EP 2
“คุณคะพึ่งเพิ่งอะไรกันคะ ตาปลายน่ะลูกณีและหลานคุณแม่คุณด้วยนะคะ” พรรณีแหย่สามี
“อ้าว! สองคนมาอยู่นี่เอง แม่ตามหาให้ทั่วเลย” คุณพร้อมผู้เป็นแม่ของกรรชัย ซึ่งก็อยู่ในวัยย่างเข้าห้าสิบปีแล้ว เดินมาสมทบในกลุ่ม
“ณีเห็นคุณแม่กำลังสนุกกับเด็กๆ น่ะค่ะ ก็เลยไม่อยากจะกวนค่ะ” พรรณีอธิบาย
“ดูสิแม่ณียิ่งแม่มาอยู่ใกล้ชิดเด็กๆ พวกนี้ มันยิ่งทำให้แม่คิดถึงยัยขิมมากขึ้นทุกทีนะ” คุณพร้อมพูดพลางสายตาก็เหลือบไปเห็นหนูน้อยนัยน์ตาดำกลมโตซึ่งยืนอยู่ข้างๆ แพรวพรรณ จ้องหน้าด้วยความสงสัยพอๆ กับอาการที่กรรชัยและพรรณีเมื่อไม่นานมานี้เอง
“แล้วเจ้าตัวเล็กนี่ลูกใครที่ไหนจ้ะหนูแพรว หรือว่าเด็กในนี้ ฉันไม่เคยเห็นเลย หรืออาจจะเป็นเพราะไม่ได้มานานแล้วก็ไม่รู้ ดูสิสายตาคนแก่ก็เลอะเลือนไปตามกาลเวลานะ” คุณพร้อมกล่าว
“ไม่หรอกค่ะ คุณท่านยังไม่ได้แก่เลยสักนิดเดียว จริงของคุณท่านค่ะ เมื่อคราวที่มาคราวที่แล้วคุณท่านไม่ได้เจอยัยขิมหรอกค่ะ เพราะเพิ่งจะส่งมาจากปากเกร็ดเมื่อเดือนที่แล้วเองค่ะ ส่วนเป็นลูกใครนั้นทางปากเกร็ดก็ไม่มีข้อมูลค่ะทราบแต่ว่าแม่เป็นนักศึกษาคลอดแล้วก็ทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลแล้วก็ไม่เคยติดต่ออะไรไปอีกเลยค่ะ” แพรวพรรณอธิบาย
“เหรอ แต่ดูหน้าตาเจ้าตัวเล็กนี่ คล้ายๆ กับยัยขิมของฉันมากๆ เลยนะ แกคิดเหมือนฉันมั้ยกรร อ้าว ว่าไงแม่ณี คิดเหมือนแม่มั้ย”
คุณพร้อมถามลูกชายและสะใภ้ “ณีกับคุณกรรก็ตะลึงตั้งแต่แรกเห็นแล้วล่ะค่ะคุณแม่” พรรณีตอบ
“แล้วแกจะว่ายังไงเจ้ากรรถ้าแม่จะขอเจ้าตัวเล็กไปเลี้ยงแทนยัยขิม ว่าไงแม่ณี เพราะไหนๆ เราก็เหลือแค่ลูกชายแล้วนี่ ก็เอาลูกสาวไปไว้อีกสักคนจะเป็นไรไป ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้ว เลี้ยงเอาบุญอีกสักคนก็ดีเหมือนกัน ไม่รู้ว่าหนูแพรวเห็นเป็นยังไงจ้ะ” คุณพร้อมถามสมาชิกในวงสนทนา เพื่อหาคำตอบ
“แพรวต้องกราบขอบพระคุณแทนยัยขิมด้วยนะคะที่กรุณาขนาดนี้ ทางเราไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ กลับเป็นบุญของเด็กด้วยซ้ำที่จะได้ไปอาศัยใบบุญของตระกูล อภิรัชโยธินค่ะ” แพรวพรรณกล่าวพร้อมยกมือกราบขอบคุณคุณพร้อม
“ส่วนผมกับณีก็คิดๆ อยู่เหมือนกันครับ ว่าจะปรึกษาคุณแม่อยู่เลย แต่ถ้าคุณแม่เสนอผมก็จะขอเจ้าตัวเล็กไปเป็นลูกบุญธรรมของผมกับณีเลยก็แล้วกันนะครับคุณแม่” กรรชัยดึงมือภรรยามาจับไว้เพื่อต้องการความมั่นใจในคำกล่าว
“ณีก็ยินดีค่ะคุณ งั้นเราเอาไปวันนี้เลยได้มั้ยคะคุณแพรว” พรรณีเห็นด้วยกับสามีพร้อมหันมาถามแพรวพรรณ เพราะเกิดอาการใจร้อนอยากได้เจ้าตัวเล็กไปอยู่ด้วยเร็วๆ
“ได้ค่ะสำหรับครอบครัวคุณท่านส่วนเรื่องเอกสารเดี๋ยวแพรวจะจัดให้ในวันหลังก็ได้ค่ะ” แพรวพรรณบอกเป็นนัยๆ ว่าถ้าโดยปกติก็จะต้องมีการสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อน แต่ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่เธอและสถานสงเคราะห์เด็กแห่งนี้ ประจักษ์แจ้งว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่มีอุปการะคุณรายใหญ่ๆ จึงมีความพร้อมทั้งทางด้านการเงิน และการที่จะให้ความอบอุ่นแก่เด็กได้โดยไม่ยากเท่าไหร่
“คุณแม่อยู่นี่เอง ปลายตามหาแทบแย่เลย” ปลายเดินมาหาพร้อมเข้าไปกอดเอวผู้เป็นแม่ แล้วสายตาก็เหลือบไปมองเด็กหญิงหน้าตามอมแมม และรู้สึกประหลาดใจไปอีกคน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“ปลายทานไอศรีมอิ่มแล้วหรือลูก นี่ปลายมารู้จักกับน้องนะลูก เห็นมั้ยน้องเขาหน้าตาเหมือนยัยขิมเลย แถมชื่อก็ชื่อเดียวกันอีกด้วย ปลายดีใจมั้ยที่จะมีน้องไปอยู่กับเราที่บ้าน”
ผู้เป็นแม่บอกลูกชายด้วยความตื่นเต้น แต่ตรงกันข้ามกับสีหน้าของคนฟัง ซึ่งสีหน้าบอกบุญไม่รับ พร้อมทั้งเดินเข้าไปเกาะข้างผู้เป็นพ่อ
“แล้วทำไมปลายต้องมียัยขิมอีกคนฮะพ่อ ในเมื่อยัยขิมน้องของปลายไปอยู่สวรรค์แล้วไงฮะ” เขาถามพ่อในที่สุด
“อ้าว ก็เวลาปลายไปเรียนเมืองนอก พ่อกับแม่กับย่าก็จะได้มีเพื่อนไงลูก ปลายบอกเองใช่มั้ยว่ากลัวคุณแม่กับคุณย่าเหงา ตอนนี้ปลายก็สบายใจได้แล้วนะลูกว่าแม่กับย่าจะไม่เหงาแล้ว เพราะมีน้องไปอยู่ด้วย”
ผู้เป็นพ่ออธิบาย โดยที่ไม่ได้ทันสังเกตเห็นสีหน้าของลูกชายเท่าไหร่ เพราะอาการตื่นเต้นกับความคิดที่จะรับสมาชิกใหม่ไปอยู่ด้วย เพราะดูสีหน้าที่แต่ละคนนั้นมีความยินดีเป็นที่สุด
“ว่าไงยัยขิม จะไปอยู่บ้านอามั้ยลูก” พรรณีพูดพร้อมคุกเข่าตรงหน้าเด็กหญิงที่หน้าตาบ้องแบ๊ว
“ต้องบอกว่าไปอยู่กับแม่มั้ยถึงจะถูกสิณี ก็เราจะรับไปเป็นลูกสาวของเราหนิ” กรรชัยคุกเข่าลงมาอีกคน
“จริงด้วยสิคะณีลืมไปเลย ขิมไหนลองเรียกแม่สิคะ” พรรณีมองหน้าหนูน้อยเพื่อหวังจะได้ยินคำนี้จากปากเด็กน้อยอย่างเอ็นดูยิ่งนัก
“ยัยขิมเรียกท่านว่าคุณแม่สิจ้ะ นับแต่นี้ต่อไปขิมจะเป็นลูกสาวของท่านแล้วนะรู้มั้ย แล้วขิมก็จะได้ไปอยู่บ้านหลังใหญ่ๆ มีทั้งคุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ และก็พี่ปลายด้วยนะคะ” แพรวพรรณคุกเข่าลงด้วย เพราะไม่อยากยืนค้ำหัวผู้ใหญ่
“ขิมจะมีพ่อ แม่แล้วหรือคะพี่แพรว” เป็นสำเนียงแรกที่พรรณี กรรชัย คุณพร้อม และปลาย ได้ยินนับตั้งแต่ที่ได้พูดถึงเจ้าตัวเล็กนี้มานาน
“จ้ะ แล้วแถมขิมก็จะมีคุณย่า และพี่ปลายด้วยนะคะ ไหนขิมเข้าไปกราบขอบคุณท่านสิคะ” แพรวพรรณบอกเด็กน้อย แล้วก็ดูเหมือนว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เด็กน้อยเดินไปกราบขอบคุณทั้งสองที่อก
“ไหนมาหาย่าสิลูก” คุณพร้อมก้มตัวลงมาอีกคน แล้วเด็กหญิงก็เดินเข้าไปหาว่าง่าย