2.ให้เวลา
สิ้นเสียงของไกอาทั่วทั้งบริเวณก็เงียบกริบ เธอไม่แปลกใจว่าทำไมความเงียบมันถึงได้ปกคลุมในทันทีที่เธอกล่าวเช่นนั้น เพราะไกอาเองก็คาดเดาเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
อาณาจักรนอลข่านถึงแม้ว่าจะยิ่งใหญ่มากขึ้นหลายเท่า แต่ทว่าราชาของที่นี่นั้นยังคงนับถือองค์จักรพรรดิอยู่ เพราะอย่างนั้นการเดินทางมาของเธอ เธอควรจะได้รับเกียรติอันสูงสุดสิ ไม่ใช่ว่าจะมาทนเสียงกร่นด่ามากมายอะไรพวกนี่
“ฮะ..ฮ่า ข้าชอบเจ้ามากเลยนะเลดี้ คำข้อนั้นข้าได้รับปากไปแล้ว เพราะอย่างนั้นเจ้าจะสามารถเลือกคู่ครองได้ด้วยตัวเอง..”
“หม่อมฉัน..ยังพูดไม่จบเพคะ นอกจากจะขอเลือกคู่ครองด้วยตัวเองแล้วหม่อมฉันยังขอฝ่าบาทเมตตาให้หม่อมฉันได้มีสามี..สองคนด้วยเถิด ธรรมเนียมของนอลข่านเรื่องสามีมีสี่ภรรยาไม่นับว่าเป็นอะไร เช่นนั้นหม่อมฉันจะขอมีสามีสักสองคนดู อย่างน้อยก็เพื่อให้หม่อมฉันนั้นสามารถเข้าใจในพิธีในแสนศักดิ์สิทธิ์ของนอลข่าน..ขอฝ่าบาทเมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ”
เด็กคนนี้ ไม่ได้โง่งมเลยแม่แต่นิดเดียว นางฉลาดพูดอีกทั้งยังต้อนเขาที่เป็นพระราชาให้จนมุมของนางได้ง่ายๆ ดูท่าข่าวลือที่ว่านางคือสตรีชั่วช้าจอมโง่งม จะไม่เป็นความจริงซะแล้ว
“ด้วยความยินดีเลดี้อามิตี้ เพียงแต่ไหนๆ เจ้าก็มีใจที่จะเรียนรู้เรื่องธรรมเนียมของนอลข่าน เช่นนั้นข้าก็จะสอนเจ้าเอง เจ้ามีเวลาในการหาคู่ครองของเจ้าเพียงหกเดือนเท่านั้น และบุรุษที่จะมาเป็นสามีของเจ้านั้นจะต้องแต่งงานกับเจ้าด้วยความเต็มใจ เจ้าไม่สามารถวางอำนาจบาตรใหญ่ได้ที่นี่ เพราะกับสตรีทุกนาง..บุรุษจะต้องถามความยินยอมกับพวกนางเสียก่อน ก่อนที่จะพาพวกนางมาเป็นภรรยาคนที่สอง เจ้าเองก็จะต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมของที่นี่เช่นกัน”
ดูเหมือนว่าเธอจะขอมากไป แต่แล้วอย่างไรเล่า เธอคือสตรีที่เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เธอรู้ว่าชีวิตคนเรานั้นแสนสั้นมากเหลือเกิน อยากจะทำอะไรก็ควรเร่งมือในการทำและ..ทะลุเข้ามาในนิยายทั้งที จะมีสามีคนเดียวได้อย่างไรกัน!!
“ขอบพระทัยที่ทรงเมตตาเพคะ”
“เร็วเกินไปที่จะขอบคุณเลดี้อามิตี้ เพราะหากว่าเจ้าไม่สามารถหาสามีในระยะเวลาที่กำหนดได้ เจ้าจะต้องแต่งเข้ามาเป็นพระสนมคนที่สามร้อยหนึ่งของข้า..”
ก็..ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นัก เพราะพระราชานอลข่านไม่ได้มีใบหน้าที่นับว่าน่าเกลียดอะไร แต่หากจะให้ดีเธอขอใช้ช่วงเวลาหกเดือนนี้เพื่อตามหาสามีรูปงามและเก่งกาจเรื่องบนเตียงน่าจะดีกว่า..
เมื่อแนะนำตัวเสร็จแล้ว ทหารก็พาไกอาและสาวใช้มาส่งที่คฤหาสน์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง พร้อมพระราชทานเงินทองของมีค่ามากมายถึงสิบเที่ยวรถม้าให้เธอ
“ฝ่าบาททรงมีพระกรุณา พระราชทานที่ดินและคฤหาสน์ให้กับเลดี้อามิตี้ สามร้อยไร่ เงินและทองจำนวน...”
“เจ้ายืนฟังไปนะ ข้าจะเข้าไปดูด้านใน”
ไกอาบอกกล่าวกับโรส เธอยกชายกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาด้านในคฤหาสน์รูปร่างแปลกตามากพอสมควร องค์ราชาพระราชทานของมีค่ามากมายพวกนั้นราวกับว่าคำสั่งของเขาคือให้เธออยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต ดูเหมือนว่าพระองค์ต้องการที่จะจองจำเธอด้วยเงินทองพวกนั้นและคฤหาสน์แห่งนี้สินะ
“นายหญิง..ข้าเป็นหัวหน้าสาวใช้ค่ะ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามนายหญิงบอกกล่าวมาได้เลย”
ในต่างเมืองเช่นนี้จะมีสักกี่คนที่เป็นคนของเธอจริงๆ ไม่ใช่ว่าคนพวกนี้คือสายสืบขององค์ราชาอย่างนั้นหรือ?
“ขอบคุณเจ้ามาก ข้าอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ คงจะดีหากว่าที่นี่มีห้องหนังสืออะไรพวกนั้น”
“เชิญนายหญิงตามข้ามาได้เลยค่ะ”
เธอไม่ใช่ไกอา..จะว่ายังไงดี เธออยู่ในร่างของไกอาแต่ไม่คิดจะทำตามที่ไกอาทำหรอกนะ ข้อแรกเธอไม่ใช่คนดีอะไรมากมายนัก แต่เธอก็ไม่คิดว่าตัวเองจะแสดงความโง่งมเช่นไกอาออกไป
เพราะอย่างนั้นเธอจะเป็นไกอาในเวอร์ชั่นที่ดียิ่งกว่าเดิม ชีวิตที่แล้วเธอมีความรัก เป็นรักที่หวานล้ำปานน้ำผึ้งเลยล่ะ เพียงแต่เพราะว่าเธอเป็นโรคที่รักษาไม่หาย โรคร้ายพรากเราออกจากกันไกลขึ้นเรื่อยๆ จนเธอตระหนักได้ว่า เราทั้งสองคนไม่มีวันที่จะสามารถรักกันได้อีกแล้ว เธอจะตายอย่างแน่นอนในวันหนึ่ง ส่วนเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยความเจ็บปวดเพราะสูญเสียเธอไป เพราะอย่างนั้นความดีครั้งสุดท้ายในชีวิตที่เธอทำคือการปลดปล่อยเขา เธอปล่อยมือออกจากชายคนรัก พร้อมกับปิดบังเรื่องโรคที่กำลังนำพาความตายคืบคลานเข้ามาหาเธอ
บอกเลิกเขาด้วยเหตุผลว่าเธอกำลังคบหากับคนอื่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอ้อนวอนร้องขอให้เธอคบเขาไปด้วย เธอจะมีคนอื่นก็ได้ ขอแค่เธอไม่เลิกกับเขา เขายินยอมเป็นคนโง่ แต่เธอใจแข็งมากกว่าที่คิด เธอไม่มีเวลาจะมาลัยอาวรณ์เขาอีกแล้ว เพราะเธอกำลังจะตาย
เธอบอกเลิกพร้อมกับตัดทุกความสัมพันธ์ เปลี่ยนเบอร์ใหม่ เปลี่ยนที่อยู่เพราะจะต้องย้ายเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลอย่างถาวร และที่นี่คงเป็นบ้านหลังสุดท้ายของเธอ
เพราะเธอเคยได้รับความรักที่แสนล้ำค่าจากผู้หนึ่ง เพราะอย่างนั้นในสายตาของเธอ ความรักมันถึงได้สวยงามมากทีเดียว
“ถึงแล้วค่ะนายหญิง”
ไกอาพยักหน้าเพื่อบอกกล่าวกับหัวหน้าสาวใช้ว่าเธอต้องการอยู่คนเดียว
“เดี๋ยวข้าจะไปจัดเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้ เดินทางมาเหนื่อยๆ ท่านควรจะพักนะคะ”
ไกอาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหัวหน้าสาวใช้มาธ่า นางคือหญิงวัยกลางคนที่รวบผมตึงเปรี๊ยะและชุดสาวใช้ที่ไม่มีรอยยับแม้แต่น้อย
“ข้าเชื่อใจท่านได้รึเปล่ามาธ่า ท่านคือคนของข้าคือคนขององค์ราชากันแน่”
มาธ่าคุกเข่าลงที่พื้น
“ข้ามิใช่คนขององค์ราชา ทว่าข้าคือสาวใช้ผู้ดูแลคฤหาสน์หลังนี้ เจ้านายคนเก่าของเราเสียชีวิตไปแล้ว เพราะอย่างนั้นนับจากนี้เป็นต้นไปท่านคือเจ้านายคนใหม่ของเรา และข้าคือคนของนายหญิงค่ะ”
เท่านั้นยังไม่เพียงพอให้เชื่อถือหรอก แต่วันนี้เธอเหนื่อยและอยากจะอยู่เงียบๆ สักพัก
“เป็นแบบนั้นก็ดี เจ้าออกไปก่อนเถอะ”
มาธ่าก้มหน้าลงก่อนจะเดินออกไปปิดประตู ไกอาเปิดหนังสือรายชื่อของราชวงศ์ออกมาดู
เพราะมีพระสนมถึงสามร้อยคน ทำให้องค์ราชามีองค์ชายมากมายทีเดียว มากมายถึงองค์ชายยี่สิบสาม แถมองค์ราชาอายุสี่สิบแปดแต่ทว่าใบหน้าของพระองค์ยังคงฉายแววหล่อเหลาอยู่เลย นั่นทำให้ใบหน้าของบรรดาองค์ชายมากมายพวกนั้นหล่อเหลาไม่แพ้ผู้เป็นพ่อ อันที่จริงเผ่านอลข่านมีใบหน้าที่สวยงามมาทีเดียว มันคมเข้มและเหมาะสมมากๆ กับผิวสีแทนของพวกเขา เรียกได้ว่าเหมือนกับว่าพระเจ้าทรงปั้นพวกเขาออกมาด้วยความรักที่พระองค์มี ทำให้ชาวนอลข่านทุกคนมีใบหน้าที่โดดเด่นและคมชัดสมเป็นชายชาตรี ส่วนสตรีก็แน่นอน เซ็กซี่ขยี้ใจในแบบที่ขนาดเธอเป็นสตรียังอดรู้สึกทึ่งในความงามนั้นไม่ได้เลย