บทที่ 30 ลมปราณที่ซ่อนเร้น
เผยมู่ซีเลือกรำกระบี่ในท่วงท่าพื้นฐานที่มักจะฝึกซ้อมกันในหมู่มือปราบและองครักษ์เมืองหลวง นางซ้อมอยู่หลายวันจึงเริ่มตวัดกระบี่ได้คล่องขึ้น กล้ามเนื้อที่อ่อนเหลวของชิงหลานเป็นอุปสรรคที่ทำให้การควงอาวุธไร้พลัง กระบี่ที่ควรจะเบาสำหรับเผยมู่ซีกลับมีสภาพเหมือนนางกำลังควงทวนที่หนาหนักไปเสียอย่างนั้น
ยอดฝีมือร่างแกร่งมองดูเด็กหญิงรำกระบี่อย่างคล่องแคล่ว ครั้นนางจบท่าสุดท้ายลงอย่างสวยงามก็รินชาขึ้นจิบ
“นับว่าเจ้ามีทักษะยอดเยี่ยม แต่ยังไม่มีลมปราณที่จะช่วยให้เพลงกระบี่มีพลัง เอาเถิดสำหรับเจ้าข้าจะรับเอาไว้!”
จั๋วเหรินหาวที่ยืนอยู่เยื้องด้านหลังอาจารย์ของตนถอนหายใจอย่างโล่งอก ตั้งแต่เขาเห็นนางที่ศาลาก็นึกแปลกใจว่าเด็กหญิงที่เคยล้มป่วยปางตายเพิ่งฟื้นร่างกายได้ไม่นานอย่างนาง เหตุใดจึงคิดจะฝากตัวเป็นศิษย์ของจอมยุทธ์ลู่? ทั้งๆ ที่มีบุรุษมากมายเคยเข้ามาแล้วไม่สมหวัง...นางเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกัน?
...อัศจรรย์นัก! อาจารย์ลู่รับนางเป็นลูกศิษย์แล้ว!....
“ขอบคุณท่านอาจารย์”
จั๋วเหรินหาวเข้าไปในเรือนใหญ่หยิบเอาถ้วยน้ำชาลวดลายงดงามมีฝาปิดออกมา รินน้ำชาใส่จนเต็มแล้วยื่นให้ชิงหลาน
“เจ้ายกน้ำชาให้อาจารย์เสียสิ! ต่อไปเจ้าก็เป็นศิษย์น้องของข้าแล้ว!”
คุณหนูชิงตัวปลอมรับถ้วยน้ำชาจากว่าที่ศิษย์พี่ใหญ่แล้วคุกเข่าลงต่อหน้าจอมยุทธ์ลู่ “คารวะท่านอาจารย์ ศิษย์ชิงหลานพร้อมน้อมรับคำสั่งสอนและตั้งใจฝึกซ้อมวรยุทธ์ให้เต็มกำลังสมกับที่ท่านเมตตาถ่ายทอดให้”
“ดีๆ เจ้าปฏิญาณตนได้ดียิ่ง...เหรินหาวเจ้าได้ยินที่ศิษย์น้องเจ้าสัญญาหรือไม่? ต่อไปเจ้าต้องทำให้ได้เหมือนอย่างนาง”
เผยมู่ซีรู้สึกน้ำเสียงของจอมยุทธ์ลู่ช่างคุ้นหูนางยิ่งนักแต่ไม่แน่ใจว่าเคยได้ยินที่ใด? น้ำเสียงของอาจารย์นางผู้นี้ติดจะแหบนิดๆ...หากปกติกว่านี้นางก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่าคล้ายผู้ใด?
จั๋วเหรินหาวยกยิ้มมุมปากก่อนจะก้มศีรษะลงรับ “ขอรับท่านอาจารย์!”
เผยมู่ซีหันไปยกมือคารวะคุณชายน้อยจั๋ว “ศิษย์พี่ใหญ่ ต่อไปได้โปรดดูแลข้าด้วยเจ้าค่ะ”
คุณชายน้อยจั๋วยิ้มกว้าง “ได้! ต่อไปข้าจะคุ้มครองเจ้าเอง”
“ชิงหลาน เจ้าต้องเริ่มจากการฝึกลมปราณก่อน เข้ามานี่สิ!”
“เจ้าค่ะท่านอาจารย์” เผยมู่ซีขยับเข้าไปใกล้ จอมยุทธ์ลู่ยืนเหยียดตัวตรงต่อหน้าก่อนยกมือขึ้นสองข้างกดไปตามจุดสำคัญตามร่างกายของนาง
ฉึ้ก! ฉุ้ก! ฉึ้ก!
เสียงนิ้วที่แข็งแรงทั้งซ้ายและขวาไล่ไปตามหัว ไหล่ แขน ส่วนอกด้านบนหลายครั้ง เผยมู่ซีรู้สึกเหมือนร่างกายของนางปั่นป่วนพลุ่งพล่านครู่หนึ่ง
“เจ้าตามข้ามาทางนี้...ดูเหมือนลมปราณภายในของเจ้าจะแตกต่างจากผู้อื่นนัก!”
จั๋วเหรินหาวมองหน้าอาจารย์ด้วยความแปลกใจ ชิงหลานน่ะหรือมีลมปราณแตกต่างจากผู้อื่น? นางอ่อนแอกว่าผู้ใดในอำเภอเฉิน? ร่างกายของนางไม่แน่ว่าแค่เขาแตะเบาๆ ก็อาจจะล้มลงได้...แต่สีหน้าของอาจารย์ดูหนักใจ!
เผยมู่ซีเดินตามอาจารย์เข้าไปในห้องโถงกลางเรือน ด้านข้างเป็นส่วนยกพื้นกว้าง จอมยุทธ์ลู่ชี้ไปยังเบาะไม่ไกลนักเหมือนจะบอกให้นางนั่งที่นั่น
“เจ้าเคยได้รับการถ่ายทอดลมปราณมาจากผู้ใดหรือไม่?”
เผยมู่ซีชะงัก นับตั้งแต่นางมาอยู่ในร่างของชิงหลานก็ไม่เคยเจอจอมยุทธ์คนไหนเลย? แล้วจะไปเอาพลังลมปราณมาจากผู้ใด?
“ไม่เจ้าค่ะ! ข้าก็แค่นอนป่วยอยู่ห้าปีแล้วเหมือนกับตายแล้วฟื้นมาใหม่แค่นั้นเอง”
“เอาเถิด! ในเมื่อมีกระแสลมปราณบางส่วนอยู่ในร่างกายเจ้าและยามนี้ยังติดขัดอยู่ ข้าจะช่วยทะลวงลมปราณเพื่อให้ไหลเวียนสะดวกเสียก่อน เจ้าจะได้ฝึกวิทยายุทธ์ได้เร็วยิ่งขึ้น”
“ขอบคุณท่านอาจารย์”
จั๋วเหรินหาวมองดูอาจารย์ของตนนั่งประจันหน้าทำการทะลวงลมปราณให้สาวน้อยที่เพิ่งรับเข้าเป็นศิษย์ด้วยความประหลาดใจ ร่างของจอมยุทธ์ลู่เกร็งทั้งตัวตวัดแขนสองข้างเรียกพลังแล้วกระแทกใส่ไหล่ข้างหนึ่งของชิงหลานจนร่างนางหมุนหันกลับหลังแล้วฝ่ามือทั้งสองของท่านอาจารย์ก็กระทบที่แผ่นหลังของนาง ทาบไว้อยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะทำการสกัดจุดทางด้านหลังแล้วผลักร่างของนางให้หันมาด้านหน้ามาอีกคราวก่อนจะจี้จุดลงไปหลายครั้ง
ร่วมสองเค่อที่อาจารย์ทำการทะลวงลมปราณให้ชิงหลาน เมื่อมือของจอมยุทธ์ลู่สบัดออกจากร่างของศิษย์คนล่าสุดแล้ววาดเป็นวงกลมกลับสู่ท่าร่างปกติ เผยมู่ซีก็ลืมตาขึ้น ร่างกายของนางเบาหวิวรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นอย่างมาก
“ข้ารู้สึกว่าร่างกายไม่หนักเหมือนแต่ก่อนแล้วเจ้าค่ะ”
“ดี! คืนนี้เจ้ากลับไปจนนอนให้ครบสี่ชั่วยามเต็ม พรุ่งนี้เช้าตอนที่ลุกขึ้นมาฝึกรำกระบี่จะรู้สึกว่าทำได้ไม่ติดขัด”
จั๋วเหรินหาวทำหน้าที่กลับออกมาส่งชิงหลาน คราวนี้เขาพานางเดินเลยไปจากศาลาเล็กน้อย ด้านหลังพุ่มไม้มีรถม้าจอดอยู่
“หน้าที่ของข้าคือต้องไปส่งทุกคนที่มาเยือนที่นี่ หน้าประตูทางเข้าอำเภอเฉิน เช่นนั้นเจ้าขึ้นรถม้าเถิด”
เผยมู่ซีถึงกับหน้าซีด “ไม่ได้! ข้าขึ้นรถม้าไม่ได้เพราะอาการป่วยข้าจะกำเริบ”
ศิษย์พี่เห็นใบหน้าศิษย์น้องซีดเซียวขึ้นมาทันควันก็รู้ว่านางมิได้กล่าวคำโกหกจึงหันไปแกะเชือกออกจากม้า
“เช่นนั้นเจ้าขี่ม้าไปพร้อมกับข้า ว่าแต่เจ้าขี่ม้าเป็นหรือไม่?” จั๋วเหรินหาวยืนเชือกม้าให้นาง
“เป็นสิ!” เผยมู่ซียิ้มรับนางอยากจะโม้ต่อเสียด้วยซ้ำว่าอย่าว่าแต่ขี่เลยต่อให้ยิงธนูบนหลังม้านางก็ได้!
“เจ้าไปหัดขี่ม้าเมื่อใดกัน? ไหนว่าป่วยอยู่ห้าปีอย่างไรล่ะ?”
“เจ้าจะเชื่อหรือไม่? หากข้าเล่าว่าระหว่างที่ข้าฟื้นจากความตายสวรรค์ได้ประทานพรให้ข้าขี่ม้าได้เก่งกาจ”
“โฮะๆ ศิษย์น้อง! เจ้าช่างขี้โม้เสียจริง เอาเถอะไหนๆ เราก็เป็นศิษย์สำนักเดียวกันแล้วข้าจะพยายามเชื่อเจ้าก็แล้วกัน”
ทั้งสองขี่ม้าพลางถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน จั๋วเหรินหาวเชิญชิงหลานไปรับประทานอาหารที่เหลาสุราของตน
“ข้าอยากมีศิษย์น้องมาตั้งนานแล้ว แต่อาจารย์ก็ไม่ยินยอมรับผู้ใดเสียที ข้ายังแปลกใจที่อาจารย์ยอมรับเจ้าเป็นศิษย์ บุรุษร่างกำยำแข็งแรงมากมายกลับไม่มีโอกาส ไม่รู้อาจารย์เห็นสิ่งใดในตัวเจ้า? แต่ก็ช่างเถิด...เอาเป็นว่าข้าอยากเลี้ยงต้อนรับเจ้ามาร่วมสำนัก เจ้ากลับไปเชิญท่านแม่เจ้ากับคนที่จวนมาด้วยดีหรือไม่?” จั๋วเหรินหาวรู้ว่าที่จวนของนางมีคนเพียงสี่คนเท่านั้น ฐานะของนางที่ยากลำบากนั้นเป็นที่รู้กันในอำเภอเฉิน นับตั้งแต่นางจมน้ำจนล้มป่วยในครั้งนั้นเขาเคยเอาของไปฝากเยี่ยมนางครั้งหนึ่งแต่มิได้พบ จากนั้นจวนของนางก็ปิดสนิทมีเพียงคำบอกเล่าจากเพื่อนบ้านบางคนบอกว่านางอาจจะไม่รอดแต่ผ่านไปหลายปีนางก็ยังคงอยู่ มาถึงปีนี้กลับเกิด ปาฎิหาริย์ที่นางกลับคืนมาเดินเหินได้
“ศิษย์พี่ท่านแน่ใจหรือว่าจะเลี้ยงฉลองให้ครอบครัวข้าด้วย”
“ข้าแน่ใจสิ! เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นลูกใคร?”
เผยมู่ซียิ้มกว้าง “อ้อ! ข้าลืมไป...ท่านเป็นลูกนายอำเภอเฉิน เงินทองเหลือเฟือเช่นนั้นข้าไม่เกรงใจล่ะนะ ที่บ้านข้ามีสี่คนข้าจะเรียกมาให้หมดเลยเทียว”
ครั้นคุยกันมาจนถึงหน้าประตูอำเภอ เหล่าลู่กำลังชะเง้อคอรออยู่ เผยมู่ซีเห็นก็รีบชักม้าเข้าไปใกล้บอกเหล่าลู่ด้วยความตื่นเต้นว่านางได้เป็นศิษย์ของจอมยุทธ์ลู่แล้วเหล่าลู่สีหน้าตื่นเต้นทำท่าจะรับนางลงจากหลังม้า
“เหล่าลู่ ช่วยแจ้งที่จวนสกุลชิงด้วยว่า ข้าเชิญจังฮูหยินให้มาเลี้ยงฉลองที่เหลาสุราของข้า วันนี้ข้าจะเลี้ยงต้อนรับศิษย์น้อง รวมทั้งท่านและเสี่ยวลิ่งด้วยนะ”
“ยินดีขอรับ! เช่นนั้นข้าจะไปเชิญฮูหยินเดี๋ยวนี้”
****************************
นิยายชุดนี้เขียนขึ้นทั้งหมด 7 ภาคด้วยกัน (ข้อมูลถึงตุลาคม 2564)
ภาค 1 “ท่านอ๋องอย่าคิดหนี”
ภาค 2 “ท่านอ๋องเป็นของข้า”
ภาค 3 “ท่านอ๋องกับชายาหมี”
ภาค 4 “ท่านหญิงจีจอมพลัง”
ภาค 5 “ซือซือฮองเฮาพันโฉม”
ภาค 6 “สายลับจับอ๋องใหญ่”
ภาค 7 “เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย”
