บท
ตั้งค่า

[5/1]

##### [5/1]

9 เดือนต่อมา

“อุแงงๆ .... แอ๊ะๆ ~~”

“โอ๋ๆ หนูไม่ร้องนะคะ ชู่วๆๆ ~~”

หลายเดือนผ่านไปจนถึงตอนนี้เด็กทารกตัวน้อยได้ลืมตามาดูโลกแล้ว 3 เดือนกว่า โดยมีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมือใหม่คอยดูแลอยู่เสมอมา

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านถึงแม้กิจการร้านกาแฟของเธอจะไปได้ด้วยดี ทว่าพอถึงจุดอิ่มตัวจุดหนึ่งรายได้มันกลับไม่เหมือนเดิม หนำซ้ำยังต้องเจียดเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้อีก

‘ใยไหม’ เด็กน้อย 3 เดือน ที่เพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่นาน หนำซ้ำยังต้องคลอดก่อนกำหนดอีก ทำให้สุขภาพของเด็กหญิงตัวน้อยของเราไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก

วันนี้เป็นวันที่ใยบัวต้องยอมปิดร้าน 1 วัน เพื่อที่จะได้พาลูกมาหาหมอเพราะไม่สบาย

“แง๊~~~~”

“ไม่ร้องนะคะคนดี โอ๋ๆๆ ....ให้คุณอาหมอตรวจก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวคุณแม่นั่งรอข้างนอกก่อนนะคะ”

ใยไหมเกิดก่อนกำหนดคลอด 1 เดือน ซึ่งตอนตั้งครรภ์ใยบัวก็พอทราบจากคุณหมอแล้วว่า ความเสี่ยงและความผิดปกติของลูกเธอนั้นมีมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากโรคทางพันธุกรรม

พอมานั่งคิดไตร่ตรองดูดีๆ แล้วทางครอบครัวของเธอเองก็ไม่มีใครมีโรคประจำตัวด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าทำไมลูกของเธอถึงได้เป็นแบบนี้

ทั้งๆ ที่เธอเองก็บำรุงและดูแลครรภ์มาอย่างดีตลอด ทำไมโชคร้ายถึงได้มาตกอยู่กับนางฟ้าตัวน้อยของเธอเช่นนี้

คนเป็นแม่อย่างเธอต้องทุกข์ใจอยู่ไม่น้อยที่ทำให้ลูกเกิดมาไม่แข็งแรงแบบนี้

“คุณแม่คะ คุณหมอวิเชษฎ์เชิญคุณแม่เข้าไปฟังผลของน้องด้านในค่ะ”

“อ่อ ค่ะๆ” ใยบัวเดินเข้าไปด้านในห้องตรวจของคุณหมอเจ้าของไข้ของใยไหม

ตั้งแต่ตอนคลอดคุณหมอวิเชษฎ์ได้ตรวจและประเมินอาการของเด็กหญิงตัวน้อยว่ามีภาวะ RDS เป็นภาวะที่ปอดผิดปกติหรือปอดไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เกิด จึงทำให้ใยไหมมีอาการหายใจลำบากหอบเหนื่อยง่าย

“สวัสดีครับคุณบัว”

“สวัสดีค่ะคุณหมอ ตกลงว่าอาการแกเป็นยังไงบ้างคะ?”

“ตอนนี้ดูเหมือนอาการของหนูใยไหมจะเริ่มหนักขึ้นมากกว่าเดิมอีกนะครับคุณบัว ผมเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานอาจจะน่าเป็นห่วงหนักขึ้นไปอีก”

ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณหมอต้องรักษาอาการเบื้องต้นไปก่อน โดยการให้ออกซิเจนแบบธรรมดาไปก่อน

เพราะยังอยู่ในภาวะเบื้องต้นเท่านั้น ทว่าในตอนนี้ผลตรวจออกมาล่าสุดกลับพบว่าอาการของเด็กหญิงตัวน้อยเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น

“แล้วแบบนี้เราควรจะแก้ไขยังไงดีคะ ช่วยลูกบัวด้วยนะคะคุณหมอ” ใยบัวสงสารลูกสาวตัวน้อยที่ต้องทนหายใจลำบากมาโดยตลอด

“ตอนนี้ถ้าหมอจะให้ออกซิเจนน้องอย่างเดียวคงจะไม่ไหวแล้วครับ อาจจะมีการใช้เครื่องช่วยหายใจ อาจจะใส่ท่อช่วยหายใจไปเลย หรืออาจจะต้องถึงขั้นผ่าตัดเลยครับ

ผลเอกซเรย์ล่าสุดเท่าที่หมอดูนะครับ ฝ้าขาวที่พบในปอดมันมากขึ้นกว่าเดิมนะครับคุณบัว อยากจะให้คุณเตรียมตัวเตรียมใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยนะครับ”

พ่อของเด็กจะรับรู้บ้างหรือไม่ว่าลูกสาวของเขาในตอนนี้ทรมานมากขนาดไหน

การเลี้ยงลูกคนเดียวมันเหนื่อยมากสำหรับเธอและทุกข์ใจมาตลอดที่ไม่สามารถทำให้ลูกแข็งแรงเหมือนเด็กทั่วไปได้

“ขอแค่คุณหมอช่วยให้แกหายเป็นปกติ เรื่องเงินบัวจะพยายามหามาให้เต็มที่ค่ะ”

ถ้าเธอทำอะไรเพื่อลูกได้ไหนตอนนี้เธอเองก็จะทำ ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายมันจะหนักสักแค่ไหนเธอก็พร้อมจะดิ้นรน

“หมอจะทำให้เต็มที่ที่สุดครับ คุณอย่าเป็นกังวลเลย”

“บัวขอบคุณหมอมากนะคะ”

“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะให้น้องแอดมิดเลยนะครับ ยังไงเย็นนี้ผมต้องปรึกษาทีมผ่าตัดก่อนตัดสินใจว่าจะวางแผนยังไงกับเคสนี้ดี คุณโอเคนะครับ?”

“บัวแล้วแต่หมอเลยค่ะ”

“โอเคครับ”

คุณหมอวิเชษฎ์เป็นหมอเด็กของที่นี่ และเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง

ใยบัวเองก็ฝากฝังความหวังมากมายไว้กับเขา เพราะอาการของเด็กหญิงใยไหมในตอนนี้อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยเลย

หลังจากที่ได้คุยปรึกษากับคุณหมอแล้ววันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็คงจะไม่ได้กลับบ้าน เพราะต้องเตรียมทำการรักษาขั้นต่อไปตามที่คุณหมอวางแผน ซึ่งใยบัวได้เซ็นยินยอมและตกลงไปแล้ว

ค่าใช้จ่ายของการรักษามันมากมายเหลือเกิน จนเธอมานั่งดูเงินเก็บของตัวเองในตอนนี้มันยังไม่พอต่อการรักษาเลยด้วยซ้ำ

คุณแม่มือใหม่นั่งกุมขมับอยู่ข้างๆ เตียงลูกสาวตัวเล็กในห้องพักของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

เธอกำลังหาทางออกว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะหาเงินอีกจำนวนหนึ่งมาเพื่อรักษาใยไหม หากจะโทรไปขอความช่วยเหลือทางบ้านในตอนนี้ก็คงจะไม่ได้

หากต้องบากหน้าไปยืมปรเมทก่อนก็ไม่ได้อีก เพราะเขาเองก็เพิ่งจะควักเงินเยียวยาพนักงานที่บริษัททัวร์ไปไม่น้อยกับวิกฤติโรคระบาดในตอนนี้

ร่างบางนั่งเขี่ยโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อยระหว่างที่นั่งเฝ้าเจ้าตัวน้อย ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ก่อนจะไปสะดุดตากับรูปเพื่อนสนิทอย่างปิ่นหยกที่ขึ้นหน้าฟีดใหม่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

รอยยิ้มในรูปของเพื่อนสาวดูมีความสุข พร้อมกับโพสต์เช็คอินที่เที่ยวในอิตาลี่ ป่านนี้เพื่อนของเธอคงจะมีความสุขกับหมอกันต์ไปแล้ว

“ใยไหม ...ถ้าลูกโตขึ้น ลูกจะถามหาพ่อของลูกไหมคะ?”

ใบหน้าเศร้าของคนเป็นแม่หันไปมองเด็กหญิงตัวน้อย พร้อมกับนัยน์ตาที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส

“แม่ขอโทษนะ ที่ทำให้หนูต้องเป็นแบบนี้ ฮึกก!! ฮืออ~~ …แม่ขอโทษ”

จากนั้นความคิดบางอย่างกำลังจุดประกายในหัวของใยบัว ถ้าหากเธอบากหน้าขอเพิ่งเพื่อนสนิทอย่างปิ่นหยกในตอนนี้จะได้หรือไม่

อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ขอแค่ให้ใยไหมหายดีก่อน แม้จะไม่อยากทำแบบนี้เลยก็ตาม

ติ๊ด!

(สวัสดีค่ะ?)

“ฮัลโหลหยก นี่ฉันใยบัวนะ.....”

ใยบัวตัดสินใจต่อสายไปยังเพื่อนสนิท เพราะไม่มีทางไปแล้วจริงๆ หวังว่าปิ่นหยกจะสามารถช่วยได้ อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อนสนิท

(ใยบัว!!? ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน!? ...แกหายไปอยู่ที่ไหน ห้ะ? รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแกแค่ไหน อยู่ดีๆ ก็หายไปเลย ติดต่อก็ไม่ได้)

“คือ.... ตอนนี้ฉันมาทำงานที่ภูเก็ตกับคนรู้จักน่ะ แกไม่ต้องห่วงนะ ฉันโทรบอกแม่ฉันแล้ว”

(จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง เล่นหายไปแบบไม่บอกใครตั้งเป็นปีน่ะ แล้วนี่แกเป็นยังไงบ้างสบายดีไหม? ไปอยู่ที่นั่นแกทำงานอะไร?)

ที่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนก็ไม่แปลก เพราะเธอแม้แต่แม่ของเธอเองยังไม่รู้ที่อยู่เลย รู้แค่เพียงว่ามาทำงานที่ภูเก็ตเท่านั้นเอง

“ฉันสบายดีแก ..... แอร๋~~ แอ๊ะๆๆๆ .... โอ๋ๆๆ ลูกไม่ร้องนะคะไม่ร้องค่ะ”

หนูอย่าเพิ่งร้องตอนนี้นะลูก

(นั่นเสียงเด็กที่ไหนร้องน่ะ แกเลี้ยงเด็กหรอ?)

จู่ๆ ใยไหมก็งัวเงียตื่นขึ้นมาและร้องไห้ จนผู้เป็นแม่ต้องรีบเข้ามาปลอบที่เตียงหวังจะให้ลูกหยุด และเกิดความสงสัยให้อีกฝ่ายจนได้

“อ่ะ เอ่ออ! ใช่ๆๆ ฉันเลี้ยงเด็ก ฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็กน่ะแก คือที่ฉันจะโทรมาหาแกวันนี้คือว่าฉัน

...อยากจะขอยืมเงินแกก่อนได้ไหม? คือช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเงินจริงๆ อ่ะแก ฉันไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้วตอนนี้”

ตอนนี้หมดสิ้นยางอายแล้ว ขอแค่เธอได้เงินมารักษาลูกในตอนนี้ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง อย่างน้อยเธอก็คิดว่าปิ่นหยกยังเป็นเพื่อนแท้สำหรับเธออยู่

(ได้สิ ขอแค่แกบอกมา ฉันยินดีจะช่วยแกเสมอบัว)

“แล้ว.... แกยังอยู่กับหมอกันต์ไหม?”

ร่างบางอดไม่ได้ที่จะถามหาใครอีกคน ถ้าหากเขาอยู่กับปิ่นหยกในตอนนี้เกรงว่าสิ่งที่เธอคุยกันกับเพื่อน อาจจะถึงหูเขาได้และเธอก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย

(พี่หมอก็นั่งอยู่ตรงนี้กับฉันเลย แกมีอะไรหรือเปล่า?)

“เอ่อ มะ! ไม่มีๆ งั้นเดี๋ยวฉันส่งเลขบัญชีให้แกเลยนะ แค่นี้ก่อนนะหยก ขอบคุณแกมากๆ เลยนะ ฉันสัญญาว่าฉันจะรีบหามาคืนแกให้เร็วที่สุดเลย”

ติ๊ด!

เมื่อฟังเพื่อนบอกแบบนั้น มือเรียวจึงรีบกดวางสายเลย ยังไม่ทันที่จะได้ขอร้องให้ปิ่นหยกเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเลยด้วยซ้ำ

ทว่าความกลับแตกก่อน และหมอกันต์ก็อาจจะรับรู้เรื่องที่เธอโทรมาหาภรรยาของเขาแล้ว

เธอพลาดไปที่ลืมคิดว่าสองคนนั้นอาจจะอยู่ด้วยกันในตอนนี้ และมันอาจจะนำมาซึ่งความวุ่นวายได้ในอนาคต ...เธอพลาดไปจริงๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel