พนันรักเดิมพันใจ บทที่1...
“อ้าวเหรอ...ไม่น่าเชื่อนะทอมบอยอย่างคิตตี้จะเรียนจบเร็วแบบนี้” การที่นาวิกาเปรยอย่างนั้น ก็เพราะคริสติน่ามีลักษณะกระเดียดไปทางผู้ชาย แถมมีเรื่องมีราว ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนร่วมห้องเป็นประจำ...
นาธานไม่ได้เถียง เขาเห็นด้วยเรื่องอารมณ์ร้ายๆ ที่แก้ไม่หายของคริสติน่า น้องสาวเขาเป็นสาวหน้าหวาน และมักจะถูกแซวเป็นประจำ หญิงสาวนึกรำคาญจึงเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากผมยาวสลวยถึงบั้นเอว หล่อนตัดสั้นเกรียน เจาะหูเป็นสิบรู ใส่เครื่องประดับระโยงระยาง หนุ่มพวกนั้นก็ยังตามแซวไม่หยุด จึงเป็นที่มาของการทะเลาะวิวาทตลอดปีการศึกษา
“แล้วจะไปเที่ยวไหนกันเหรอจ๊ะ แม่คิดว่าลูกไม่น่าจะว่างขนาดพาน้องไปทัวร์ได้”
นางติง... ช่วงนี้นาธานกำลังยุ่ง เขาต้องเตรียมตัวขึ้นแท่นแทนสามีของนาง เป็นท่านประธานใหญ่เต็มตัว หลังจากกินตำแหน่งรองประธานมาถึง3ปี
“ครับ...” ชายหนุ่มรับคำ เขามีโปรแกรมเที่ยวไว้ให้คริสติ-น่าแล้ว แต่คงไม่ได้อยู่ด้วยจนจบทริป เมื่อเขายุ่งๆ เหมือนที่มารดาว่า
“เอาเถอะๆ ยัยตัวยุ่งนั่นจะไปที่ไหนก็ตามๆ ใจให้ไปเถอะถือว่าเป็นรางวัลหลังเรียนจบก็แล้วกัน” นางโบกมือ เพราะถ้าหากขัดใจคริสติน่า เจ้าหล่อนคงโวยแหลก เนื่องจากเคยเห็นฤทธิ์กันมาแต่เล็กแต่น้อย ความที่เป็นบุตรสาวคนเดียวของพ่อ- แม่ หญิงสาวจึงแกร่งกล้า และแก่นเหลือประมาณ
“ผมไปนะครับแม่...ใกล้เวลาเครื่องลงแล้วล่ะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขอตัว เขามองนาฬิกาแล้วจึงลุกขึ้นยืน
นาวิกาโครงศีรษะ เพราะมัวแต่วุ่นวายกับเรื่องน้องๆ นาธานจึงยังไม่มีคนข้างกาย บวกกับข่าวที่กระเซ็นกระสายเข้าหู นางเองก็ไม่แน่ใจว่าบุตรชายจะเป็นชายแท้สักเท่าไหร่?
“ได้ยินเสียงรถออก ลูกไปไหนหรือคุณ?”
วลาดิเมียร์ในวัย60ปี ยังคงเป็นหนุ่มใหญ่หน้าตาดีเหมือนเก่า กาลเวลาไม่สามารถลดทอนความหล่อเหลาของเขาลงได้ เพราะเขายิ่งแก่ยิ่งดูทรงภูมิ แถมแข็งแรงจนหนุ่มๆ อาย
“ไปสนามบินค่ะ” นางตอบสามี พร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดเขา เป็นการแสดงความรักที่นางกับสามีทำกันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยหนุ่มสาว จวบจนปัจจุบัน
“ใครมาล่ะ?” หนุ่มใหญ่กดจุมพิตข้างขมับภรรยาคนสวย แล้วจึงถามต่อ
“คิตตี้มาค่ะ เห็นว่ามาฉลองหลังเรียนจบ” นางตอบ ผละออกห่างเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวใหญ่
วลาดิเมียร์เดินไปทรุดนั่งใกล้ๆ เขาบ่นพึม “ยัยแสบนั่นมาป่วนอะไรนาธานอีกหรือเปล่า” วีรกรรมของคริสติน่าทำให้ท่านไม่ไว้ใจ สาวแสบชอบก่อเรื่อง และนาธานก็ต้องคอยตามแก้ปัญหาให้เป็นประจำ
“นั่นสิคะ น้องก็ห่วงๆ อยู่ แต่ใครก็เอาคิตตี้ไม่อยู่เท่าลูกนะคะ”
ความดื้อรั้นอันเป็นนิสัยของคริสติน่าทำให้แม้แต่บิดา มารดาของหล่อนยังยอมแพ้ ที่ยอมลงให้ก็มีแต่นาธานคนเดียว ดังนั้น... หากมันเป็นเรื่องที่มีนาธานเกี่ยวข้อง บิดา มารดาของคริสติน่ามักจะไม่ขัดขวาง เหมือนที่บุตรสาวขอมาเที่ยวเมืองไทยหลังเรียนจบ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ...
ในวันปกติที่ไม่ใช่เสาร์-อาทิตย์ ท่าอากาศยานอันดับหนึ่งของประเทศก็ยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คน...ทั้งหญิง ชาย เด็กเล็ก เด็กโต คนแก่ คนเฒ่า เดินกันให้ขวักไขว่ ฝูงนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะแขก จีน หรือฝรั่งมังค่า เดินสวนกันไปมาให้หนาตา รวมทั้งคนไทยที่ต้องการออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ด้วยเช่นกัน กว่านาธานจะฝ่าการจราจรที่แสนจะติดขัดบนถนนมาถึงท่าอากาศยานหลักได้ ยวดยานที่แน่นเอี๊ยดบนถนนมันทำให้เขามาช้ากว่ากำหนดเวลาที่คริสติน่าจะมาถึงไปเกือบ30 นาที
ดังนั้นหญิงสาวที่กำลังมีความปรีดิ์เปรมที่จะได้ปลดปล่อยความเบื่อหน่ายเกี่ยวกับตำราเรียนมาเกือบ4 ปีเต็ม จึงรู้สึกกร่อยๆ เมื่อเดินพ้นเกทของสายการบินออกมาแล้ว บุคคลที่ควรเห็นเป็นคนแรกยังมาไม่ถึง
คริสติน่าชั่งใจ เธอล้วงโทรศัพท์ส่วนตัวออกมาถือไว้ กำลังจะกดโทร. ออก สายเรียกเข้าก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ไฮ!! คิตตี้ รถติดนิดหน่อย... พี่อาจจะไปถึงช้า เรารอพี่ที่ร้านกาแฟก่อนนะคะ”
นาธานรีบออกตัวบอก ก่อนที่น้องสาวสุดแสบจะโวย
คริสติน่าเบ้ปาก เธอกรอกเสียงตอบแบบเซ็งๆ “ได้ค่ะ ให้เร็วๆ นะพี่ชายไม่อย่างนั้นฉันจะไปเอง”
หญิงสาวกดวางสายหลังจากนั้น เธอก็ชะเง้อคอมองหาร้านกาแฟอย่างที่พี่ชายระบุ ก่อนจะหันไปพยักหน้าเรียกเพื่อนสาวข้างตัวดาเรีย โควานอฟสกี้ “ป่ะดาช่า พี่ชายให้ไปรอที่นั่น” เธอชี้มือไปที่ร้านกาแฟชื่อดัง ก่อนจะช่วยกันลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ตรงไปยังร้านกาแฟร้านนั้น เพื่อหาที่นั่งพักขา