บทที่ : 1 โลหิตอำพัน
ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง เสียงน้ำหยดกระทบแก้วหูของหญิงสาวที่นอนสลบไสลอยู่บนเตียง ทำให้เปลือกตามนค่อยๆลืมขึ้น และกระพริบถี่เมื่อเห็นว่าสถานที่ตนอยู่ในตอนนี้นั้น ไม่ใช่ห้องของตน ร่างบางรู้สึกเจ็บปวดที่แขนขวาของตน เมื่อมองไปทางนั้น ก็ตกใจกรีดร้องลั่น เมื่อเห็นชายร่างใหญ่นั่งตรึงแขนของตนไว้อยู่ เสียงน้ำหยดที่ได้ยินเมื่อครู่นั้น เป็นเสียงเลือดของนางที่กำลังหยดลงในถ้วยเคลือบ หญิงสาวตกใจและกลัวสุดขีด ชายร่างใหญ่หันมาฉีกยิ้มให้ราวกับปีศาจที่กำลังแยกเขี้ยวอยู่
หนึ่งชั่วยามก่อน
จวนราชครูเซิ่งลั่วกง
"ฉู่มู่ ท่านแม่อยากได้ผ้าแพรจากร้านแพรพรรณ เจ้าไปเลือกให้ท่านแม่หน่อยสิ" เส้าซิง บุตรสาวของอนุภรรยาเดินมาพร้อมกับยื่นถุงเงินให้กับ ฉู่มู่ บุตรสาวของภรรยาเอก แต่ว่านางเสียชีวิตไปหลังจากคลอดฉู่มู่ออกมา หลังจากนั้นหมอดูก็มาทักว่านางเป็นตัวกาลกิณีที่ทำให้แม่ต้องตาย นางจึงถูกผู้เป็นพ่อเกลียดชังและจะนำนางไปทิ้ง แต่ถูกเส้าหยาอนุภรรยาห้ามไว้ นางจึงเป็นคนที่เลี้ยงดูฉู่มู่ตั้งแต่นั้นมา พร้อมกับลูกสาวที่เพิ่งเกิดของตน จนตอนนี้ ลูกสาวทั้งสองก็มีอายุ16ปีพอดี ฉู่มู่รับเงินมาอย่างไม่มีอิดออด รถม้าพานางมาถึงในตลาด จังหวะที่นางเดินเข้ามาในตรอกเล็กๆที่เป็นทางลัดไปร้านแพรพรรณ นางก็ถูกคนโปะยาสลบจากนั้นสติของนางก็หายไปในทันที จนมาพบตนเองที่น่าเวทนาเช่นนี้ นางถูกบีบเค้นเลือดออกไปขนเกือบวูบ หลังจากนั้นชายร่างใหญ่ก็ให้คนมาทำแผลให้และจับเธออาบน้ำแต่งตัวส่งให้แขกในคืนนี้ ใช่ สถานที่ที่นางอยู่ตอนนี้คือ หอนางโลมสักแห่งในเมืองนี้ ชายคนนั้นนำเลือดของนางไปให้คนผู้หนึ่งที่ยืนรออยู่ตรงสถานที่ลับตาผู้คน คนผู้นั้นรับเลือดของนางไปและยื่นเงินก้อนโตให้เขา จากนั้นก็แยกย้ายกัน
จวนราชครู
เส้าหยารินเหล้าใส่จอกให้ผู้เป็นสามีหลังทานอาหารเย็นเสร็จ ราชครูยกสุราขึ้นดื่มและทำหน้าแปลกไปทันที "นี่เป็นสุราจากที่ใดกัน เหตุใดถึงมีรสคาวเช่นนี้ "
เส้าหยายิ้มและพูดว่า "สุราหมักอย่างที่ท่านพี่ดื่มทุกวัน วันนี้น้องเพิ่งได้สมุนไพรหายากมา จึงลองผสมเข้าไปในสุราให้ท่านพี่ดื่มเจ้าค่ะ"
ราชครูทำหน้าฉงน "สมุนไพรหายากงั้นเหรอ?"
"เจ้าค่ะ สมุนไพรนี้มีนามว่า โลหิตอำพัน เป็นยาอายุวัฒนะ ที่ร้อยปีจะออกผลสักครั้ง น้องเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่เล่าขานกันว่า ถ้าใครได้ดื่มแล้ว จะมีอายุที่ยืนยาว ร่างกายจะแข็งแรงราวกับคนหนุ่มสาว" ราชครูยิ้มและพูดว่า "ข้าโชคดีจริงๆที่ได้เจ้าเป็นภรรยา" พูดจบเขาก็ยกเหล้าขึ้นดื่ม เส้าหยายิ้มอย่างร้ายกาจขึ้น [เลือดของลูกสาวท่าน คงจะอร่อยใช่หรือไม่] นางเลี้ยงดูฉู่มู่อย่างกับลูกแท้ๆ ก็จริง แต่ยังไง น้ำก็ไม่มีวันข้นกว่าเลือดได้ เพราะสุดท้ายแล้ว ทรัพย์สมบัติในจวนจะมีผู้สืบทอดและครอบครองได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น นั่นก็คือ เส้าซิง ลูกสาวในอกของนางเอง
