนูก็ช่วยน้าดูเรื่องตัวเลขนะ น้าตาไม่ค่อยดีแล้ว ค่อยๆ ฝึกไป ถ้าตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามน้าหรือน้าภพก็ได้ แต่ขานั้นไม่ค่อยอยู่ให้ถามหรอก ส่วนใหญ่ก็ไปตามไร่นาของชาวบ้าน”
“น้าภพทำนาด้วยหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอก แต่ต้องไปดู เหมือนบริการหลังการขายแหละ บางคนเขาซื้อรถ บางคนก็เช่ารถไป ต้องไปคอยดูไปให้คำแนะนำบ้าง บางทีก็ไปตามทวงนี้”
“มีทวงหนี้ด้วยเหรอคะ”
“มีเยอะ ทวงได้บ้างไม่ได้บ้างถือว่าช่วยๆ กันไป”
“น้าพรกับน้าภพคงเหนื่อยแย่เลยนะคะ”
“เหนื่อยสิ แต่ก็อย่างว่า จะจ้างคนมาดูแลเรื่องเงินก็ยังไม่ไว้ใจใครที่ไหน”
“แล้วทำไมถึงให้หนูช่วยล่ะคะ”
“น้าดูคนออก หนูกับแม่ดูแล้วเป็นคนที่น่าไว้ใจ เพราะฉะนั้นก็อย่าทำให้น้าผิดหวังนะ”
“กอหญ้าจะไม่ทำให้น้าผิดหวังค่ะ”
“ดีแล้ว อีกหน่อยหนูเรียนจบ น้าจะให้หนูมาช่วยงานอย่างเต็มที่ ตอนนี้ก็เรียนรู้ไปก่อน”
“ค่ะ น้าพรค่ะ ตอนบ่ายหนูขอกลับไปที่บ้านเดิมได้ไหมคะ”
“ได้สิ ว่าแต่จะกลับเอาอะไร”
“พวกหนังสือกับโน้ตบุ๊กค่ะ จำเป็นต้องใช้”
“ได้สิ เดี๋ยวน้าให้คนไปส่ง อ้อแล้วเราขับรถยนต์เป็นไหม”
“ไม่เป็นค่ะ แต่หนูขี่มอเตอร์ไซค์ได้นะคะ”
“คันที่ถูกทับแบนน่ะเหรอ เดี๋ยวน้าซื้อให้ใหม่ ไปเลือกเอาว่าจะเอาคันไหน ไปกับน้าภพก็ได้”
“ไม่ดีกว่า หนูเกรงใจ เพราะเดี๋ยวก็ต้องไปเรียนแล้ว”
“ยังอีกตั้งหลายเดือนนะ เผื่ออยากไปไหน น้าจะบอกน้าภพให้ กินข้าวกลางวันเสร็จก็คงจะได้ไป แล้วจะบอกให้น้าภพสอนขับรถด้วย”
“หนูไม่กล้าหรอกค่ะ” ญารินดารีบปฏิเสธเพราะดูแล้วตัวเองคงขับไม่ได้อีกอย่างก็ไม่รู้ว่าจะหัดขับรถไปทำไมเพราะบ้านเธอมีรถยนต์กับเขาเสียที่ไหนกันล่ะ
“ไม่กล้าก็ไม่เป็นไรนะ ตอนแรกน้าก็กล้าๆ กลัว ๆ แต่พอคิดว่าถ้าถึงคราวจำเป็นแล้วเราจะทำยังไงถ้าขับรถไม่เป็นก็เลยมีแรงฮึด อย่างน้อยก็ช่วยน้าขับไปไหนมาไหนใกล้ๆ ก็ยังดี” เพียงพรพูดให้เธอรู้สึกถึงความจำเป็น
“ค่ะน้าพร หนูจะพยายามนะคะ” ญารินดารับปากแต่ในใจก็ยังคงไม่กล้า อีกอย่างจะให้น้าภพมาสอนเธออย่างนั้นมีหวังไม่มีสมาธิเรียนแน่ ๆ เพราะน้าภพนอกจากจะเป็นน้องชายของผู้มีพระคุณแล้วน้าภพยังพ่วงความหล่อมาอีกหลายกระบุงแถมยังหุ่นดีขนาดนั้น เธอกลัวเหลือเกินว่าจะเผลอใจไปชอบเขา
หลังทานอาหารกลางวันเสร็จญารินดาก็ช่วยพี่ๆ พนักงานอยู่หน้าร้าน
“กอหญ้า ขึ้นมาสิ” ภีมภพเรียกหญิงสาวสาวที่กำลังยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าร้าน
“น้าภพจะไปไหนคะ” ญารินดาตะโกนถาม
“ก็ไปช่วยกอหญ้าขนของที่จำเป็นสิ”
“อ๋อ” หญิงสาวรีบขึ้นไปนั่งคู่กับชายหนุ่มบนรถกระบะอย่างคล่องแคล่ว
“บอกทางน้านะ”
“น้าภพไม่เคยไปแถวนั้นเหรอคะ”
“น้าไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่”
“เดี๋ยวหนูบอกทางให้ ไม่ไกลหรอกค่ะ”
พอขับมาถึงที่ร้านของหญิงสาวก็มีผู้ชายสองคนรออยู่ก่อนแล้ว
“พี่สองคนนั้นเอง” ญารินดาจำได้ว่าเมื่อคืนเห็นเขาที่บ้านของเพียงพร แต่ยังไม่ได้คุยด้วย
“คุณพรให้เราสองคนมาช่วย”
“ของหนูมีไม่เยอะหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่สองคนรอตรงนี้ก็ได้ค่ะ หนูจะไปเอาออกมาเอง”
ญารินดาเดินหายเข้าไปหลังร้านโดยมีภีมภพเดินตามไปติด ๆ เขามองดูโดยรอบก็เห็นว่าบ้านของเธอมีของไม่มากอย่างที่บอก
“หนังสือพวกนี้เอาไปด้วยไหม” ภีมภพเห็นหนังสือกองโตวางอยู่บนเตียงเล็ก
“ค่ะ เยอะไปหรือเปล่า” เธอถามด้วยความเกรงใจ
“ไม่หรอกเดี๋ยวน้ายกออกไปเอง”
“ค่ะ เดี๋ยวหนูขอเอาของใช้อีกนิดหน่อยก็จะครบแล้ว น้าภพรอข้างนอกเลยก็ได้นะคะ”
ญารินดาเก็บของใช้ผู้หญิงใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันมาเก็บพวกเครื่องเขียน เธอไม่อยากต้องเสียเงินซื้อใหม่
บนโต๊ะหนังสือมีโน้ตบุ๊กวางอยู่ 1 เครื่อง ตอนที่ภีมภพเดินเข้ามาเขาก็เห็นว่ามันยังไม่พับฝาลงมาด้วยความหวังดีชายหนุ่มจึงกดส่วนหน้าจอลงมา
“น้าภพอย่าค่ะ” ณารินดาหันมาเห็นเลยรีบตะโกนห้าม
กร๊อป!!
“ไม่ทันแล้ว” ภีมภพใบหน้าเสียเมื่อเขากดจอภาพลงแล้วเสียงกร๊อปก็ดังขึ้น
“หนูบอกน้าภพช้าไปนิด โน้ตบุ๊กของหนูมันพับจอลงไม่ได้ค่ะ ตรงฝาพับมันแตก พอพับลงมันก็เลยเป็นแบบนั้น”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้าพาไปซื้อเครื่องใหม่นะ” ภีมภพรู้สึกผิด
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ มันเก่าแล้ว”
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ น้ารู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ เดี๋ยวน้าซื้อให้ใหม่นะ ถือเป็นของขวัญสำหรับนักศึกษาใหม่ก็แล้วกันดีไหม”
“หนูไม่อยากได้มันแพง แล้วมันก็จะพังอยู่แล้ว น้าภพก็แค่ทำให้มันพังเร็วขึ้นเท่านั้นเองค่ะ” หญิงสาวพูดพลางยิ้มอย่างสดใส
ภีมภพเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วก็รู้สึกใจเต้นแรงกว่าเดิม นอกจากเธอจะไม่โกรธที่เขาทำของเธอพัง เธอยังยิ้มหวานจนเย็นชาอย่างเขารู้สึกราวกับเธอกำลังเข้ามาละลายหิมะที่ปกคลุมอยู่ในใจให้ค่อยๆ ละลายไปทีละนิด
“ไม่เป็นไร น้าจ่ายไหว เดี๋ยวน้าพาไปร้านที่น้ารู้จัก ให้เขาเอาข้อมูลเก่าออกมาใส่เครื่องใหม่ด้วยดีไหม ยังไปเปิดเทอมก็ต้องได้ใช้อยู่ดี”
“ก็ได้ค่ะ แต่เอาแบบไม่แพงมากนะคะ” ญารินดาดีใจที่ข้อมูลทั้งหมดยังไม่หายเพราะในนั้นมีความทรงจำมากมายของเธออยู่ด้วย
“ไอ้ก้านไอ้หมาย กลับไปก่อนเลย กูจะไปซื้อของ” เขาตะโกนบอกลูกน้องที่นั่งรออยู่บนม้าหินอ่อน
“ผมสองคนขอติดรถไปด้วยได้ไหม” ก้านอยากไปตามไปด้วย
“ไม่ได้ พวกมึงเอาของกอหญ้าไปเก็บแล้วไปช่วยพี่พร วันนี้มีลูกค้าสั่งปุ๋ยเพิ่ม”
“แล้วลูกพี่จะกลับตอนไหน”
“ทำไมกูต้องบอกพวกมึงด้วยวะ ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้อง”
“ผมก็อยากรู้ เวลาคุณพรถามจะได้ตอบถูก”
“เดี๋ยวกูโทรหาพี่กูเอง”
“น้าภพค่ะ หนูว่าให้พี่สองคนไปด้วยก็ได้ ไปกันหลายคนสนุกดี”
“ไม่สนุกหรอกกอหญ้า ไอ้สองคนนี้มันตัวอันตราย”
“ไหงมาว่าพวกผมอย่างนั้น ใครกันแน่ที่ตัวอันตราย”
“ไปกันเถอะอย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลย”