3 ผู้ชายหน้าโหด

บารมีตื่นสายกว่าทุกวันเพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับก็เกือบตีสอง แม้ว่าโจไปแล้วแต่เธอก็ยังคงนอนตาค้าง คิดเกี่ยวกับชีวิตการเป็นบางบำเรอของเขา กว่าจะหลับก็ใช้เวลาพอสมควร และเธอตื่นขึ้นมาเป็นเวลาเกือบเจ็ดโมง

วันนี้มีประชุมแต่เช้า บารมีจึงรีบอาบน้ำและแต่งตัวเร็วที่สุด เพื่อเตรียมการประชุม ถ้าหากมีความผิดพลาดเธอจะถูกโจเล่นงาน แม้ว่าเป็นคู่ขาของเขา แต่เรื่องงานไม่มีงดเว้น

บารมีขับรถออกจากบ้านด้วยความเร็ว ระหว่างติดไฟแดงเธอก็คิดเรื่องงานตลอด ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อเห็นไฟเขียวหญิงสาวพุ่งรถออกไปด้วยความเร็ว

ทว่า...

รถเธอเบี่ยงหลบรถที่สวนมาและกินเลนอย่างน่าเกลียด รถเธอจึงแถออกไปที่ริมถนนอย่างรวดเร็ว

“ว้าย! คุณพระคุ้มครอง”

หญิงสาวร้องลั่นพร้อมกับเหยียบเบรกเต็มแรง เมื่อรถเฉี่ยวกับใครบางคนจนล้มลง หญิงสาวรีบเปิดประตูลงไปดู

“คุณ คุณคะเป็นอะไรหรือเปล่า”

หญิงสาวก้มลงแล้วแตะบ่าผู้ชายร่างใหญ่ด้วยความตกใจ เมื่อเขาพยุงกายลุกขึ้นแล้วล้มลง เธอจะประคอง

แต่...เธอผงะเมื่อเห็นใบหน้าเขาอย่างชัดเจน

“อุ๊ย!”

“ทำไม ร้องอะไร คุณขับรถชนผมจนล้มขนาดนี้ ผมเจ็บรู้ไหม”

เขาพูดเสียงกร้าว ดวงตาดุดันมองบารมีที่สวมเดรสเข้ารูป คอวีเว้าลึก เห็นเนินหน้าอกนูนขึ้นอย่างเซ็กซี่ เธอยกมือปิดหน้าอกเพราะกลัวต่อผู้ชายหน้าโหดที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง แม้ว่าเขาสวมหน้ากากอนามัยปิดจมูกและปากไว้

แต่เธอก็เห็นดวงตาเขาส่อแววหื่นกาม!!!

“คุณเจ็บมากไหมคะ ฉันจะพาไปโรงพยาบาล”

เธอถามพลางกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก

“เจ็บสิถามได้”

เขามองรถคันงามที่จอดอยู่เบื้องหน้า บารมีใจเต้นแรง เกิดความหวาดหวั่น ไม่ไว้ใจเขา กลัวถูกลวนลาม

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันรีบ มีประชุมตอนเช้าด้วย ฉันจะจ่ายค่ารักษาให้ก็แล้วกัน”

บารมีเปิดกระเป๋าสตางค์ด้วยความรีบร้อนและหวาดกลัว ส่งเงินให้เขาสามพันบาท โดยไม่รู้ว่าทำนามบัตรตกที่พื้น

เทพพิชิตมองนามบัตรที่มีรูปของหญิงสาวด้วยดวงตาเป็นประ เขาถูกใจต่อใบหน้างามและรูปร่างสุดเซ็กซี่ จนเกิดอาการตื่นตัวเขาหายใจแรงๆ

ความจริงแล้วเขาไม่ได้เจ็บปวดหรือได้นับบาดเจ็บแต่อย่างใด และไม่ได้ถูกรถเธอเฉี่ยว เพียงแค่สะดุดเท้าตัวเองจนล้มลงเท่านั้น

“รับไปสิคะ”

“ก็ได้ คราวหน้าขับรถให้ระวังหน่อย คงไม่โชคดีเหมือนวันนี้หรอกนะ”

“คุณหมายความว่าไง”

บารมีถามพลางหลบสายตาผู้ชายหน้าโหดแม้ว่ารูปร่างเขาจะสูงใหญ่บึกบึน แต่เธอกลัวต่อหนวดและเครา

ดวงตาคู่นั้นอีกเล่า จ้องเสียจนแทบจะให้ทะลุเสื้อผ้า

“ชนคนตายสิ”

“เอ่อ ฉัน ฉัน”

“คุณไปได้แล้ว อ้อ แล้วอย่าคิดว่ามีเงินแล้วจะฟาดหัวใครได้นะ”

“เอ่อ ค่ะ”

บารมีรีบขึ้นรถแล้วขับไปด้วยความเร็ว แต่ก็ระวังว่าจะเกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก กว่าจะเข้าบริษัทก็เสียเวลาพอสมควร

“ว่ายังไงคะ คุณเลขา มาจนป่านนี้แล้วจะจัดประชุมทันไหมเนี่ย คณะบอร์ดมาเกือบครบแล้วนะ”

กรแก้วสาวสวย หุ่นเซ็กซี่ซึ่งเป็นคู่กัดของบารมีส่งเสียงเจื้อยแจ้ว แต่หน้าตาเอาเรื่องเพราะจ้องจับผิดเธอตลอดเวลา

ถ้าหากว่าพลาดเมื่อไหร่ กรแก้วกระทืบซ้ำทันที

“ฉันเกิดอุบัติเหตุ”

“เป็นข้ออ้างของคนไม่พร้อม ถ้าทำหน้าที่นี้ไม่ไหวบอกฉันสิ ยินดีช่วย โดยไม่ขอเลื่อนตำแหน่งด้วยซ้ำ”

“ขอบใจ แต่ไม่ต้อง ฉันทำได้”

“ฉันว่า...ไม่น่าจะทันนะ ถ้าคุณโจมา เธอก็คงถูกเล่นงาน”

“คุณโจจะต้องเข้าใจเหตุผลของฉันว่ามันเหตุสุดวิสัยจริงๆ ถ้าไม่เชื่อดูกล้องหน้ารถก็ได้ ฉันพร้อมจะเปิดให้ดูตลอดเวลา”

“นี่ อย่าคิดว่าเป็นคนโปรดของคุณโจแล้วจะใหญ่คับบริษัทนะ”

กรแก้วรู้ว่าไม่อาจเหยียบบารมีให้จมดินได้จึงส่งเสียงไม่พอใจ บารมียิ้มหยัน

“คุณโจแยกออก เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว”

“เขาคงอิ่มแปล้กับของคาวที่เธอประเคนให้อย่างถึงลูกถึงคน”

กรแก้วยังคงใช้วาจาเชือดเฉือนไม่หยุด บารมีจ้องจนตาลุกวาวเพราะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจจนไม่อยากสุงสิงด้วย

“ยังดีที่เขาชอบ ต่างจากบางคนพยายามยัดเยียดของเหม็นเน่าให้เขา แต่เขาไม่กินเพราะกลิ่นไม่ดี กลัวว่ากินแล้วจะเป็นพิษต่อร่างกาย”

“นี่ บันนี่ เธอว่าใคร”

กรแก้วเดือดจัดที่บารมีพูดแทงใจดำ

“ไม่ได้ว่าใคร ถ้าเธอจะรับไป ฉันก็ไม่ว่าหรอกนะ เสียเวลาจัดประชุมจริงๆ เลย”

บารมีบ่นแล้วเดินจากไป กรแก้วจ้องร่างงามด้วยดวงตาลุกวาว แล้วกำมือทั้งสองข้างจนแน่น ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความโกรธสุดขีด

‘คอยดูเถอะ! นังบันนี่อย่าพลาดก็แล้วกัน ฉันจะเหยียบแกให้จมดินเลย’

เทพพิชิตพลิกดูนามบัตรที่บารมีทำตกไว้ด้วยความสนใจ ผู้หญิงคนนี้สวย รูปร่างเซ็กซี่ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ปลุกอารมณ์ให้ปั่นป่วน จนกลายเป็นคะนึงหา อยากเป็นเจ้าของเรือนร่างงามทุกคืนวัน

เขารู้ตัวว่ามีความต้องการเรื่องแบบนั้นสูงและค่อนข้างโรคจิต ชอบอะไรที่แปลกออกไปเป็นการเพิ่มสีสันในรสรักให้ตื่นเต้น