บท
ตั้งค่า

เข้ากันได้ดี 2

ถึงโจฟินจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรในตัวหญิงสาวมากนัก แต่เขาก็ไม่เซ้าซี้ เพราะตอนเที่ยงเขาชวนบีไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน เธอจะปฏิเสธทันควัน บอกว่าไม่ชอบอยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ แต่พอชวนไปเดินเล่นชายหาดในตอนเย็น หรือไปเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้ากลับยอมไปด้วยกัน ทั้งที่ก็เป็นสถานที่ที่มีคนเยอะเช่นกัน

และที่ไม่เปลี่ยนเลย คือเธอสวมแมสตลอดเวลาอยู่ข้างนอก ด้วยเหตุผลที่เซฟตัวเอง เพราะไม่อยากรับเชื้อโรคจากภายนอก ทั้งไข้หวัดใหญ่ ฝุ่น หรือแม้แต่โควิด ที่ตอนนี้ถึงไม่มีอาการรุนแรง เพราะเป็นมาสองครั้งแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากติด

โควิดอีก

ขณะที่เรากำลังเดินเข้าลิฟต์ ในมือมีของถุงข้าวของที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้า มีหญิงสาวสองคนเข้ามาในลิฟต์ด้วย

บีขยับห่างจากทั้งสอง ไปซุกอยู่ด้านหลังผม ขณะสองสาวหันมามองโจฟินแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แบบที่คนไทยชอบยิ้มให้คนต่างชาติ โจฟินจึงยิ้มตอบ จากนั้นสองสาวก็หันไปคุยกัน

“เออ เพิ่งอ่านข่าวบันนี่ สงสารนางเนาะ”

“ใช่ ผู้ชายก็เลวเกิน อีผู้หญิงก็หน้าด้านสุดๆ หักหลังเพื่อนได้ เป็นนางร้ายทั้งในจอและนอกจอเลย”

“ยังมีหน้ามาร้องไห้เสียใจ ขอโทษบันนี่ ขอโทษสังคมที่เป็นตัวอย่างไม่ดี ทำผิดไปเพราะความรักมันห้ามกันไม่ได้ โอ๊ยฟังแล้วจะอ้วกจริงๆ”

“นั่นสิ ถ้าฉันเป็นบันนี่จะตบด้วยสากกะเบือ”

“แต่บันนี่คือเงียบกริบเลยแก”

“คงทำใจอยู่แหละ”

“สงสารนางจริงๆ เป็นนางเอกทั้งในจอและนอกจอเลยนะ”

ลิฟต์เปิดถึงชั้นห้องพักของสองสาวพอดี ทั้งสองหันมาส่งยิ้มให้เขาอีกครั้ง ก่อนเดินออกจากลิฟต์

คงคิดว่าเขาเป็นต่างชาติที่ฟังภาษาไทยไม่ออกสินะ เม้าท์กันสนุกเชียว

แต่เอ...เรื่องที่สองสาวคุยกันเมื่อครู่ เรื่องราวมันคุ้นๆ ชอบกล และครู่ต่อมาก็นึกขึ้นได้ว่าเหตุการณ์นั้นมันคือกับเรื่องของบีที่เพิ่งเล่าให้เขาฟัง

ถูกคนรักนอกใจไปมีอะไรกับเพื่อนสนิท

มันเกิดขึ้นได้ในหลายๆ เคส จนกลายเป็นเบสิกของรักทรยศไปแล้วมั้ง เพื่อนหรือคนใกล้ตัวที่มีความสัมพันธ์กับแฟน

มันเจ็บกว่าเป็นคนที่ไม่รู้จัก เหมือนพ่อของเขาแอบเล่นชู้กับเลขา ซึ่งผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนรุ่นน้องของแม่ ที่ท่านไว้ใจให้ช่วยงานสามี

แต่น่าเศร้าที่แม่ไม่ได้รู้เรื่องนี้ กระทั่งเสียชีวิต

คนที่รู้อย่างเขา จึงเจ็บแค้นอยู่ในตอนนี้

เมื่อเข้ามาในห้องพัก บีดูเงียบๆ ไป ก่อนขอตัวไปอาบน้ำ เขาก็ลงมื้อทำมื้อเย็น เธอออกมาทันช่วยตั้งโต๊ะพอดี

“พรุ่งนี้ฉันจะกลับแล้วนะ”

“อยู่ต่ออีกวันไม่ได้เหรอ” โจฟินพูดแบบนี้มาสองครั้งแล้ว และเธอก็ใจอ่อนยอมอยู่ต่อ กระทั่งตอนนี้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันเป็นเวลาสัปดาห์หนึ่งเต็มๆ แล้ว แต่ครั้งนี้ดูจากสีหน้าเธอแล้ว คงไม่มีหวัง

“ไม่ได้แล้วค่ะ ฉันต้องกลับไปทำงาน”

“งั้นถ้าว่างเมื่อไหร่มาหาผมบ้างนะ หรือให้ผมไปหาก็ได้ ผมยินดี”

“ค่ะ ถ้าว่างจะมาหานะคะ” เขาดูจริงจังและจริงใจกับความสัมพันธ์นี้จนเธอรู้สึกผิด คนอะไรไว้คนเพิ่งเจอไม่กี่วันก็บอกรหัสห้องพัก

“สัญญาแล้วนะ” เขายกนิ้วก้อยขึ้น ทำให้เธอยิ้มด้วยความเอ็นดู เพราะมันนึกถึงวัยเด็กที่เรียกร้องอะไรจากคนในบ้านก็ใช้วิธีนี้

“ค่ะ สัญญา” เธอยกนิ้วก้อยเกี่ยวอย่างไม่เกี่ยงอน

“แต่ขอร้อง ไม่ว่ายังไงอย่าขาดการติดต่อนะครับ โทร. หรือส่งข้อความคุยกันนะครับ”

“ได้ค่า” เธอรับคำแล้วยิ้มให้เขา ในใจรู้สึกผิด เพราะคำตอบของเธอมีอยู่ในใจตั้งแต่คืนแรกที่มาพักอยู่กับเขาแล้ว

กินข้าวอิ่ม เธออาสาล้างจานชามและอุปกรณ์ครัวทั้งหมด ส่วนโจฟินเข้าไปอยู่ในห้องนอนเล็ก ที่เขาใช้เป็นห้องทำงาน

สิ่งที่เธอรับรู้อีกอย่างเกี่ยวกับโจฟิน คือเขาเรียนจบด้านการถ่ายภาพ ขายงานภาพถ่ายตามเว็บไซต์ รวมทั้งวาดรูปเองด้วย เขาทำมานาน ทำให้พอร์ตงานเขามีภาพมากมายเป็นหมื่นชิ้น สร้างรายได้ในแต่ละเดือนมากพอสำหรับใช้จ่าย รวมทั้งเขาลงทุนในหุ้น

เป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจคนหนึ่งจริงๆ นอกจากความหล่อที่มี

พูดถึงเรื่องความหล่อ เธอเคยไปดูเขาว่ายน้ำที่สระ กับกางเกงว่ายน้ำขาสั้น เปลือยท่อนบน สาวๆ และไม่สาวมองตาเป็นมัน เพราะเวลาอยู่ในชุดว่ายน้ำโซฮอตมาก โชว์เรือนร่างและกล้ามเนื้อที่ลีนไปทั้งตัว

บางทีก็รู้สึกหวงแปลกๆ ยามที่อีกฝ่ายส่งยิ้มให้สาวๆ ที่ส่งเสียงกรี๊ดกราดให้เขา แต่แวบเดียวเธอก็คิดได้ว่า โจฟินไม่ใช่แฟนเธอ ไม่ต้องรู้สึกหวง ไม่ต้องรู้สึกอะไรทั้งนั้น เขาแค่คนที่อยู่กับเธอในเวลาที่ไม่อยากอยู่คนเดียวแต่นั้นพอ

ขณะที่โจฟินทำงาน เธอก็ตอบข้อความที่ใครหลายคนส่งมาถามไถ่ถึงสภาพจิตใจ และอยากรู้ว่าเธออยู่ไหนจะกลับเมื่อไหร่ แต่เธอก็ตอบข้อความบิดาเพียงคนเดียวเท่านั้น เพื่อให้ผู้ให้กำเนิดสบายใจว่าเธอยังอยู่ดีมีสุข จึงถ่ายรูปไปให้ท่านดูด้วย

ส่วนอีกคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวจริงๆ แต่ก็ดูแลกันมาไม่ต่างจากคนในครอบครัว เธอก็ตอบกลับ

‘ไม่เป็นไรแล้ว และจะกลับพรุ่งนี้แล้ว’

จากนั้นเธอก็วางโทรศัพท์ แล้วเดินไปนั่งเล่นที่ระเบียงห้อง มองทะเลกลางคืนด้วยใจที่เหงาๆ เมื่อคิดว่าพรุ่งนี้จะต้องกลับไปสู่โลกใบเดิม ที่มีแต่งาน งาน งาน แต่นั่นมันคือทางเดินชีวิตที่เธอเลือกเอง แต่สักวันก็อยากใช้ชีวิตชิลๆ นั่งมองทะเลทั้งวันทั้งคืนแบบนี้บ้าง

“คิดอะไรอยู่” คนถามเดินมานั่งข้างๆ พลางโอบบ่า

“ก็คิดว่าวันหนึ่งคงจะได้นั่งมองทะเลทั้งวันทั้งคืนแบบนี้บ้าง”

“ตอนนี้ก็ทำได้นะ แค่บีมาอยู่กับผม ผมดูแลบีได้นะ”

“ขอบคุณค่ะ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมมานั่งดูทะเลทั้งวันทั้งคืนน่ะ”

“พร้อมเมื่อไหร่ก็มานะ ผมยินดีต้อนรับบีเสมอ” เขาพูดจบก็แก้มจูบเธอ ซึ่งซาบซึ้งในคำพูดของอีกฝ่ายมาก เพราะรู้สึกได้ถึงความจริงใจในคำชวนนั้น อย่างน้อยความสัมพันธ์ชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก็ทำให้ได้รับความรู้สึกดีๆ จากผู้ชายคนหนึ่ง ที่น่ารักมาก แต่ก็ไม่กล้ารัก ใจมันไม่พร้อมจะเริ่มต้นความรักในตอนนี้

แต่แน่นอนยังต้อนรับสัมผัสที่อบอุ่นปนเร่าร้อนของเด็กหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดปีคนนี้อย่างเต็มใจ เมื่อเขาเริ่มขยับริมฝีปากจากแก้มมายังริมฝีปากเธอ

::::::::

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel