บทย่อ
ในระหว่างทางไปหย่า หลินหมิงพบว่าตัวเองใช้ชีวิตได้เชี่ยมาก! เขาไม่มีความสามารถพอที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาในการหย่าได้ แต่เขาดันได้รับพลังพิเศษในการคาดการณ์อนาคตได้! ราคาของขึ้น การเปลี่ยนแปลงทำเลที่ดินตึกรามบ้านเรือนการขึ้นลงของเทรดหุ้น แนวโน้มระหว่างประเทศ......ต่างอยู่ในกำมือเขาได้ทั้งนั้น!หลายปีต่อมา มีนักข่าวสัมภาษณ์หลินหมิง:”ตอนนี้คุณรวยถึงระดับประเทศ อยากทำอะไรที่สุด?” หลินหมิงยิ้ม:”ผมแค่อยากดีกับภรรยาและลูกให้มากกว่านี้......และมากกว่าเดิม”
บทที่ 1
“นี่ นี่ฉันจะไป......หย่าที่สำนักงานกิจการพลเรือนเหรอ”
“ฉันเคยหย่าแล้วครั้งหนึ่งไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่สิ!”
“นั่นไม่ใช่เรื่องจริง นั่นคือเหตุการณ์ในอนาคต ฉันยังไม่ได้หย่า นี่ฉันอยู่ในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต!”
“ฉัน......”
“นี่ฉันทำนายอนาคตได้เหรอ!”
…...
เมืองหลันเต่า
บนรถแท็กซี่คันหนึ่ง
หญิงชายคู่หนึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
ผู้ชายนั่งก้มหน้าไม่พูดอะไร
ผู้หญิงหน้าตาสะสวย แต่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย
เธอมองไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาว่างเปล่า ภาพสมัยมหาวิทยาลัยผุดขึ้นมาในหัว ภาพที่ชายคนนี้เอาแต่ตามจีบตัวเอง รวมถึงคำสัญญามากมายที่เขาเคยให้ไว้
สุดท้ายความทรงจำเหล่านี้แตกสลายไม่มีชิ้นดี กลายเป็นรอยยิ้มสิ้นหวังและเย้ยหยันตรงมุมปากเธอ
เมื่อวานหลินหมิงทะเลาะกับคนในครอบครัวตัวเอง แถมยังชกต่อยกับน้องชายตัวเองด้วย
จริงๆ เฉินเจียเห็นเรื่องแบบนี้จนชินไปนานแล้ว แต่การทะเลาะวิวาทเมื่อวาน ทำให้ความหวังสุดท้ายของเธอขาดสะบั้น
เพราะตอนที่หลินหมิงทะเลาะกับเฉินเซิงน้องชายตัวเอง เฉินเซิงเผลอผลักเขาไปชนโต๊ะ ท้ายทอยกระแทกโต๊ะจนสลบ เพิ่งฟื้นมาเมื่อสองชั่วโมงก่อน
เฉินเจียกลัวมาก!
กลัวว่าเป็นอย่างนี้ต่อไปอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต!
ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจหย่า
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ระหว่างทางไปสำนักงานกิจการพลเรือน
วิวรอบๆ ยังเหมือนตอนที่มาจดทะเบียนสมรสเมื่อสองสามปีก่อน เส้นทางก็ยังเป็นถนนที่คุ้นเคยเส้นนี้
แต่ตอนนี้พวกเขาจะไปเซ็นใบหย่า
สะเทือนใจเหลือเกิน!!!
......
หลินหมิงเงยหน้ามองหญิงสาวสีหน้าเศร้าสร้อยที่อยู่ข้างๆ
รอยช้ำและรอยแผลบนตัวเธอทำให้หลินหมิงใจกระตุก
“เพียะ!”
จู่ๆ หลินหมิงยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง
เลวจริงๆ ตัวเองช่างเลวเหลือเกิน! ไอ้เวรเอ๊ย!
ระยะเวลาสองสามปีที่ผ่านมา ภรรยาที่รักตัวเองสุดหัวใจ ผู้หญิงหน้าตาสะสวยและมีจิตใจงดงามขนาดนี้โดนตัวเองใช้ความรุนแรงใส่นับครั้งไม่ถ้วน!
สมควรตายจริงๆ!!!
คุณลุงคนขับตกใจที่หลินหมิงตบหน้าตัวเอง
เฉินเจียหลุดจากภวังค์เช่นกัน
ทว่าเธอมองหลินหมิงด้วยสายตาเฉยเมย แล้วหันไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง
กี่ครั้งกี่หนแล้ว?
ขอให้ตัวเองให้อภัยด้วยวิธีน่าขำแบบนี้ เธอเจอมาจนชินแล้ว!
“ไอ้หนุ่ม......”
คุณลุงคนขับอดทนอยู่นาน จากนั้นพูดออกมาว่า “จริงๆ เรื่องหยุมหยิมในครอบครัวเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เธอแต่งงานเพราะอยากมีความสุขกับเรา ลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างเราล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามใช้กำลังกับผู้หญิง นายว่าจริงไหม”
คุณลุงคนขับเคยผ่านมาแล้ว ตั้งแต่หลินหมิงกับเฉินเจียบอกจุดหมายปลายทาง เขาก็พอเดาได้แล้ว
หารู้ไม่ว่าประโยคของเขาเกือบทำให้หลินหมิงขาดใจตาย
ใช่......
ตอนนั้นเฉินเจียปฏิเสธคนมากมายที่ตามจีบเธอแล้วตกลงแต่งงานกับตัวเอง ประกายนัยน์ตาเธอคือสิ่งที่หลินหมิงไม่มีวันลืมตลอดชีวิต
นั่นคือความคาดหวังในอนาคต นั่นคือความคาดหวังต่อตัวเอง!
ทำไมนะ?
ทำไมตอนนี้ตัวเองถึงกลายเป็นแบบนี้!!!
“ถึงไม่ได้มีเงินทองมากมาย แค่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข เธอคงไม่ตำหนิฉันหรอก แต่ฉันกลับทำกับเธอแบบนั้น......”
หลินหมิงคิดถึงตรงนี้แล้วปวดใจมาก เอาแต่ตบหน้าตัวเองอยู่อย่างนั้น
“พอแล้ว!”
ในที่สุดเฉินเจียก็พูดออกมา “ฉันเห็นละครปาหี่ของนายมานับครั้งไม่ถ้วน แล้วก็ให้อภัยนายนับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมาคือนายที่แย่ลงกว่าเดิม”
ไม่อยากเชื่อเลยว่าเฉินเจียพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่คำพูดที่ออกมาดูโกรธและสิ้นหวังมาก
“เปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่เป็นเรื่องดี อย่างสุภาษิตโบราณที่ว่าคนที่เคยทำผิดแล้วกลับตัวเป็นคนดีมีค่าหายากมากกว่าทองคำ......”
คุณลุงคนขับแอบมองเฉินเจีย
‘ถ้าไม่ได้เจอความเจ็บปวดแบบคนอื่น ก็ไม่ต้องไปคาดเดาแทนคนอื่น’ เขาเข้าใจสัจธรรมนี้เป็นอย่างดี คงช่วยได้เท่านี้
แต่น่าเสียดายที่เหมือนเฉินเจียไม่ได้ยิน
หลังผ่านไปสิบนาที รถแท็กซี่หยุดลง
อาคารสำนักงานกิจการพลเรือนปรากฏในสายตา
หลินหมิงจะจ่ายค่ารถ แต่คลำหาทั้งตัวกลับไม่มีเงินสด เงินในวีแชทก็มีแค่ 1.50 หยวน
เขาเอาทรัพย์สินในบ้านไปเล่นพนันจนหมดแล้ว......
“คุณลุง นี่ค่ารถ”
เฉินเจียจ่ายเงินสิบหยวนแล้วลงจากรถทันที
หลินหมิงจะลงไปเช่นกัน แต่ได้ยินคุณลุงคนขับพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายไปหาผู้หญิงแสนดีคนนี้มาจากไหน นายต้องรักษาไว้ให้ดีนะ อย่าเหมือนฉันเมื่อก่อนที่หลงผิด มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว!”
หลินหมิงลังเลแล้วพูดว่า “คุณลุง แยกหน้าเลี้ยวซ้าย”
“ฮะ? นายไม่ลงเหรอ” คุณลุงงุนงงเล็กน้อย
“ฉันจะลง แต่ลุงต้องเลี้ยวซ้าย อย่าขับตรงไปเด็ดขาด เข้าใจไหม”
เห็นใบหน้าคุณลุงเต็มไปด้วยความสงสัย หลินหมิงพูดต่อ “ไม่ว่าลุงจะเชื่อหรือไม่ หลังจากโดนชนต้องรีบลงจากรถทันที ไม่งั้นลุงโดนไฟคลอกตายแน่”
หลินหมิงพูดจบแล้วลงจากรถแล้วปิดประตูรถ
“ไอ้หมอนี่ ฉันอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี นายถึงกับแช่งฉันเลยเหรอ ทำคุณบูชาโทษจริงๆ ซวยมาก!”
คุณลุงคนขับคิดว่าหลินหมิงไม่พอใจที่ตัวเองพูดแบบนั้น จึงไม่สนใจคำเตือนของหลินหมิง เขาขับตรงไปข้างหน้า
ทางแยกข้างหน้าอยู่ไม่ไกล ประมาณหนึ่งร้อยเมตร ซึ่งเป็นไฟเขียวพอดี
ทว่าตอนรถแท็กซี่ขับผ่านแยก จู่ๆ รถบรรทุกดินพุ่งมาทางด้านขวา!
“เอี๊ยดดด!!!”
เสียงเบรกกะทันหันดังขึ้น
ตามมาด้วยเสียงดังโครม รถแท็กซี่โดนชนกระเด็นไปสิบกว่าเมตรจนเกือบพลิกคว่ำ
โชคดีที่คนขับคาดเข็มขัดนิรภัย อีกทั้งฝั่งที่ชนคือฝั่งข้างคนขับ ทำให้ไม่รุนแรงเท่าไร
ขณะที่สมองกำลังเบลอ จู่ๆ คำพูดก่อนลงรถของหลินหมิงผุดขึ้นมาในหัว
เขาปลดเข็มขัดด้วยความตื่นตระหนกแล้วลงจากรถทันที
หลังจากเขาลงจากรถ จู่ๆ ไฟลุกที่ถังน้ำมันรถ
ท่ามกลางสายตาเหลือเชื่อของคนขับ เกิดเสียงระเบิดดังตูม ไฟลุกโชนไปทั้งรถ
“นี่......”
คนขับกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เขามองไปทางประตูสำนักงานกิจการพลเรือนทันที
ไม่เห็นชายหนุ่มที่ทำให้เขารอดจากเคราะห์ร้ายแล้ว
“เทวดาเหรอ”
สองคำนี้ผุดขึ้นมาในหัวคนขับ
......
สำนักงานกิจการพลเรือน
ที่โถงสำหรับนั่งรอ
“หัวนาย......ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม” เฉินเจียถาม
“อืม ไม่เป็นไรแล้ว” หลินหมิงพูด
นอกจากไม่เป็นไรแล้ว หัวกระแทกครั้งนี้ทำให้หลินหมิงคิดได้ แถมยังมีความสามารถทำนายอนาคตด้วย!
เฉินเจียถอนหายใจเบาๆ “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ฉันจะได้หายห่วง”
ไม่รอให้หลินหมิงพูด เฉินเจียพูดอีกว่า “ฉันลองนับดูคร่าวๆ หนี้ทั้งหมดแปดแสนสองหมื่น เราแบ่งกันคนละครึ่ง แม้นายเป็นคนสร้างหนี้ แต่ยังไงเราก็เป็นสามีภรรยากัน เป็นหนี้ร่วมกัน น้องชายฉันใช้กำลังโดยไม่รู้จักยั้งคิด ฉันขอโทษแทนเขาด้วย”
เฉินเจียหยุดพูดแป๊บหนึ่งแล้วสูดหายใจลึก เหมือนรวบรวมแรงทั้งหมดแล้วจ้องหลินหมิง
“ซวนซวนเพิ่งสี่ขวบ ให้เธออยู่กับฉันแล้วกัน ถือว่าฉันขอร้องก็ได้ โอเคไหม”