บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

ม่านทองชะงักเท้ากึก เมื่อด้านหน้ามีผู้ชายวัยรุ่นสามคนยืนเรียงหน้ากระดานขวางอยู่ หญิงสาวกอดหนังสือสองเล่มแนบอก พลางค่อยๆ ก้าวถอยหลังด้วยความขลาดกลัว

“จะไปไหนล่ะน้องสาว”

“อย่า... อย่าเข้ามานะ”

ดวงหน้างามซีดเผือด เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มหน้าผากและอุ้งมือทั้งสองข้าง

“ฉัน... ฉันบอกว่าอย่าเข้ามายังไงล่ะ ไม่... ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนช่วย”

แทนที่พวกมันจะกลัว ตรงกันข้ามเพราะพวกมันดันหัวเราะร่วนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

“ร้องไปสิครับคนสวย แต่กว่าจะมีคนมาช่วย คนสวยก็มีผัวแล้วสามคนล่ะครับ”

“ไอ้พวกคนหยาบคาย อย่าเข้ามานะ”

เมื่อสถานการณ์ตรงหน้าแย่หนักมากเข้าขั้นเลวร้าย ม่านทองที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาก็หมุนตัวกลับหลังจะวิ่งหนี แต่ก็ทำได้แค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น นรกก็ฉุดกระชากข้อเท้าให้พลิกหกล้มลงกับพื้นถนนอย่างเหี้ยมโหด

“โอ๊ย...”

พวกมันที่ย่างสามขุมเข้ามาหาหัวเราะชอบใจ

“บอกแล้วว่าหนีไม่รอด มาเป็นเมียพวกพี่ซะเถอะ”

“อย่านะ อย่าทำอะไรฉันนะ”

แม้จะหกล้มคลุกคลานอยู่กับพื้นแต่ม่านทองก็ยังคงถดถอยหนีอย่างสุดความสามารถ หยาดน้ำตาคลอเบ้าด้วยความหวาดกลัว

“พี่สไบจะต้องเล่นงานพวกนาย ถ้านายแตะต้องฉัน”

“นังสไบมันจะช่วยอะไรได้”

พอพูดถึงชื่อสไบนางไอ้สามคนนี้ก็คำรามลั่นด้วยความโกรธแค้น

“ก็เพราะมันไม่ใช่เหรอพวกกูถึงต้องไม่มีที่ซุกหัวนอนแบบนี้”

ม่านทองที่ไม่เคยลงมาคลุกคลีกับไร่ส้มเลยเพราะตัวเองเรียนพยาบาลหนักมากเลิกคิ้วด้วยความแคลงใจ

“พี่สไบไปทำอะไรพวกนาย”

“นังสไบมันไล่พวกกูออกจากไร่น่ะสิ แค่เสพยาบ้า แม่งต้องไล่ออกเลยหรือไง”

ไอ้หนึ่งในสามคนบ่นอย่างหงุดหงิด พลางจ้องเขม็งมาที่หล่อน

“วันนี้กูจะเลื่อนขั้นจากอดีตคนงานในไร่รุจิเรขเป็นผัวของน้องสาวมัน ดูสิว่านังสไบมันจะทำยังไง”

“อย่า... อย่านะ อย่า...”

ม่านทองคลานหนีแต่ไม่พ้น ข้อเท้าถูกมันกระชากเข้าไปที่ข้างทาง พวกมันทั้งสามคนแห่รุมกันเข้ามาหา ไม่ว่าจะดิ้นรนยังไงก็หนีไม่รอด

“อย่า... อย่าทำฉันเลย...”

“เดี๋ยวจะไม่ร้องแบบนี้คนสวย”

เสียงหัวเราะของพวกมันดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างความสยดสยองให้กับม่านทองยิ่งนัก แต่ก่อนที่พวกมันจะเอามือหยาบช้ามาฉีกทึ้งชุดนักศึกษาของหล่อนออกไปจากร่าง ฝ่าเท้าของใครหลายคนก็ถล่มยับลงมาหาพวกมัน

“พี่สไบ...”

ม่านทองเสียขวัญหนักมาก สไบนางรีบคว้าร่างของน้องสาวไปกอดแนบอกปลอบประโลม ในขณะที่ปล่อยให้ลูกสมุนของตัวเองประเคนฝ่าเท้าใส่ไอ้สามนรกส่งมาเกิดนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“เอามันให้ตายคาตีนไปเลยนะพวกเอ็ง เดี๋ยวข้ามาให้รางวัล”

สไบนางตะเบ็งเสียงสั่นลูกสมุน และแน่นอนว่าเสียงต่อมาก็คือเสียงครวญครางของไอ้สามนรกนั่นที่ดังกระหึ่ม

“ม่าน... ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นอะไรแล้ว”

“พี่สไบ... ม่านกลัว... กลัว...”

“ไม่ต้องกลัว พี่อยู่นี่แล้ว จะไม่มีใครกล้ามาทำร้ายน้องสาวของพี่ได้อีก”

เสียงสะอึกสะอื้นของน้องสาวยิ่งทำให้สไบนางรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น นี่ถ้าหล่อนไม่มัวแต่ไปสนอกสนใจหาข่าวสารอยู่กับไร่ของเสี่ยอ้วน หล่อนก็คงไม่ออกมารับม่านทองช้า และแน่นอนว่าม่านทองก็ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ หล่อนผิดทุกอย่าง

“พี่สไบ...”

“กลับบ้านกันนะ ไม่มีอะไรแล้ว...”

ร่างอ่อนแรงของม่านทองถูกประคองให้ลุกขึ้นจากพื้นถนน ก่อนที่สไบนางจะถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้กับน้องสาวสวมทับเสื้อนักศึกษาที่เปรอะมอมแมม ในขณะที่ตัวเองเหลือเพียงแค่เสื้อยืดสีขาวแขนสั้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น

“ไอ้ส้มจุก ลากมันสามคนกลับไปที่ไร่ ข้าจะลงมาจัดการกับพวกมันอีกรอบ”

“อย่าเลยพี่สไบ... ปล่อยพวกมันไปเถอะ”

ม่านทองวิงวอนทั้งน้ำตา

“ม่านไม่อยากให้มีเวรต่อกันอีกนะพี่สไบ”

“ไม่ได้หรอกม่าน ถ้าปล่อยไป พวกมันก็จะกลับมาดักทำร้ายม่านหรือไม่ก็คนในครอบครัวเราอีก พี่จะเอาพวกมันเข้าคุก”

“อย่า... อย่าเอาพวกเราเข้าคุกเลย ปล่อยพวกเราไปเถอะ”

พวกมันได้ยินว่าจะส่งเข้าคุกก็ประสานเสียงกันวิงวอน แต่สไบนางใจแข็ง

“หุบปากไปเลยไอ้พวกนรก พวกมึงทำผิดยังจะมีหน้ามาร้องขอทางเลือกอีกเหรอ ไม่มีทาง พวกแกได้เข้าคุกแน่”

“พี่สไบ... ถือว่าม่านขอร้องล่ะ ปล่อยคนพวกนี้ไปเถอะ ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน”

ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของน้องสาวทำให้สไบนางถึงกับต้องกระแทกลมหายใจออกมา

นี่ถ้าไม่รู้สึกผิดกับม่านทองล่ะก็ หล่อนไม่มีทางยอมให้เรื่องจบแบบตีงูหลังหักแบบนี้แน่

“ม่าน”

“นะพี่สไบ ถือว่าม่านขอร้อง”

สไบนางไม่เต็มใจเลยแต่ก็จำเป็นต้องทำ

“ก็ได้ นี่เห็นแก่ม่านหรอกน่ะ”

หญิงสาวผู้เป็นพี่พูดออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะหันไปสั่งลูกสมุนของตัวเอง

“ไอ้ส้มจุกลากพวกมันไปปล่อยนอกเขตไร่รุจิเรข แล้วอย่าให้เข้ามาอีก”

“ครับลูกพี่”

ส้มจุกกับเพื่อนอีกสองคนรีบจัดการตามที่ลูกพี่อย่างสไบนางสั่งทันที

สไบนางมองไปจนลับตาก่อนจะหันมาพูดประชดน้องสาว

“พอใจแล้วนะแม่คนใจดี จะถูกมันข่มขืนอยู่แล้วยังจะไปเมตตามันอีก”

“ม่านก็แค่อยากให้คนพวกนั้นเลิกแค้นพี่สาวของม่าน...”

สไบนางมองหน้าน้องสาวแล้วอมยิ้ม พร้อมกับยกมือขึ้นยีเส้นผมของม่านทองอย่างเอ็นดู

“จ้า แม่คนดีศรีแผ่นดิน”

ม่านทองหัวเราะขบขันลืมความหวาดกลัวไปทีละน้อย ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่สไบนางต้องการเป็นที่สุด หล่อนไม่อยากให้น้องสาวฝันร้ายในค่ำคืนนี้

“กลับบ้านกันเถอะ แม่รออยู่”

“ค่ะพี่สไบ”

สองสาวที่วัยห่างกันแค่เพียงหนึ่งปีเดินกอดคอกันตรงไปยังรถกระบะสี่ประตูที่จอดอยู่ห่างออกไปเกือบสามร้อยเมตร พร้อมทิ้งความหวาดกลัวเอาไว้เบื้องหลังทั้งหมด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel