ตอนที่1 เจ้าสาวแสนชัง 1/2
ตอนที่1 เจ้าสาวแสนชัง 1/2
“ไปรับน้องสิตาสามภพ”เสียงชายชราอย่างท่านเวหาเอ่ยบอกหลานชาย ทำให้สามภพที่นั่งอยู่ถึงกับพ่นลมหายใจออกมา แต่เขาก็จำใจลุกขึ้นไปประคองหญิงสาว แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของชายหนุ่มก็ไม่ได้เผยความสุขออกมาเลยสักนิด
พิธีการหมั้นในตอนเช้าผ่านไปอย่างเฉื่อยชา คนอื่นอาจจะดูมีความสุข ยกเว้นสองบ่าวสาวคู่นี้ที่แทบไม่ได้ยิ้มแย้มอะไรมากเลยสักนิด กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก็ทำเอารสาถึงกับถอนหายใจออกมา แต่ทว่าสิ่งที่เธอคิดว่ามันจบลงแล้วแต่ที่จริงมันยังไม่จบลงต่างหาก พอท่านเวหาเชิญเจ้าหน้าที่อำเภอเข้ามาในงาน มันก็ทำให้หญิงสาวหันหน้าไปมองบิดาทันที เธอไม่คิดว่าจะมีการจดทะเบียนสมรสด้วย นึกว่าการแต่งงานในครั้งนี้ก็แค่แต่งงานธรรมดาเพียงเท่านั้น
“อย่าทำหน้าแบบนั้น ยิ้มซะยัยรสา” ถึงแม้บิดาเธอจะไม่ได้พูดเสียงดังอะไรออกมามากมายนัก แต่มันก็ทำให้เธอได้ยินอยู่ดี
ชายหนุ่มเองก็รู้สึกหงุดหงิดไม่ต่างกัน แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามที่ปู่ของเขาสั่งเพียงเท่านั้น คนตัวสูงนั่งลงตรงหน้าเจ้าหน้าที่อำเภอที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่งที่เขาไม่ได้เต็มใจให้เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ เขามองแผ่นกระดาษด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ถ้าหากการแต่งงานในวันนี้มันเป็นงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงอีกคนนึงมันก็คงจะดีไม่น้อย แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผู้หญิงที่เขารัก จู่ ๆ ก็ทิ้งเขาไปเมื่อได้รู้ว่าเขาต้องแต่งงานตามคำสั่งของผู้เป็นปู่ ชายหนุ่มยังไม่ได้อธิบายอะไรเลยทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว มันจึงทำให้เขาเกลียดชังในตัวผู้หญิงข้างกายมากขึ้นกว่าเดิม
“จดสิตาสามภพ”ท่านเวหาบอกหลานชายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังเอาแต่นั่งนิ่งจนทำให้แขกที่มาร่วมงาน ที่สังเกตอยู่ต่างพากันสงสัยขึ้นมา
“ครับ” สามภพตอบรับคำ ก่อนที่เขาจะเซ็นชื่อของตัวเองลงไปอย่างจำใจ ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ดื้อด้านจะแต่งงานเพราะ อยากเป็นเมียเขามาก เขาก็จะทำให้เธอรู้ว่าการที่เธอต้องมาเป็นเมียเขามันต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน ให้เธอมีความสุขแค่วันนี้แค่วันเดียวเท่านั้นแหละ หลังจากนี้ชีวิตของเธอจะต้องอยู่ในขุมนรกที่เขาเตรียมไว้ให้
“ถึงตาหนูแล้วจ้ะหนูรสา” หญิงสาวยิ้มเจื่อนก่อนจะเซ็นชื่อของตัวเองลงไปด้วยแววตาสั่นไหวกับความรู้สึกที่หนักอึ้งขึ้นมา
ในขณะที่สามภพเซ็นชื่อบนเอกสารการสมรส หัวใจของเขากลับเต็มไปด้วยความขมขื่นและความโกรธ เขารู้สึกถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ขัดกับความต้องการของตัวเอง การแต่งงานที่ควรจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขและเต็มไปด้วยความรัก กลับกลายเป็นการกระทำที่เจือด้วยความเกลียดชังและความเสียใจ โดยเฉพาะเมื่อคนที่เขารักได้จากเขาไปเพราะเรื่องนี้
รสาที่นั่งอยู่ตรงข้าม ไม่อาจซ่อนความหวั่นไหวในดวงตาได้ เธอรู้สึกเหมือนถูกผลักเข้าสู่สถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือก แม้จะพยายามฝืนยิ้มและแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง แต่ภายในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน
เมื่อเธอเซ็นชื่อของตัวเองลงบนแผ่นกระดาษ ใจของเธอก็หนักหน่วงขึ้น ความรู้สึกที่ว่าชีวิตของเธอไม่ใช่ของเธออีกต่อไป ครอบงำความคิดของเธอ น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ได้ปริ่มที่ขอบตา แต่เธอก็ฝืนยิ้มออกมาเพื่อรักษาหน้าตาและศักดิ์ศรีของตัวเองเอาไว้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
ขณะที่บรรยากาศในห้องเงียบสงัด เสียงของการเซ็นเอกสารกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจย้อนคืน ทั้งสามภพและรสาต่างต้องรับมือกับการแต่งงานที่เต็มไปด้วยความขมขื่นและความไม่เต็มใจ นับจากวินาทีนี้ ชีวิตคู่ของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นบนพื้นฐานของความเกลียดชังและความบีบคั้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความเจ็บปวดในอนาคต
งานแต่งงานในวันนี้จัดเพียงแค่ช่วงเช้าช่วงเดียว ไม่ได้มีพิธีตอนเย็น ไม่ได้มีงานปาร์ตี้อะไร เพราะจุดประสงค์ของการแต่งงานก็คือธุรกิจนั่นเอง บิดาของเธอมาร้องขอให้ท่านเวหาช่วยเหลือครอบครัวของเขา เพราะธุรกิจกำลังล้มไม่เป็นท่า ที่บ้านก็ติดหนี้ติดสิน ก็ไม่รู้ว่าพูดยังไงจึงทำให้ท่านเวหาตัดสินใจช่วยเหลือ แต่ต้องแลกกับการที่ลูกสาวคนใดคนหนึ่งต้องมาแต่งงานกับหลานชายของตนและมีทายาทให้กับเขานั่นเอง
ท่านเวหาไม่ต้องการให้สามภพหลานชายเพียงคนเดียวของเขาคบหากับผู้หญิงคนนั้น เพราะเขารู้ดีว่าเธอไม่ได้รักหลานชายของเขาจริง ทุกสิ่งทุกอย่างก็แค่เพราะเงินเท่านั้น แถมเขายังรู้อีกว่าผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีก ซึ่งเขารับไม่ได้และไม่ต้องการให้หลานชายของเขากลายเป็นไอ้โง่ที่ถูกหลอก ถึงแม้ว่าการที่เขาบังคับให้หลานชายมาแต่งงาน มันจะดูเห็นแก่ตัวก็เถอะ แต่เขายอมถูกมองไม่ดีที่บีบบังคับความรู้สึกของหลานชายเขาอย่างนี้
สามภพพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยินดีด้วยนะ เธอได้สิ่งที่ต้องการแล้ว หวังว่าเธอจะมีความสุขกับการเป็นเมียของฉัน…ในแบบที่ฉันต้องการ”
รสามองตาเขาด้วยความเจ็บปวดแต่พยายามเก็บอารมณ์
“ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณ ฉันทำตามที่คุณพ่อสั่งก็เท่านั้น”
“อย่าแกล้งทำเป็นผู้บริสุทธิ์หน่อยเลย ฉันรู้ดีว่าเธอทำทุกอย่างเพื่อเงินและสถานะ ไม่ใช่เพราะพ่อเธอหรอก”
แม้น้ำเสียงแม้จะสั่นแต่พยายามยืนหยัด “ถ้าคุณคิดแบบนั้น ฉันคงเปลี่ยนความคิดคุณไม่ได้ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าฉันไม่ได้อยากอยู่ในสถานการณ์นี้เช่นกัน”
“งั้นก็ดี เพราะต่อจากนี้ไป ฉันจะทำให้เธอรู้สึกแบบเดียวกับที่ฉันรู้สึก การแต่งงานครั้งนี้มันไม่ใช่แค่ความทรมานของฉันคนเดียว”
เธอฝืนยิ้มออกมาแม้จะเจ็บปวด “ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ ฉันก็จะทน…เพื่อคนที่ฉันรัก”
“คนที่เธอรัก? หรือหมายถึงเงินที่เธอจะได้มากกว่า อย่าลืมว่าฉันไม่ใช่คนที่จะยอมให้เธอได้ทุกอย่างง่าย ๆ”
“ฉันหมายถึงครอบครัวฉัน…ไม่ว่าจะอย่างไร ฉันก็จะทำทุกอย่างเพื่อพวกเขา” ถ้าไม่ใช่เพราะคำตัดขาดพ่อลูก บุญคุณที่ส่งเสียงเลี้ยงดูมา รสาคิดว่าตนเองคงไม่มีความจำเป็นต้องมายืนฝืนทนให้สามภพพูดจาค่อนแคะใส่แบบนี้
“งั้นก็เตรียมตัวให้ดีล่ะรสา ชีวิตหลังจากนี้มันจะไม่ง่ายสำหรับเธอแน่” เมื่อเธอเตรียมใจมาก็ดีแล้ว