บทที่ 1 (2)
“อะไรนะท่านพี่ น้องไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ” ผู้พันจาฮัสด์ถามย้ำเสียงดัง ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เชษฐาตรัสออกมา
“น้องยังไม่เคยเห็นผู้หญิงของพี่ใช่ไหม”
“ยังพ่ะย่ะค่ะ ภารกิจของน้องมันมีอันตรายรอบตัวจนน้องไม่อาจละสายตาจากงานที่กำลังทำอยู่ได้”
ชีคฮาซันทรงเดินไปหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลมาจากโต๊ะทำงาน จากนั้นก็ยื่นให้อนุชาพร้อมกับตรัสบอกสุรเสียงห้วนจัด
“เอารูปผู้หญิงแพศยา พิษสงรอบตัวไม่ต่างจากงูพิษไปดูซะสิผู้พัน”
“ทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะท่านพี่ เธอคนนี้ทำอะไรกับท่านพี่”
คราวนี้ผู้พันเจาฮัสด์เอ่ยถามเชษฐาเสียงเข้มไม่แพ้กัน อีกทั้งนึกในใจว่าใครคืองูพิษที่บังอาจคิดทำร้ายเชษฐาของเขา พอหยิบภาพถ่ายนับสิบๆ ภาพออกมาจากซองเอกสาร ก็กวาดสายตาคมกริบจ้องมองแต่ละภาพเขม็ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามเชษฐาเสียงเย็นยะเยือก
“เธอทำอะไรท่านพี่”
“พี่เจอจิลลาภาในประเทศไทย และพี่ก็สนใจเธอในทันที จึงให้องครักษ์ติดต่อไป และเธอก็รับคำเชิญของพี่ทันทีเช่นเดียวกัน”
“รับคำเชิญเพราะท่านพี่เสนอเงินและของกำนัลจำนวนมหาศาลให้เธอด้วยใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ” ผู้พันจาฮัสด์ดักคอเชษฐา เพราะรู้ว่าเชษฐามักจะทำเช่นนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
“ใช่ผู้พัน พี่เสนอทั้งเงิน บ้าน และรถให้เธอเหมือนผู้หญิงทุกคนที่พี่พึงพอใจ แต่สำหรับจิลลาภาหรือใยไหม พี่บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าพี่รักเธอ เธอเอาใจพี่สารพัดอย่าง รู้ว่าพี่ชอบอะไร เธอก็ปรนเปรอสิ่งนั้นให้ไม่ขาด จนพี่ตัดสินใจขอเธอแต่งงานด้วย”
“แล้วผู้หญิงแพศยาคนนี้ทรยศท่านพี่อย่างไร”
ผู้พันจาฮัสด์เอ่ยถามเสียงเย็น ขณะก้มลงมองภาพถ่ายของหญิงสาวผู้นี้อีกครั้ง ดวงตาคมกริบแข็งกร้าวขึ้นมาฉับพลันเมื่อจ้องมองผู้หญิงแพศยาตามที่เชษฐาตรัสมา
“นังใยไหม มันวางยาพี่”
“วางยา?”
ผู้พันจาฮัสด์ร้องเสียงหลง ไม่นึกว่าเชษฐาของตนเองซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวยงไม่แพ้เขา แถมยังมีนางในฮาเร็มนับสิบๆ คน ต้องมาตายด้วยมุขตื้นๆ แบบนี้
“ใช่! นังงูพิษมันวางยาพี่” ชีคฮาซันตรัสตอบสุรเสียงห้วนจัด
“ยังไงท่านพี่ ผู้หญิงชั่วคนนี้วางยาท่านพี่ได้ยังไงกัน”
ผู้พันหนุ่มเต็มไปด้วยความงุนงง และเมื่อได้ยินคำตอบจากเชษฐา ก็ถึงกับครางออกมาอย่างไม่เชื่อหู
“นังแพศยามันวางยาสลบที่หัวนมของมัน”
ชีคฮาซันตรัสตอบสั้นๆ ทุบพระหัตถ์ลงไปบนโต๊ะทำงานด้วยความเจ็บพระทัย คลั่งแค้นในทุกนาทีที่พระองค์กลายเป็นคนโง่ในเรื่องนี้
“โธ่...ท่านพี่ น้องไม่อยากเชื่อเลยว่าท่านพี่จะถูกเล่นงานด้วยวิธีนี้”
“ไม่เชื่อเจ้าก็ต้องเชื่อ เพราะพี่โดนมาแล้ว”
ประมุขแห่งรัฐคาไลยตรัสสุรเสียงลอดไรฟัน แล้วเอ่ยบอกความจริงให้อนุชาล่วงรู้ ซึ่งพระองค์เองเพิ่งมารู้ตัวตอนฟื้นคืนสติมาแล้ว
“นังงูพิษมันหลอกพี่ว่ามันรักพี่ และต้องการแต่งงานกับพี่ แต่จริงๆ แล้วมันแค่ต้องการชุดเครื่องเพชรของท่านแม่เท่านั้น”
“โอ้...ไม่นะท่านพี่ ได้โปรดอย่าบอกว่านังงูพิษขโมยชุดไฟลินล้อมเพชรที่ท่านแม่รักและหวงที่สุดไป”
ผู้พันจาฮัสด์พึมพำออกมา หวังว่าคำตอบที่เชษฐาจะตรัสตอบออกมานั้นคงไม่เป็นไปตามที่เขากำลังหวาดกลัวอยู่ในยามนี้
ทว่าชีคฮาซันกลับพยักพระพักตร์รับด้วยความเสียพระทัย ที่ไม่อาจรักษาสมบัติล้ำค่าของพระมารดาได้ อีกทั้งเจ็บพระทัย โกรธกริ้วที่ถูกผู้หญิงแพศยาหลอก ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีใครกล้ากระตุกหนวดสิงห์มาก่อน
“บ้าชะมัด!”
ผู้พันจาฮัสด์สบถลั่นไม่แพ้เชษฐา ก่อนจะเอ่ยออกมาให้ชีคฮาซันต้องกัดฟันดังกรอดๆ
“ท่านแม่รักเครื่องประดับชุดนี้มาก ท่านแม่บอกน้องว่าเป็นเครื่องประดับชิ้นแรก ที่ท่านพ่อมอบให้ท่านแม่ ในวันที่ท่านพ่อขอท่านแม่อภิเษกด้วย”
“พี่รู้ผู้พัน พี่รู้ว่าท่านแม่รักเครื่องประดับชุดนี้มาก และพี่ก็แค้นมากที่นังผู้หญิงแพศยาคนนี้มันบังอาจมาขโมยไป”
“น้องจะตามหาชุดไพลินล้อมเพชรกลับคืนมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นท่านแม่นอนตายตาไม่หลับนี้”
ผู้พันจาฮัสด์เค้นเสียงลอดไรฟัน ดวงตาแข็งกร้าวในทันทีที่พูดถึงหญิงชั่ว
“พี่ฝากความหวังไว้กับผู้พัน ตามหาเครื่องประดับของท่านแม่ให้พบ ไม่ต้องสนใจว่าจะเสียเงินมากสักเท่าไร ขอแค่เพียงให้ได้ชุดไพลินล้อมเพชรกลับคืนมาก็พอแล้ว”
ชีคฮาซันตบหนักๆ ลงไปบนบ่าของอนุชา ฝากความหวังไว้กับอนุชาผู้เคยฝึกอยู่ใน หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศของอังกฤษ หรือ British Special Air Service (SAS (UK) ซึ่งถูกฝึกฝนอย่างหนักให้เป็นทั้งทหารและสายลับในคราวเดียวกัน
“ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วง น้องจะตามหาชุดไพลินล้อมเพชรของท่านแม่กลับคืนมาให้ได้”
ผู้พันจาฮัสด์ให้คำมั่นสัญญาเสียงหนักแน่น ก่อนจะเอ่ยถามถึงหญิงเลวต่อ
“หากจับนังผู้หญิงแพศยาได้แล้ว ท่านพี่จะให้น้องทำอย่างไรกับเธอ”
“ฆ่า!” ชีคฮาซันทรงตรัสตอบสั้นๆ ทว่าได้ใจความยิ่งนัก
และผู้พันจาฮัสด์ก็กระตุกยิ้มเหี้ยมรับคำเชษฐาในทันใด พร้อมกับเอ่ยถามเชษฐาอย่างไร้ความปราณี
“แล้วน้องจะจัดให้ตามที่ท่านพี่สั่งมา ว่าแต่ท่านพี่ต้องการให้ผู้หญิงชั่วคนนี้ตายแบบไหน เอาแบบทรมานสุดชีวิต หรือหนึ่งนัด หนึ่งชีวิต เอาให้ขาดใจตายก่อนจะทันได้ทักทายกับยมบาล”
“แล้วแต่ผู้พันจะเห็นสมควรสำหรับการลงโทษผู้หญิงชั่วคนนี้”
ในยามรัก ชีคฮาซันทรงมอบพระทัยให้กับจิลลาภาหมดทั้งพระทัย ทรงมอบตำแหน่งพระชายาให้ทั้งๆ ที่ไม่เคยนึกอยากมอบตำแหน่งนี้ให้กับหญิงใดมาก่อน
แต่เมื่อหญิงสาวผู้นี้ไม่จงรักภักดี ไม่มอบความรักให้กับพระองค์ และยังทำตัวเป็นงูพิษเลี้ยงไม่เชื่อง เพราะฉะนั้นพระองค์ก็ไม่จำเป็นต้องมอบความเมตตาให้กับผู้หญิงคนนี้
ผู้พันจาฮัสด์สาดบรั่นดีเข้าลำคออีกครึ่งแก้ว แล้วเอ่ยถามข้อมูลของหญิงชั่วที่ตนเองต้องไปจัดการ
“ท่านพี่เช็คข้อมูลแล้วใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่าผู้หญิงคนนี้หนีไปที่ไหน”
“ประเทศไทย!” ชีคฮาซันตรัสตอบแทบทันทีที่อนุชาถามจบ “พี่คิดว่ามันยังคงกบดานอยู่ในประเทศไทย และคงขายชุดไพลินล้อมเพชรในตลาดมืด ขายให้กับพวกเศรษฐีน่าโง่ ที่ไม่รู้ตัวว่าพวกเรากำลังตามสิ่งของๆ เรากลับคืนมา”
“ประเทศไทย!”
ผู้พันจาฮัสด์ยิ้มตรงมุมปาก เขาเคยเดินทางไปเยือนประเทศไทยหลายครั้งแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องยากในการสืบเสาะตามหาหญิงสาวคนนี้
“ท่านพี่จะให้น้องไปตามหาผู้หญิงแพศยาคนนี้เมื่อไร”
“ทันทีที่ผู้พันพร้อม”
พระทัยจริงอยากให้อนุชาเดินทางไปวันนี้ด้วยซ้ำไป แต่ชีคฮาซันเกรงว่าอนุชาจะเหนื่อยเกินไป จึงต้องพยายามหักห้ามความต้องการฆ่าหญิงชั่วไว้ชั่วขณะ
“น้องขอเวลาเตรียมข้อมูลสักหนึ่งวัน แล้วพรุ่งนี้น้องจะไปเยือนผู้หญิงคนนี้ถึงประเทศไทย”
คำตอบของผู้พันจาฮัสด์สร้างความพึงพอพระทัยให้กับผู้เป็นเชษฐาเป็นอย่างมาก พระองค์ทรงเดินเข้ามาสวมกอดร่างกำยำของอนุชาไว้แน่น
“ผู้พัน พี่ขอบใจน้องที่อุตส่าห์เดินทางมาหาพี่ทั้งๆ ที่ยังมีผู้หญิงคาอกอยู่”
“ฮ่าๆๆ”
ผู้พันจาฮัสด์หัวเราะร่วนกับคำพูดประโยคสุดท้ายของเชษฐา ก่อนจะเอ่ยสัพยอกเชษฐากลั้วเสียงหัวเราะ
“น้องถือว่าท่านพี่กำลังชมน้องอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ”
“ชมสิเจ้าจาฮัสด์!”
นานๆ ทีที่ชีคฮาซันจะตรัสเรียกชื่ออนุชา และนั่นก็หมายความว่าพระองค์ทรงอยู่ในอารมณ์ที่กำลังรักอนุชาจับพระทัย
“ในยามที่ท่านพี่เดือดร้อน น้องดีใจที่ท่านพี่คิดถึงน้องเป็นคนแรก” ผู้พันจาฮัสด์เอ่ยเสียงทุ้มลึก พลางคลี่ยิ้มบางๆ ให้เชษฐา
“และพี่ก็ดีใจที่น้องมาหาในทันทีที่พี่ต้องการน้อง”
“แต่จะว่าไปแล้วน้องก็เสียดายสาวๆ ที่กำลังเล่นจ้ำจี้กันอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ กะว่าจะต่อยกสองสักหน่อย แต่พอได้ยิน
สุรเสียงดุๆ ของท่านพี่ ทำเอาน้องหมดแรงต่อยกสองในทันทีเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ผู้พันจาฮัสด์สัพยอกกลั้วหัวเราะ จากนั้นก็เข้าไปสวมกอดเชษฐาไว้อีกครั้ง ก่อนจะผละออก พร้อมกับเอ่ยขอตัวไปทำอย่างที่ว่าต่อ
“ท่านพี่ น้องขอยืมนางในฮาเร็มสักคน”
“ตามสบายผู้พัน อยากได้คนไหนก็เลือกเอาได้เลย” ชีคฮาซันตรัสตอบอย่างใจป้ำ
และพันเอกจาฮัสด์ก็หัวเราะร่วนกับการแบ่งปันกันใช้นางในฮาเร็ม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาไปแล้ว
“น้องขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะท่านพี่ พรุ่งนี้น้องจะเดินทางไปลากคอนังผู้หญิงแพศยาให้กับท่านพี่เอง”
“น้องจัดการมันในประเทศไทยซะ ไม่ต้องเอากลับมาให้หนักแผ่นดินของรัฐคาไลย ไม่มีคำว่าปราณีสำหรับคนทรยศ” ชีคฮาซันตรัสสั่งสุรเสียงเย็น
“พ่ะย่ะค่ะท่านพี่ ไม่มีคำว่าปราณีสำหรับคนทรยศ”
ผู้พันจาฮัสด์รับคำเสียงเย็นยะเยือกไม่ต่างจากน้ำแข็งขั้วโลก แล้วเดินออกจากห้องทรงงานของเชษฐาพร้อมกับภาพถ่ายของผู้หญิงแพศยาที่ชื่อจิลลาภา...