EPISODE1 [ไม่เสือก]
แวะคุยกับไรท์
นิยายเรื่อง “เ(ฉ)พาะช่างขังรัก” เป็นนิยายที่ไรท์ต้องการเขียนถึงช่วงชีวิตวัยรุ่นวัยเรียนของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ชีวิตพวกเขาต้องเข้าไปพัวพันกับโลกเทา ๆ ของสังคม ช่วงชีวิตที่ยังไม่สามารถตัดสินใจทุกเรื่องได้ด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ ชีวิตที่มีเพื่อนพ้องพี่น้องที่มีทั้งดีและไม่ดี ครอบครัว การเลี้ยงดู รวมถึงเรื่องของความทะยานอยาก ความรัก โลภ โกรธ หลงของคน เพศสภาพ การทะเลาะวิวาท สารเสพติด และการมีเซ็กส์ในวัยเรียนเป็นต้น
ซึ่งตัวละครและสังคมในนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่ไรท์แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เลิฟนะยู ^^
ตัวตึงดึงปฐพี
เ(ฉ)พาะช่างขังรัก (MDL STORY)
EPISODE1
[ไม่เสือก]
“พี่พนา! พะแนงไปก่อนนะคะ” ฉันตะโกนบอกคุณพี่ชายสุดหล่อ ซึ่งนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่ห้องรับแขก แต่ไม่รู้ว่าเพราะห่วงหรือกังวลกันแน่ ถึงทำให้พี่พนารีบสาวเท้าตามออกมาที่หน้าบ้าน แถมยังมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ท่าทางแบบนั้นทำฉันหวั่นใจอยู่หน่อย ๆ เพราะกลัวว่าพี่พนาจะไม่ให้ฉันขับรถไปมหา’ลัยเองเนี่ยแหละ
“มีอะไรเหรอคะ” ฉันถามออกไปอย่างสงสัย
“พี่ว่าไปกลับไม่ดีกว่ารึไง ไปอยู่หอนอกอันตรายจะตาย พี่เป็นห่วง” พี่พนาว่า เดิมทีก็ขี้ห่วงอยู่แล้ว ยิ่งพอฉันบอกว่าขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วจะขอย้ายไปอยู่หอ พี่พนาก็ยิ่งไม่เห็นด้วย แต่ฉันไม่อยากเป็นยัยลูกแหง่ติดพี่แล้วนี่นา ใคร ๆ เขาก็ไปอยู่หอกันทั้งนั้น ขืนยังให้พี่ชายตามรับส่งเหมือนตอนมัธยม คงได้อายเพื่อนแย่
ติ๊ง!
ขณะที่ฉันกำลังหาทางหว่านล้อมคุณพี่ชายอยู่นั้น เสียงเตือนของกล่องข้อความในเกมก็ดังขึ้น หน้าต่างลอยแจ้งเตือนปรากฏเป็นข้อความของใครบางคนขึ้นมา
[Mr.R : วันนี้ไปเรียนวันแรกใช่ไหมครับ]
ฉันเหลือบมองข้อความนั้น ก่อนจะยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋าสะพายไหล่ แล้วเดินมาควงแขนพี่พนา พร้อมทำสีหน้าอ้อนสุดฤทธิ์
“พี่พนาขา…พะแนงสัญญาเลยว่าจะไม่เหลวไหล วันหยุดก็จะกลับมาบ้านแน่นอน อีกอย่างนะคะ กุญแจหอพักพะแนงก็ปั๊มให้แล้ว พี่พนาจะไปเยี่ยมตอนไหนก็ได้จริงไหมคะ” ฉันบอกย้ำถึงข้อตกลงที่ให้กับพี่ชายไว้
พี่พนาได้ฟังก็เอาแต่ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ที่ฉันยกเอาข้อตกลงขึ้นมาพูดขนาดนี้ ก็แหม…ฉันอยากลองไปใช้ชีวิตนอกบ้านบ้างนี่นา
“ก็ได้! แต่ถ้าโดนใครรังแกล่ะก็รีบโทรบอกพี่รู้ไหม แล้วไอ้พวกเด็กเพาะช่างข้าง ๆ มหา’ลัยอย่าไปสุงสิงกับมันเด็ดขาด มีแต่พวกไม่ได้เรื่องทั้งนั้น” พี่พนาย้ำเสียงขรึม
ที่จริงฉันก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องของสองสถาบันนี้หรอกนะ แล้วก็ไม่ได้อยากรู้ด้วย ว่าทำไมคุณพี่ชายถึงเอาแต่พูดย้ำเรื่องของวิทยาลัยเฉพาะช่างที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยที่ฉันเข้าเรียน เพราะถึงยังไงก็คงไม่มีอะไรให้เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว
“รู้แล้วค่า! พี่พนาบอกพะแนงเป็นรอบที่ล้านแล้วน้า” ฉันบอกน้ำเสียงหยอก ๆ
“อืม…จำได้ก็ดี ขับรถดี ๆ ล่ะ เลิกเรียนแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ ถึงห้องแล้วก็วีดีโอคอลมาหาพี่ด้วย อ้อ! แล้วก็ห้ามพาหนุ่มที่ไหนขึ้นหอพักเด็ดขาดรู้ไหม” พี่พนาย้ำ ซึ่งเรื่องนั้นคงไม่มีหรอก เพราะฉันยังไม่มีแฟนนี่นา
ฉันยิ้มร่าพร้อมทำท่าตะเบ๊ะเหมือนตำรวจ “รับทราบค่า”
วิทยาลัยเฉพาะช่าง MDL แผนกช่างกลโรงงาน ปี 2
“เฮ้ยพวกมึง! ได้ยินว่าวันนี้มอข้าง ๆ รับน้องนี่หว่า เมื่อเช้าตอนกูขับรถผ่าน เห็นน้อง ๆ ปีหนึ่งอย่างแจ่ม แต่ละคนเดินลงมาจากรถหรูกันทั้งนั้น อย่างไฮโซ”
เสียงของ ‘บาส’ ดังแว่วมาตั้งแต่เจ้าตัวยังเดินเข้ามาไม่พ้นกรอบประตู ทำให้นิสิตช่างร่วมแผนกต่างหันมาให้ความสนใจเขาทันที
“ดอกฟ้าทั้งนั้นมึง แค่เห็นสีเสื้อช็อปวิท’ลัยเรา เขาก็ทำหน้าเหมือนเห็นขี้แล้วไหมวะ” กลุ่มหลังห้องตะโกนตอบ
“นั่นดิ วันก่อนตอนกูเดินผ่านหน้ามอ น้องเขารีบเดินหนีกูกันใหญ่ ทำหน้าอย่างกับเห็นผี กูนี่โคตรเสียเซลฟ์”
“น้องเขาอาจจะตกใจหน้าเหียก ๆ ของมึงไหมวะ ต้องอย่างไอ้เดี่ยวโน้น อย่างเฟี้ยวอย่างหล่อ!”
“หึ! น้อน ๆ เขายังไม่รู้จักของดีอะดิ” เจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลดำเอ่ยเสียงเรียบ พลางนั่งลงที่เก้าอี้
“เดี๋ยวนะครับไอ้คุณเดี่ยว นี่หรือว่ามึง…” บาสที่ได้ยินเพื่อนสนิทอย่าง ‘เดี่ยว’ เปรยขึ้นมารีบถลาตัวไปลากเก้าอี้เข้ามานั่งข้าง ๆ ทันที แน่นอนว่าไอ้พวกที่นั่งขลุกกันอยู่หลังห้องเองก็ต่างพร้อมใจกันกรูเข้ามาร่วมวง
เดี่ยวยกยิ้มมุมปาก
“สลอนเสือกเลยนะพวกมึง ไม่ใช่กูเว้ย! กูไม่ถูกโรคกับคุณหนูมอข้าง ๆ หรอก”
พอได้ยินคำตอบแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันส่งเสียงโอดครวญ
“กูว่าล่ะ โดนไอ้เดี่ยวแม่งแกงแต่เช้า”
“กูไม่น่าลุกมาเลย คิดว่าจะมีอะไรเด็ดมาเล่าซะอีก”
“แหม! ถึงไม่ใช่กู แต่ก็คนแถวนี้แหละวะ ใช่ไหมวะไอ้รัน” เดี่ยวว่า แล้วปรายสายตาไปทางเพื่อนรักที่นอนฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างหลังห้องเช่นทุกวัน
“เอาจริงดิ?” เหล่าเด็กช่างที่นั่งล้อมเดี่ยวอยู่ส่งเสียงถามแทบจะพร้อมกัน
“เฮ้อ! กูไม่อยากจะเล่า แต่คืองี้เว้ย ไอ้…” เดี่ยวแสร้งถอนหายใจใส่ และกำลังจะเริ่มเล่า แต่เสียงห้าวต่ำของคนที่ยังคงฟุบหน้าอยู่ดันดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่เสือก”
เพียงแค่คำเดียว ทำเอากลุ่มเด็กช่างที่เคยนั่งจับกลุ่มรอฟังกันอย่างอยากรู้อยากเห็น ต่างพากันแยกย้ายกลับที่นั่งตัวเองทันที
“มึงวันนี้มีเรียนอะไรบ้างวะ”
“ตอนเที่ยงแดกไรดี”
“เฮ้ย! ใครเห็นปากกากูไหมวะ”
“พรุ่งนี้มีการบ้านไหมวะมึง”
“มึงเรียนวันนี้ก่อนไหม ห่า! ถามหาการบ้าน ทำอย่างกับมึงทำอย่างนั้นแหละ”
ต่างคนต่างพากันเฉไฉกลบเกลื่อน ทำให้บาสได้แต่ยักไหล่ให้เดี่ยว ที่เดินไปยังโต๊ะหลังห้อง
“นอนดึกเหรอวะ หรือเมื่อคืนมึงไปที่ดาร์คมา” เดี่ยวตั้งคำถามกับคนที่ไม่รู้ว่าจะยอมตื่นมาตอบเขาหรือเปล่า เพราะทุกครั้งที่ไอ้เพื่อนตัวดีไปที่ไนท์คลับมา สภาพมันก็จะจบลงที่มานอนฟุบหลับในคาบเรียน ให้อาจารย์ประจำวิชาไล่ออกไปยืนหลับต่อนอกห้องทุกที แต่ถึงอย่างนั้นไอ้หมอนี่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลย
“เติมเกมให้กูก่อน” เสียงห้าวแว่วตอบอู้อี้ ทำเอาบาสหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ฮ่า ๆ ไอ้คุณรันมีค่าถามด้วยวุ้ย เอาจริงดิ! นี่มึงยังเล่นเกมนั้นอยู่เหรอวะ ถึงว่าช่วงนี้ไม่เข้าตี้กับพวกกู ระวังแรงก์ตกนะมึง” บาสว่า แล้วเดินมานั่งลงข้าง ๆ เดี่ยว
ติ๊ง!
คนถูกถามยังไม่ทันตอบโต้อะไร เสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้น หลังอ่านข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ เขาผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีก่อนจะเดินตัวปลิวออกไปนอกห้อง ทำเอาเพื่อนรักทั้งสองได้แต่มองหน้ากันงง ๆ
“อะไรของมัน จะเริ่มคาบแล้วนะมึง ไอ้รันมึงจะไปไหนอีกวะ!” บาสส่งเสียงไล่หลัง แต่สภาพนี้น่ากลัวว่าไอ้เพื่อนตัวดีคงจะไม่กลับเข้ามาในคาบนี้แล้ว