EPISODE 3 [ความเหมือนที่แตกต่าง]
เ(ฉ)พาะช่างขังรัก MDL STORY (SS2)
EPISODE 3
[ความเหมือนที่แตกต่าง]
“สนามแข่งอะไรเหรอแก”
บีบีที่เพิ่งเดินออกมา เพราะเธอมัวแต่แวะไปที่ห้องสมุดได้ยินเรื่องที่เอวาพูดไม่ค่อยชัดนักจึงถามย้ำ
“อ้าว! พวกมึงยังไม่ไปเหรอวะ” บาสที่จอดรถต่อจากเดี่ยวส่งเสียง เมื่อเห็นว่าทั้งเพื่อนเขาและสาว ๆ ยังคงไม่กลับกันไปไหน
“ม๊าไอ้รันพาพะแนงไปRVB” เดี่ยวพูดขึ้นเมื่อบาสเดินมาถึง
“ม๊ามึงอะนะ พาไปทำไมวะ” บาสส่งเสียงสูง ทำให้บีบีรีบพุ่งตัวมาปิดปากเขาไว้ทันที เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปมาจะตกใจเอา
“ไอ้พี่บาสจะเสียงดังเพื่อ!” เธอส่งเสียงดุ ทำบาสหน้าจ๋อย แล้วดึงมือนุ่ม ๆ ของแฟนสาวออกจากปาก
“พี่ตกใจอะบีจ๋า จะพูดเบา ๆ นะครับ” บาสทำเสียงอ้อน
“กูจะไปดูหน่อย” ภารัณได้แต่ส่ายหน้าให้เพื่อนตัวเองที่โอเวอร์ไม่เปลี่ยน
“วาไปด้วยค่ะ ถ้ายัยพะแนงถูกม๊าพี่พาไปจริง ๆ วาขอไปด้วยนะคะ” เอวารีบโพล่งขึ้นเมื่อเห็นว่าภารัณตีไฟจะเลี้ยวรถออกไปแล้ว
“วาไปกับพี่ก็ได้ จอดรถวาไว้นี่แหละ” เดี่ยวว่า ทำให้ภารัณกดปิดกระจก ก่อนจะตบเกียร์ออกรถทันที
“ไอ้เดี่ยวเดี๋ยวกูไปด้วย แต่…” บาสบอก แล้วหันไปมองยัยตัวเล็กข้าง ๆ
“บีก็จะไปด้วย” เมื่อแฟนสาวว่ามาแบบนั้น บาสจึงได้แต่ผายมือเชิญเธอไปที่รถของเขา
ณ สนามแข่ง RVB เขต ริเวอร์เบย์
สนามแข่งรถขนาดใหญ่ที่มีเส้นทางหลากหลายในการแข่งขัน คือ กิจการหนึ่งของครอบครัวไท่หลง ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่มีอิทธิพลมากที่สุดของเขต
อีกไม่นานที่สนามเส้นเลียบชายหาด จะมีการแข่งใต้ดินเกิดขึ้น ซึ่งวัยรุ่นทุกเขตจะส่งรถเข้าร่วมแข่งขันเดิมพันกันทุกนัด คนจากอู่MDLก็ถือว่าเป็นขาประจำของสนามนี้เช่นกัน
และเพราะใกล้จะมีการแข่งขันแล้ว ไท่หลงจึงมีการจัดพื้นที่สำหรับพักรวมตัวของคนจากแต่ละเขตไว้อย่างชัดเจนที่ข้างสนามแข่งหลัก
ป้ายที่ขึ้นว่า ‘เขต MDL’ พวกหยกได้พาคนจากอู่มาสแตนบายด์ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะรู้ว่าวันนี้ไท่หลงได้เปิดให้เทสสนามทุกเส้น กลุ่มวัยรุ่นทุกเขตจึงมารวมตัวกัน เพื่อดูรถจากแต่ละเขตแบบไม่ต้องเสียเวลานัดหมายทีเดียว
ดาร์ลิ้งที่เลี้ยวรถเข้ามาจอดข้างเต้นท์MDLก้าวลงจากรถทันที เมื่อเห็นว่าหยกเอารถที่จะแข่งลงมาที่เต้นท์ทีมเขตแล้ว
“เจ่เจ้!” ชายหนุ่มเมื่อเห็นหน้าเจ่เจ้ก็รีบส่งเสียงเรียกทันที
การปรากฏตัวของดาร์ลิ้ง ทำให้กลุ่มของไท่หลงที่กำลังเดินมาทางนี้พอดี รีบตรงเข้ามาทักทายสาวสวยเจ้าของเรือนผิวขาวจัดทั้งยังตัวจิ๋ว แต่แซ่บสุดในชุดเดรสเปิดไหล่สีดำ เข้าคู่กับรองเท้าบูทส้นสูงหุ้มข้อเท่ ๆ เส้นผมยาวเป็นลอนด์อ่อนดำขลับที่ไฮท์ไลท์ปลายสีน้ำเงินโดดเด่น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เธอก็ยังคงชอบทำผมสีนี้ไม่เปลี่ยน
“ว้าว! คนสวยที่ไหนมาเยือนวะเนี่ย นี่กินหลอดไฟเป็นอาหารรึไงครับ…ข๊าวขาว ออร่าตาแทบแตก”
ต้าตงที่เดินตามไท่หลงมาติด ๆ ส่งเสียงแซว ก่อนที่หลังหัวจะลั่นดังเพียะ
“สาวพ่อมึงดิ เอาตะกร้อครอบปากมึงไว้ด้วย” เป็นไท่หลงที่ลั่นกะบาลเพื่อนรักรุ่นน้องเข้าอย่างจัง จนต้าตงมึนหัวไปหมด
“สวัสดีครับคุณน้า กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ไท่หลงเอ่ยทักพร้อมยกมือไหว้
การกระทำและคำพูดของเขาทำเอาเพื่อน ๆ ต่างหน้าเหวอกันไปหมด ไม่คิดว่าจะได้เห็นไท่หลงตัวตึงของเขตนอบน้อมกับใครมากขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ดูยังไงก็น่าจะเรียกเธอแค่ ‘พี่สาว’ ก็น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว
“ไม่นานนี้เอง แล้วนี่…” ดาร์ลิ้งว่า แต่ยังเอ่ยอะไรไม่จบเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น
“ไงยัยแสบ! กลับมาไม่มีบอกกันเลยนี่หว่า” เจ้าของร่างสูงใหญ่วัยห้าสิบกว่าที่เดินนำคนสนิทมาหา ทำให้เพื่อน ๆ ของไท่หลงต่างหลบไปยืนรวมกันกับทีมของหยกแทน เพราะตอนนี้ดูเหมือนกับว่าผู้ใหญ่เขาจะคุยกันเสียแล้ว
“เฮีย! ยังอยู่เหรอเนี่ย ฉันคิดถึงเฮียจัง” คำทักทายแปลก ๆ มาพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินกางแขนตรงเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยสีหน้าระรื่น ทำให้พะแนงที่เดินตามก้นเฮียคิลมาต้อย ๆ ได้แต่ตะลึงกับอาการของคนที่ทุกคนเรียกเธอว่า ‘ประธานใหญ่ของอาณาจักรMDL’ แต่ตอนนี้สำหรับพะแนงแล้ว คุณแม่ดูเหมือนเด็กซน ๆ มากเลยล่ะ
หมับ!
ทว่ายังไม่ทันที่ ‘ไท่หลาง’ ผู้เป็นพ่อของไท่หลง จะได้สวมกอดอีกฝ่าย มือของใครบางคนก็คว้าท้ายทอยเธอไว้เสียก่อน
“คิดจะทำอะไรวะนั่น!” น้ำเสียงราบเรียบที่มาพร้อมกับเจ้าตัวซึ่งทำสีหน้าพร้อมบวกกับภรรยาคนสวย และผู้ชายทุกคนที่ทำใจกล้าจะอ้าแขนรับเธอไปกอด ทำให้ดาร์ลิ้งหันมามองสามีของเธอทันที
“อ้าว! เฮียมากับเขาด้วยเหรอ”
เธอย้อนถามเสียงหวาน สีหน้าที่ดูก็รู้ว่าแกล้งทำเป็นตกใจ มันน่าหมั่นไส้แค่ไหน แต่ ‘โรมัน’ ก็ได้แค่จดบันทึกไว้ในใจเท่านั้น เพราะตอนนี้คงไม่สะดวกจะจัดการเธอนัก
“สวัสดีครับคุณน้า” เป็นอีกครั้งที่ไท่หลงยกมือไหว้ผู้มาเยือน
“อืม” โรมันรับคำหลานชายแค่นั้น
“ม๊าครับ!” เสียงของสองที่วิ่งลัดสนามมาจากทีมของเขตริเวอร์เบย์ดังขึ้น ทำให้กลุ่มของภารัณที่เพิ่งมาถึงรู้ตำแหน่งแล้วว่าผู้เป็นแม่ของเขาปักหลักอยู่ที่จุดไหนของสนาม
ไท่หลงมองตามหนุ่มน้อยเจ้าของเส้นผมสีฟ้าพาสเทล ที่ส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าเขาว่า ‘ม๊า’ ทำเอาชายหนุ่มงุนงงไปหมด เพราะไท่หลงรู้ว่าคุณน้าดาร์ลิ้งมีลูกชายแค่สองคน คือ มาร์คัส และ ภารัณ
“ทำไมหนูเรียกคุณน้าแบบนั้น” ไท่หลงเอ่ยถาม ทำให้ดาร์ลิ้งกระดิกนิ้วเรียกไอ้หนูสองให้มาหา
“นี่ลูกชายอีกคนของน้า จะว่าไปก็ยังมีอีกคนนะ” ดาร์ลิ้งว่า ทำหัวคิ้วไท่หลงขมวดมุ่นไปหมด คุณน้าไปมีลูกเพิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเขาไม่รู้
“ม๊า! ทำไมมาครับ” ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรต่อ ภารัณที่สาวเท้าเร็ว ๆ มาถึงก็ถามเรื่องที่ผู้เป็นแม่มาที่นี่ทันที
“ทำไมม๊านายจะมาไม่ได้ ก็คนคุ้นเคยกันทั้งนั้น” เห็นหลานชายหุนหันมา ไท่หลางจึงเอ่ยขัด
“สวัสดีครับคุณลุง ดีนะเฮีย” ภารัณยกมือไหว้ผู้อาวุโสแล้วหันไปทักลูกชายของท่านด้วยเลย
“เออ” ไท่หลงรับคำแค่นั้น เพราะยังคงงุนงงกับสถานะเจ้าหนูสองของเขาอยู่
“พี่รัน” พะแนงส่งเสียง เห็นแฟนหนุ่มของเธอตามมาก็ค่อยหายใจสะดวกขึ้น เพราะตอนนี้รอบ ๆ ตัวเธอเต็มไปด้วยคนที่เธอไม่คุ้นเคยเลย
“ไอ้เดี่ยว” เห็นยัยหนูยืนหน้าเจื่อนหลบอยู่หลังเฮียคิล ภารัณเลยพยักเพยิดหน้าให้เดี่ยวพาสาว ๆ เพื่อนเธอไปยืนรวมกันทางเต้นท์ทีมเขตแทน
“มาไวดีนี่ไอ้ลูกชาย” ดาร์ลิ้งที่เดินมากอดคอลูกชายคนเล็ก ซึ่งทำหน้าบอกบุญไม่รับเท่าไหร่เพราะเธอฉกตัวแฟนสาวของเขามา ทำให้เพื่อน ๆ ของไท่หลงได้แต่เบิกตาโตกับสิ่งที่ได้รู้
ถ้าเธอคือแม่ของภารัณ เธอก็ต้องเป็นผู้หญิงที่ใคร ๆ ก็พูดว่าเป็นอันดับหนึ่งของมาร์ติน ลินน์น่ะสิ
“ม๊าจะมาดูรถ ทำไมต้องพาเธอมาด้วยครับ” ภารัณพึมพำ
“ทำไม?”
ดาร์ลิ้งย้อนถาม ท่าทางของคุณแม่ ทำให้พะแนงเหมือนเห็นสภาพตอนที่เธอถูกภารัณย้อนถามเลย
คำถามที่ขึ้นต้นว่า ‘ทำไม’ มันส่งต่อกันทางดีเอ็นเอด้วยเหรอ