เจคอบ | EP.6 ทำความรู้จักด้วยปาก
“หันหลังสิ ฉันจะทำแผลให้เธอบ้าง” เอ่ยบอกพลางหยิบหลอดยาทาแก้ฟกช้ำขึ้นมา
คนที่เพิ่งเก็บอุปกรณ์ทำแผลใส่กล่องไว้ตามเดิมคิ้วขมวดมองด้วยความสงสัยแปลกใจ
“ระวังหลังขนาดนี้ ไม่รู้ก็โง่แล้วมั้ง”
กระตุกยิ้มสายหัวไปพลางๆ แบบนี้ก็น่าเอ็นดูไปอีกแบบ คิดภาพตอนที่เธอเมาเดินเซเปิดประตูบ้านกับตอนนี้มันช่างต่างกันลิบลับ ไหนจะตอนนี้โวยวายดีดดิ้นตอนอยู่ในห้องนอนอีก
“ฉันทำเองได้ค่ะ ไม่เป็นไร” น้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างเกรงๆ เอ่ยตอบ
เหตุการณ์เมื่อครู่ยังทำให้เธอตกใจอยู่ และพออยู่ใกล้เขาแบบนี้หัวใจของเธอก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นอีก
ที่ทำแผลให้เมื่อกี้พยายามแทบตาที่จะไม่เผลอสบตากับเขา แต่ก็เผลอจนได้...
“ยื่นแขนมา”
“ไม่เป็นไรค่ะ"
“ทำไมดื้อนักวะ” ส่งสายตาดุใส่ก่อนจับข้อมือเล็กดึงเข้าหาตัว
“เจ็บนะ เบาๆ ก็ได้นี่นา อีกอย่างฉันทำเองได้ ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่เป็นไร แต่มือสั่นเลยนะ ตอนทำแผลให้ฉัน”
“...”
“หรือว่าที่สั่นไม่ใช่เพราะเจ็บแต่เพราะ...”
จงใจเว้นคำเอาไว้ราวกับกลั่นแกล้ง และมันก็ได้ผลเมื่อคนตัวเล็กยิ่งหลีกเลี่ยงที่จะสบตากับเขา หนำซ้ำแก้มนัวแดงระเรื่อขึ้นอีกด้วย
“เพราะเจ็บค่ะ จะช่วยก็ช่วยสิ”
ยื่นแขนทั้งสองข้างให้พลางหันหน้ามองไปทางอื่น เธอไม่เคยรู้สึกเคอะเขินกับใครมากขนาดนี้มาก่อนเลย
‘เขาเป็นใครเนี่ยที่ทำให้เธอต้องรู้สึกแบบนี้’ ซัมเมอร์คิดในใจ
ดวงตาสวยแอบช้อนมองคนตรงข้ามที่กำลังทายาแก้ฟกชำตรงต้นแขนให้เธออยู่
“มองดีๆ ก็ได้นะ ไม่ต้องแอบหรอก”
ถามยิ้มๆ ก่อนกระตุกดึงแขนเล็กเข้ามาใกล้ หญิงสาวตาโตด้วยความตกใจกะพริบตาปริบๆ ไร้เดียงสาใส่คนตรงหน้า
สองใบหน้าห่างกันแค่คืบลมหายใจร้อนเป่ารดแก้มนุ่มจนแรงระเรื่อเหมือนผลสตรอวเบอร์รี่สุกตกแต่งหน้าเค้ก
“มองแบบนี้ดีกว่ารึเปล่า”
สายตาคมเจ้าเล่ห์ลากไล้ทั่วใบหน้าสวย เริ่มจากดวงตาสีฟ้าน่าหลงใหลของเธอ
หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงขึ้นเมื่อได้สบตากับเขาแบบใกล้ๆ มันต่างจากคืนนั้นบนห้องนอน คงเพราะว่าตอนนี้เธอมองหน้าเขาได้ชัดเจนและใกล้กว่า
ไม่ดีเลย ใจเต้นแรงแบบนี้ไม่ดีเลย... ด้านหนึ่งของความรู้สึกบอกอย่างนี้และอีกด้านหนึ่งกลับอยากที่จะมองต่อ
ดวงตาสีฟ้าคู่สวยมองตาสายตาคมที่กำลังลากไล้ราวกับสำรวจมองใบหน้าของเธออยู่ เขาเลื่อนสายตาต่ำลงเรื่อยๆ อยู่ที่ตำแหน่งริมฝีปากของเธอ
“ซัมเมอร์...”
เสียงเรียกของคนตรงข้ามทำให้ออกจากภวังค์ความคิด กะพริบตาปริบๆ เรียกสติ
“เอ่อ...”
“ฮึ่ม!” เสียงกระแอมในลำคอ นึกเสียดายที่เธอรู้สึกตัวก่อน ไม่งั้นเขาได้จูบไปแล้ว
ให้ตายเถอะ...
“คุณชื่อ เจคอบ ใช่ไหมคะ” เธอได้ยินดัสตินเรียกชื่อเขาแต่ฟังไม่ค่อยชัดเลยถามเพื่อความแน่ใจ
“อืม เรียกเจคก็ได้”
“ค่ะ ฉันซัมเมอร์” พยักหน้ายิ้มมุมปากให้เขาอย่างเกร็งๆ
“ซัมเมอร์ ก่อนหน้าที่จะเจอฉัน มีใครเข้ามาทำร้ายเธอหรือถามหาเจ้านายฉันหรือเปล่า” คำถามลองใจอีกครั้ง หากเธอมีท่าทีขัดแจ้งกับคำว่าเจ้านายที่เขาเอ่ยถึง แสดงว่าเธอยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์
ซัมเมอร์จะเอะใจกับคำพูดของดัสตินหรือเปล่าวะ ถึงมันจะพูดไม่จบประโยคแต่ก็วางใจไม่ได้เลย
“ไม่ค่ะ คุณดัสตินเป็นคนแรกที่ถาม”
“แล้วเธอบอกอะไรมันรึเปล่า”
“ไม่มีทาง” เธอไม่มีวันปริปากพูดถึงพี่ลินด์ต่อหน้าคนไม่รู้จักเด็ดขาด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
“ดีมาก ถ้าใครมายุ่มย่ามกับเธอเรื่องนี้อีกให้บอกฉันทันที เข้าใจไหม” เจคอบเก็บคำถามที่จะถามต่อเอาไว้ก่อน ก่อนกำชับเธอแทน
จะหลอกล่อถามเรื่องคุณลินด์จากยัยเด็กดื้อนี่จะบอกอะไรเขาง่ายๆ หรือเปล่านะ
เพราะงั้น... ทำความรู้จักอีกหน่อยแล้วกัน
“ห้ามปริปากพูดกับใคร คุยกับใครเรื่องเจ้านายของฉันเด็ดขาด ถ้าสงสัยหรืออย่างรู้อะไรให้มาถามฉัน”
“...”
ซัมเมอร์ยังนิ่ง เธอกำลังคิดทวนอย่างหนัก อยากจะมั่นใจในตัวผู้ชายคนนี้ว่าเป็นคนของพี่ลินด์จริงๆ แต่อีกใจกลับยังปักใจเชื่อไม่ลง
“ยังไม่เชื่อสินะ”
เจคอบกระตุกยิ้มถามเหมือนกำลังขำ แต่ในใจเขากำลังคิดหาทางทำให้ซัมเมอร์เชื่อให้ได้
การที่ดัสตินมาบุกที่ร้านแบบนี้ ยัยเด็กนี่น่าจะระวังเรื่องคุณลินด์มากขึ้น และถ้าเขาบอกความจริงว่าเขาเองก็มาตามเรื่องนี้คุณลินด์เหมือนกัน จากที่จะเชื่อใจกลับไปเป็นไล่ไปไกลๆ มากกว่า
มือหนาล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมา เลื่อนหาภาพถ่ายที่เขาเก็บสำรองไว้เผื่อใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ เลื่อนหาสักพักก็เจอภาพถ่ายมุมสูงตรงหน้าบ้านของเจ้านาย คุณลินด์กำลังเดินเข้าบ้านโดยมีเขาเดินตามเข้ามา
อ่า... อะไรจะประจวบเหมาะขนาดนี้
“คุณยิ้มอะไรคะ”
“เชื่อได้หรือยัง”
ยื่นมือถือให้หญิงสาวดู เธอมองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าคนในรูปคือพี่สาวที่รักของเธอ
“พี่ลินด์...”
“ใช่”
“...” เธอมองให้แน่ใจอีกครั้งก่อนพยักหน้า
คนที่เดินอยู่ข้างหลังพี่ลินด์คือเขา ถ้างั้นเขาก็คือคนที่พี่ลินด์ส่งมาจริงๆ แต่ทำไมถึงไม่ยอมบอกอะไรเธอบ้างนะ
“ก็แค่นี้ ทีนี้ก็หันหลังมาได้แล้ว”
ไม่พูดเปล่ายังจับคนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ก่อนที่ตนเองจะถอนหายใจโล่งอกเบา
“นี่คุณ ฉันบอกว่าทำเองได้ไงคะ”
“เธอมีตาข้างหลังหรือไง”
“ไม่มีค่ะ แต่ให้พ่อทำให้ก็ได้”
“เป็นพ่อก็เป็นผู้ชาย จะแตะเนื้อตัวลูกสาวที่โตเป็นสาวขนาดนี้ได้ยังไง”
“นี่คุณ! คุณก็เป็นผู้ชายนะคะ อีกอย่างเราพึ่งรู้จักกัน”
ประโยคตอบกลับของหญิงสาวทำให้อีกคนถึงกับคิดย้อนกลับว่าเผลอหลุดปากพูดอะไรออกไป
เขาหวงยัยเด็กนี่ หวงตั้งแต่เห็นดัสตินกำลังคร่อมเธออยู่...
“ให้ตายเถอะ” เอ่ยเบาๆ แต่ซัมเมอร์ได้ยิน
“ปล่อยค่ะ”
“อย่าดื้อ!” ออกคำสั่งและดึงเชือกตรงกลางหลังเล็กออก
“นี่คุณเจคอบ” คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนอย่างเร็วพร้อมเอ่ยเสียงแข็งใส่
เพราะเชือกผูกปมด้านหลังถูกดึงออก เดรสจึงหลวมคลายออกจากหน้าอกอวบอิ่มมือเล็กรีบปิดไว้อย่างไวก่อนจะโดนอีกคนที่ยืนขึ้นตามเธอรวบไปกอด ความร้อนของฝ่ามือใหญ่แตะบนแผ่นหลังเล็กทำให้เธอยิ่งประหม่า
ไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวเหมือนตอนที่โดนดัสตินเข้าใกล้เลย
“งั้นมารู้จักกันมากขึ้นดีมั้ย”
“ยังไงคะ...”
“ทำไมสั่น เธอเจ็บขาด้วยเหรอ”
เอ่ยถามเหมือนแซวแต่สายตายังจรดมองใบหน้าสวยโดยไม่ละสายตา มองแค่ไหนความสวยของเธอก็ไม่หายไปสักที ยิ่งมองนานเข้าเขาก็ยิ่งหยุดไม่ได้
“ปะ... เปล่าค่ะ"
มือเล็กผลักดันอกแกร่งออก เธอก้มหน้าลงอย่างอายๆ เมื่อรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มร้อนผะผ่าวขึ้นมาอีกแล้ว
แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเธอก็โดนมือใหญ่รั้งใบหน้าขึ้นก่อนที่เขาจะประกบริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวตกใจตาโตแต่ยืนนิ่งไม่มีท่าทีผลักไสออก จากที่ประกบริมฝีปากแนบชิดกันธรรมดา ก็เริ่มเปิดปากจูบดูดดื่มและดุเดือดขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่