บทที่ 1 เขาว่าข้าคือแฝดนรก
บทที่ 1 เขาว่าข้าคือแฝดนรก
เมืองหลวงไท่หยาง
เสียงบรรเลงดนตรีแซ่ซ้องขับขาน ปรากฏร่างของบุรุษรูปงามที่ยามนี้สวมชุดสีดำปักลวดลายมังกรสีทองดูน่าเกรงขาม ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววปีติยินดีอย่างยิ่ง เขากำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้าปะรำพิธี ดวงตาคมจ้องมองไปยังเหล่าข้ารับใช้อย่างมีเมตตา
"เราจะปกครองไท่หยางอย่างชอบธรรม ขอทุกท่านโปรดวางใจ"
"ทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!!!"
เสียงของเหล่าข้ารับใช้ในวังหลวงต่างกู่ก้องสรรเสริญฮ่องเต้หลัวม่อเยียน ผู้เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของเมืองหลวงไท่หยาง
"ถวายพระพรฝ่าบาท"
"น้องสาม น้องสี่ ไม่ต้องมากพิธี รีบมาดื่มสุรามงคลกับพี่เร็วเข้า"
หลัวม่อเยียนที่เห็นว่าน้องชายฝาแฝดของตนมาอวยพรก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ขาดเพียงน้องรอง หลัวเฉวียนเท่านั้นที่ปกครองแคว้นเย่ว์ที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง อีกทั้งสุขภาพก็ไม่สู้ดีเท่าใด จึงไม่สามารถมาร่วมพิธีครองราชย์ของเขาในวันนี้ได้
หลัวเยี่ยนเจ๋อ ผู้ซึ่งเป็นแฝดพี่เขาคือชินอ๋องแห่งไท่หยาง และหลัวเทียนเฉิง ผู้เป็นแฝดน้อง เขาคือจวิ้นอ๋องแห่งไท่หยาง ทั้งสองดำรงตำแหน่งอ๋องเช่นเดียวกัน น้องชายฝาแฝดสองคนนี้ เป็นน้องชายต่างมารดาของเขา เป็นพระโอรสที่ประสูติจากกุ้ยเฟยในวังหลัง หลัวเฉวียนเอง ก็ประสูติจากครรภ์ของซูเฟยเช่นกัน เท่ากับว่ามีเขาเพียงผู้เดียวที่ประสูติจากพระครรภ์ของฮองเฮา
"พี่รองส่งของขวัญมาให้ เสด็จพี่ได้รับหรือยังพ่ะย่ะค่ะ"
หลัวเยี่ยนเจ๋อเอ่ยถามพี่ชายของตนคราหนึ่ง ก่อนจะยกจอกสุราขึ้นมาดื่มจนหมดจอก
"ได้รับแล้ว จะว่าไปพี่ก็คิดถึงน้องรองยิ่งนัก"
"พี่รองคงจะสุขสบายดีพ่ะย่ะค่ะ"
หลัวเทียนเฉิงเอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อน พลางปรายตามองสาวใช้น้อยนางหนึ่งที่ยกขนมกุ้ยฮวามาถวาย หลัวม่อเยียนที่เห็นเช่นนั้นจึงหยอกล้อน้องชายของตนอย่างรู้ทัน
"น้องสี่ เจ้าถูกใจนางหรือ ข้ายกให้เจ้าดีหรือไม่?"
"ให้ข้าด้วยสิ"
หลัวเยี่ยนเจ๋อรีบเอ่ยขึ้นมาทันที ทำให้หลัวม่อเยียนรู้สึกขบขันเป็นอย่างยิ่ง
"เจ้าทั้งสองคนนี่นะ เรื่องอื่นก็ดีไปเสียหมด แต่เหตุใดจึงชอบใช้สตรีร่วมกันเล่า"
หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงหันมาสบตากันครู่หนึ่งก่อนจะแสยะยิ้ม
แต่ไหนแต่ไรมา ของทุกชิ้น เขาก็ใช้ร่วมกันมาโดยตลอด และสิ่งหนึ่งที่พวกเขาชอบมากที่สุด คือการใช้สตรีร่วมกัน
แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่มีพระชายาสักที ด้วยเพราะสตรีในเมืองหลวงต่างยอมรับเรื่องเช่นนี้ไม่ได้ อีกทั้งยังมองว่าพวกเขาโรคจิตผิดวิสัยของคนทั่วไปราวกับเกิดมาจากขุมนรก อีกทั้งยังให้ฉายาพวกเขาว่า ท่านอ๋องแฝดนรก อีกด้วย
แล้วอย่างไรเล่า!!! เขาทั้งสองคนมิได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
"ไม่ละ ข้าเพียงมองนางเท่านั้น สตรีใดจะมาใส่ใจพวกข้ากัน"
หลัวเทียนเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน แต่ไหนแต่ไรมาสตรีที่พวกเขาหลับนอนด้วยมีเพียงไม่กี่นางเท่านั้น พอเขาจะรับพวกนางเข้าจวน พวกนางก็หวาดกลัวพวกเขาจนตัวสั่นเสียแล้ว
"อีกสามวันแคว้นต้าไห่ จะส่งองค์หญิงมากับขบวนบรรณาการ อย่างไรเสียพวกเจ้าก็เข้ามาดูเสียหน่อยเผื่อถูกใจนาง ข้าน่ะ มีราชกิจมากมาย ยังมิอยากรับสนมเพิ่ม"
หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงต่างพยักหน้าคราหนึ่ง
หึ!!! องค์หญิงบรรณาการเท่ากับเชลยศึก มิคู่ควรได้เป็นชายาเอกของพวกเขาแม้แต่น้อย แต่เอาเถิด! มาดูเสียหน่อยจะเป็นไรไป
หลัวเยี่ยนเจ๋อวางจอกสุราในมือลง ก่อนจะเอ่ยกับหลัวม่อเยียนด้วยน้ำเสียงห่วงใย
"เสด็จพี่ ท่านอย่าสนใจขุนนางเหล่านั้นเลยพ่ะย่ะค่ะ"
"ข้ารู้ ขอบใจเจ้ามาก"
หลัวม่อเยียนพยักหน้าเล็กน้อย เขาเองมิใช่ว่าจะไม่รู้ ว่าการขึ้นครองราชย์ของเขาในครั้งนี้ เหล่าขุนนางต่างไม่เห็นด้วยสักเท่าใดนัก ตำหนักธิดาเทพเคยทำนายเอาไว้ ว่าหากเขาขึ้นครองราชย์ ไท่หยางจะแห้งแล้งและผู้คนจะล้มป่วย อีกทั้งไท่หยางจะเข้าสู่กลียุค
ทางแก้เพียงทางเดียวคือไม่ให้เขาขึ้นครองราชย์!
จะให้ทำเช่นไรเล่า? ในเมื่อเขาเป็นถึงองค์รัชทายาทที่เสด็จพ่อทรงแต่งตั้ง น้องรอง น้องสาม น้องสี่ ก็เป็นเพียงพระโอรสที่ประสูติจากนางสนม แต่เขาเป็นพระโอรสที่ประสูติจากฮองเฮา ตำแหน่งนี้จึงตกเป็นของเขาโดยชอบธรรม
ยิ่งคิดถึงแววตาดูแคลนและไม่เห็นด้วยของเหล่าขุนนาง รวมถึงเหล่าธิดาเทพที่เฝ้ามองเขาอย่างไม่ยอมรับ โทสะภายในใจของหลัวม่อเยียนก็ยิ่งปะทุขึ้นมา แต่เขาทำได้เพียงอดกลั้นมันเอาไว้ในใจเพียงเท่านั้น
หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิง เมื่อเห็นว่าพี่ชายของตนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าใดนัก อีกทั้งท้องฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้ว พวกเขาจึงขอตัวกลับจวนก่อน แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่ชื่นชอบการพบปะสังสรรค์กับผู้ใดนาน ๆ อยู่แล้ว
เมื่อกลับมาถึงจวน ทั้งหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงต่างถอดเสื้อผ้าออกเพื่อจะอาบน้ำ พวกเขาอาศัยอยู่ในจวนเดียวกัน ใช้ของทุกอย่างเหมือน ๆ กัน จนกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว แม้กระทั่งยามอาบน้ำก็ยังอาบร่วมกัน มีเพียงเตียงนอนเท่านั้นที่พวกเขาไม่ใช้ร่วมกัน เหตุผลเพียงแค่หลัวเทียนเฉิงชอบใช้เท้ายันหลัวเยี่ยนเจ๋อตกเตียง เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่วัยเยาว์ จวบจนยามนี้ที่เขามีอายุยี่สิบปีแล้ว ก็ยังเป็นเหมือนเช่นวัยเยาว์เสมอมา
จวนอ๋องของพวกเขาค่อนข้างใหญ่โต โอบล้อมไปด้วยต้นไผ่ให้ความร่มรื่น อีกทั้งยังมีดอกเหมยกุ้ยฮวาปลูกเรียงรายผลิดอกส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา
เสียงแมวร้องดังลั่นไปทั่วทั้งตำหนัก ทำให้หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงหันมาสบตากันคราหนึ่ง ก่อนจะรีบเดินออกไปดูทันที
ภาพที่เห็นคืออาลู่ แมวสีดำลูกรักของหลัวเยี่ยนเจ๋อกำลังถูก อาชิง แมวสีขาวของหลัวเทียนเฉิง ตบหน้ารัว ๆ ไม่ยอมหยุด
"อาชิง หยุดเดี๋ยวนี้!!!"
"อาลู่ ลูกรักของพ่อ เจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่? อาเฉิง แมวเจ้าตีแมวข้า!!!"
"อาลู่น่าจะรังแกอาชิงก่อน"
"ไม่มีทาง ลูกข้าเป็นแมวที่ดี!!!"
"หึ!!! ลูกเป็นอย่างไรพ่อมันก็เป็นเช่นนั้น"
"สามหาว!!! อาเฉิง"
พ่อบ้านเฉียวเดินเข้ามาในเรือนใหญ่ ก่อนจะต้องส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ท่านอ๋องแฝดคู่นี้ เหมือนจะรักใคร่กันแต่บางคราก็ด่าทอกันจนเหมือนไม่ใช่พี่น้อง
เวลาทำเรื่องเช่นนั้นละก็เข้าขากันดีจริงเชียว!!!
หลัวเยี่ยนเจ๋อ อุ้มอาลู่ แมวสีดำตัวอ้วนมาวางเอาไว้บนเตียง ก่อนจะยื่นมือไปลูบศีรษะมันอย่างรักใคร่ อาลู่หันมาแยกเขี้ยวใส่เขาคราหนึ่ง ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงที่กลางศีรษะของเขาอย่างเต็มแรง แต่ทว่าหลัวเยี่ยนเจ๋อกลับไม่โกรธเคืองเจ้าแมวอ้วนเลยแม้แต่น้อย
"พ่อยอมเจ้าแล้ว ลูกรักของพ่อ ตบตีพ่อเถิด เอาให้สาแก่ใจเจ้า พ่อผิดเองที่ดูแลเจ้าไม่ดี"
อาลู่ที่เห็นว่าหลัวเยี่ยนเจ๋อยอมมันเช่นนี้ จึงทิ้งกายลงนอนบนเตียง พลางหงายพุงนอนเกลือกกลิ้งบนเตียงอย่างอารมณ์ดี มันเป็นแมวเพศผู้สีดำตัวอ้วนที่เขาเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่เล็ก แม่ของอาลู่มาคลอดมันทิ้งไว้ที่สวนท้ายจวนก่อนจะล้มป่วยและตายจากไป เขาจึงดูแลมันมานับตั้งแต่วันนั้น และรักมันราวกับบุตรชายแท้ ๆ ของตน แต่ด้วยเพราะหลัวเยี่ยนเจ๋อเป็นคนอารมณ์ร้าย อาลู่จึงซึมซับอารมณ์ร้ายกาจมาจากเขา แต่ทว่ามันกลับพ่ายแพ้ให้แก่อาชิงแมวอ้วนสีขาวของหลัวเทียนเฉิงอยู่เสมอ
ด้านหลัวเทียนเฉิงนั้น ก็กำลังอุ้มอาชิงพาดบ่าราวกับเด็กน้อย พร้อมกับสั่งสอนเจ้าแมวสีขาวตัวอ้วนเพศผู้อย่างใจเย็น
"อาชิง เจ้าอย่าทุบตีอาลู่อีกเลยนะ อย่างไรเสียก็เป็นพี่น้องกัน"
เมี้ยวววว!
"ดีมากลูกพ่อ"
หลัวเทียนเฉิงยื่นมือไปลูบศีรษะอาชิงอย่างรักใคร่ อาชิงเป็นแมวที่อ่อนโยนเหมือนกับเขา มันทั้งสุขุมและน่ารักน่าชังไม่น้อย เขาเก็บอาชิงมาจากตลาด ยามนั้นมันยังเล็กและนั่งตากฝนอยู่ ช่างน่าเวทนายิ่งนัก เขาจึงอุ้มมันกลับมาเลี้ยงที่จวนตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ทั้งที่อาชิงเป็นแมวอ่อนโยนถึงเพียงนี้ แต่เหตุใดมันจึงชอบทุบตีอาลู่กันเล่า?
คงเพราะอาลู่ชอบมายั่วโมโหมันเป็นแน่! อาชิงของเขาเป็นแมวที่ดีย่อมไม่ทุบตีแมวตัวอื่นก่อน