บทที่4
บทที่ 4
จูไป๋เสวี่ยมาช่วยงานที่โรงหมอ สลับกลับไปช่วยงานที่โรงเตี๊ยม ชีวิตนางมีความสุขมากเหลือเกิน ไม่ต้องคิดแผนการ ไม่ต้องกลัวนางสนมคนไหนจะช่วงชิงความโปรดปรานของฮองเต้ไปจากนาง ไม่ต้องค่อยผลักดันตระกูลเจียวให้ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องหาเงินทองมากมายมาเลี้ยงกองทัพให้ไท่จื่อ
ระหว่างที่สาละวนเตรียมห่อยาตามเทียบที่ญาติคนป่วยส่งมาให้นางจัดยาให้อยู่นั้น
“ได้ข่าวจากเมืองหลวง ฮองเต้จะคัดนางสนมเข้าวัง”
“ที่มีอยู่มากมายยังไม่พออีกหรือ”
“พระองค์เพิ่งจะอายุ 40 ปีเอง ปีแรกที่ครองราชย์ก็เกณฑ์คุณหนูตะกูลขุนนางเข้าเป็นสนม สงสัยคราวนี้จะเกณฑ์หญิงสาวตามหัวเมืองต่างๆ” พูดแล้วก็เมี่ยงมองมาทางคุณหนูจูที่กำลังห่อเทียบยาอยู่ หากถูกเกณฑ์เข้าวัง ดูแล้วคุณหนูจูคงมีรายชื่ออยู่ในนั้นเป็นแน่
ได้ยินเสียงคุยตรงหน้าทำเอาจูไป๋เสวี่ยกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ฮองเต้องค์ปัจจุบันไม่ใช่ใครอื่น คือโอรสองค์เดียวของฮองเฮาเจียวเอินจวิ้น อดีตของนางในชาติภพเก่า
ฮองเต้หลงขึ้นครองราชย์ได้ 20 ปีแล้วหลังจากทำการกบฏ สังหารเชื้อพระวงศ์ในวังหลังทุกคนไม่เหลือแม้แต่ชีวิตเดียว องค์ชายที่อยู่ต่างเมืองหรือเชื้อพระวงศ์ที่ไม่ได้อยู่ในรั้ววังก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น ใจคอเหี้ยมโหดอำมหิต แม้แต่ฮองเฮามารดาผู้ให้กำเนิดก็ไม่ละเว้น ขุนนางน้อยใหญ่ต่างพากันรีบก้มหัวสวามิภักดิ์ บ้านเมืองระส่ำระสายอยู่หลายปีกว่าจะสงบสุข โชคดีที่หัวเมืองห่างไกลไม่ได้รับผลกระทบซักเท่าไหร่
“คุณหนูจู ท่านอยากไปอยู่ในวังหลวงหรือไม่ ได้ไปอยู่เมืองหลวงคงดีกว่าหัวเมืองยากไร้ห่างไกลแบบนี้”
หลิวอวี้เสี้ยว เดินเข้ามาในโรงหมอ เห็นศัตรูหัวใจกำลังยืนเชิดหน้าราวกับหงส์อยู่ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ จึงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาจิกกัด หากจูไป๋เสวี่ยได้เข้าไปเป็นนางสนมคงดี นางจะได้กลายเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองสักที บิดานางเป็นถึงเจ้าเมือง แต่กลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับบุตรสาวเจ้าของโรงเตี๊ยม มันน่าเจ็บใจ ไม่ว่าจะจ้างครูมาอบรมมารยาทซักกี่คน นางก็ไม่อาจลอกเลียนแบบท่วงท่าและกริยาของจูไป๋เสวี่ยได้เลย
“ข้าไม่สนใจเมืองหลวงเลยชักนิด ช่วยกิจการที่บ้านคือความสุขของข้า” นางจะกลับไปอยู่ขุมนรกเดิมทำไม วังหลังคือสุสานกินคน ใครที่เข้าไปแล้วไม่ต่างจากถูกตัดขาดจากโลกภายนอก การแก่งแย่งชิงดีไม่ได้มีแค่ในนางสนม มันเริ่มตั้งแต่สาวใช้ไปจนถึงขั้นที
“เสแสร้ง” หลิวอวี้เสี้ยวบิดปาก จะมีสตรีใดไม่อยากไปอยู่เมืองหลวง ตัวนางเองยังอยากแต่เข้าตระกูลขุนนางใหญ่โตย้ายไปอยู่เมืองหลวงที่โออ่า หัวเมืองเช่นนี้ไม่มีวันเทียบได้
“เทียบยาของคุณหนูหลิว ข้าจะให้คนจัดให้นะเจ้าค่ะ ข้ามีงานอื่นต้องทำขอตัว” แรงริษยาของหญิงสาว มีหรือนางจะไม่เคยเห็น หากเป็นนางคนเก่าคงปะทะไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะไปต่อปากต่อคำด้วยเลยซักนิด
“เจ้ากล้าเดินหนีข้าเหรอจูไป๋เสวี่ย กลับมาเดี๋ยวนี้น่ะ”
ถูกหักหน้าด้วยการเดินหนี ทิ้งให้นางยืนเต้นเร่าๆ อยู่คนเดียว มีหรือคนอย่างหลิวอี้วเสี้ยวจะทนความอับอายนี้ได้ นางกำมัดจนมือสั่นระริก