ตอนที่ 6 รอยยิ้ม
ตอนที่ 6 รอยยิ้ม
เสียงหยอกเย้าเมื่อครู่ในห้องนอนของมู่หลัน เรือนขนาดกลางเกือบท้ายจวน อาชิงมีสีหน้าที่ดูกระวนกระวายใจเป็นไหน ๆ ส่วนอาจิน เงาที่คอยมารายงานกับเร้นกายในเงามืด แล้วส่งเสียงหัวเราะขบขันคนด้านใน ที่กำลังร้องโอดโอยของความช่วยเหลือ
“ข้ายอมเจ้าแล้วภรรยารัก ข้ายอมแล้ว” เสียงร้องขอยอมแพ้ พร้อมสายตาอ้อนวอนอย่างเห็นใจ ตอนนี้เขาถูกมีดสั้นปักตามอาภรณ์ของเขามิให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้ แล้วยังมีอยู่ในมือของนางอีกสองเล่ม นางยังมองมาที่กล่องดวงใจของเขาอีก
“จะทำแบบเมื่อครู่อีกหรือไม่ท่านพี่ ตอบมา!!” เสียงที่ดูจะแข็งกร้าวเล็กน้อยเอ่ยขึ้น นางนั่งที่เตียงนอนอย่างสบายใจมิได้เล่นอะไรสนุก ๆ แบบนี้มานานขนาดไหนแล้ว นางก็จำไม่ได้ เพราะทุกวันนางต้องฝึกฝนทั้งวรยุทธ์และทั้งกฎของสตรีในห้องหอ
แต่ตอนนี้ นางละทิ้งมันสิ้น กฎอะไรนางมิสนใจแล้ว สนใจเพียงบุรุษหน้าหยกผู้นี้ ช่างก่อกวนใจนางเหลือเกิน อุตส่าห์ได้อยู่ที่เรือนท้ายจวนแล้ว เขายังตามมาราวีไม่เลิก
“จะทำ!! เพราะเจ้านั้นทั้งหวานทั้งหอม อย่าลืมว่าพี่เป็นสามีของเจ้า” เขายังไม่ลดละความพยายามที่จะยั่วโมโห ช่วยไม่ได้ ก็นางนั้นหวานนิ่มลิ้นเขาจริง ๆ อีกทั้งกลิ่นกายของนางก็ชวนให้เขาหลงใหล เมื่อวานเขาเมาจนจำภาพร่วมเตียงกับนางไม่ได้
“ข้ายังไม่ได้เป็นภรรยาของเจ้า เจ้าทึ่ม” นางเอ่ยออกมาอย่างเสียงดัง
“นี่เจ้ากล้าว่าสามีว่าเจ้าทึ่มหรือ สตรีร้ายกาจ ข้าจะหย่ากับเจ้า” เมื่อได้ยินว่ายังไม่ได้เป็นภรรยาของเขา ดวงตาของเขาเบิกโพลงด้วยความตกใจ แล้วเลือดนั่นมันเป็นของใครมิใช่ว่านางแกล้งเขาหรือ ‘ร้าย ร้ายนัก’ และที่ว่าเขามันทึ่มนั้น
เขายอมไม่ได้ เสียศักดิ์ของความเป็นบุรุษหมดที่ถูกภรรยาข่มเหงรังแก รู้ถึงไหนอายถึงนั้นเหมือนเช่นตอนนี้ ที่ไปไหนไม่ได้แม้แต่จะขยับตัวก็ยังไม่ได้ เพราะมีดสั้นมันปักเสื้อของเขายึดอยู่กับกำแพง
“ข้าไม่หย่า เจ้าจะทำอะไรได้” นางระบายยิ้มอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหุบมันลง ‘นี่ข้ายิ้มเหรอไม่ได้ ๆ’
พลันสายตาของอันหยางจดจ้องรอยยิ้มเมื่อครู่เหมือนมันทำให้เขาเห็นทุ่งดอกไม้ที่กว้างใหญ่ เวลานางยิ้มแล้วสะกดใจเขาเสียจริง เขาชอบเวลาที่นางยิ้ม
“ฮูหยิน ปล่อยสามีเจ้าได้แล้ว” เสียงที่แผ่วเบาลงจากเมื่อครู่ ที่เห็นว่าร่างบอบบางนั้นเริ่มจะทรงตัวไม่อยู่ สายตาแข็งกร้าวเมื่อครู่และรอยยิ้มเมื่อครู่ได้หายไปแล้ว เหลือเพียงแต่สายตาเย็นชาชวนหนาวเหน็บ
“อาชิง มาปล่อยนายท่านเสีย” เสียงหวานเอ่ยขึ้น พร้อมรูปหน้าที่เหมือนกำลังเจ็บปวดทุรนทุราย
“ฮูหยินเจ้าเป็นอะไร พี่เลิกแกล้งเจ้าแล้ว อาชิงเร็ว ๆ เข้า ฮูหยิน” เขาส่งเสียงออกไปอย่างร้อนใจ พร้อมกับสายตาของเขาจดจ้องร่างบอบบางที่กำลังเอนกายลงที่เตียงและเหมือนกำลังจะขดตัวจับกุมที่ท้องของนาง
“ฮูหยิน ฮูหยินเจ้าคะ” อาชิงเข้ามา แต่ยังไม่ได้ปล่อยนายท่านที่ตัวติดกับกำแพงเพราะมีดสั้นทั้งหลายนั้นปักยึดเอาไว้แน่น ตอนนี้นางห่วงเจ้านายสาวของนางมากกว่า บุรุษที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ข้าไม่เป็นไร อาชิงปล่อยเขาเถิด” เสียงที่แหบแห้งเล็กน้อยนั้นทำให้อาชิงส่งสายตาเขียวเข้ามาให้ เจ้าของจวนอย่างอันหยาง
“นายท่านฮูหยินบาดเจ็บเช่นนี้ นายท่านมิควรเอ่ยแกล้งนางนะเจ้าคะ” อาชิงเอ่ยตำหนิ นางสนเสียที่ไหน จะลงโทษนางหรือก็ย่อมได้ แต่นางไม่ยอมให้เจ้านายของนางนั้นเป็นอะไรไปเด็ดขาด
“เอ่อ น่า ข้าไม่แกล้งนางแล้ว เจ้าออกไปเถิด ข้าจะดูแลนางเอง” สีหน้าของเขาสลดลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสาวใช้คนนี้มีดวงตาที่กำลังเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแถมยังห่วงใยเจ้านายอย่างสุดซึ้ง
“แต่ว่า ...” อาชิงไม่อยากออกไป นางอยากจะดูแลเจ้านายเอง
“ไม่ต้องแต่ ข้าเป็นสามีของนางก็ต้องดูแลนางสิถึงจะถูก มีอะไรก็ไปทำเถิด” ท่าทางของเขาผิดกับเมื่อครู่ เสื้อผ้าของเขาเป็นรูด้วยมีดสั้นของนาง เขามิได้หวาดกลัวสักนิด เพียงแค่อยากจะรู้ว่าสตรีข้างกายของเขานั้น เป็นสตรีแบบไหนกันแน่
ถึงเขาไม่มีวรยุทธ์สูงส่ง เขาก็เรียนพื้นฐานมา เรื่องแค่นี้เล็กน้อยสำหรับเขาที่ต้องเดินทางขึ้นเหนือ ล่องใต้ ค้าขายเพื่อขยายกิจการ หรือไม่ก็ต้องเดินทางไปต่างแคว้น
เมื่ออาชิงเดินออกไปจากห้องแล้ว เขานั่งลงที่เตียงนอนมองใบหน้าของนาง เริ่มเห็นเหงื่อผุดขึ้นที่ใบหน้าของนางแล้ว เขารีบเอาผ้าชุดน้ำมาเช็ดให้นางอย่างเบามือ ถึงเปลือกตาของนางจะปิดสนิทอยู่ แต่นางรับรู้ทุกการกระทำเพียงแค่ไม่อยากจะพูดคุยกับเขาเท่านั้นเอง
“พี่ขอโทษที่ยั่วโมโหเจ้านะ ต่อไปนี้พี่จะดูแลเจ้าอย่างดี” เขามั่นใจว่าต่อไปนี้คงจะต้องดูแลคนป่วยอีกหลายวันแน่นอน ดูจากอาการของนางแล้ว พิษอะไรเขาไม่รู้ รู้เพียงเขาไม่อยากให้นางสิ้นใจไปแบบนี้
นางมีอะไรพิเศษกว่ามี่เจินมากนัก คำพูดของนางอันเถียรตรง และกิริยาของนางมิได้ปกปิด นางเป็นคนเปิดเผย ชอบคือชอบ เกลียดคือเกลียด สตรีที่แคว้นนี้มิค่อยจะมีแบบนางสักเท่าไหร่ เขาชอบแบบนี้เสียแล้วทำให้มีสีสันขึ้นเยอะทีเดียว
เขาขึ้นเตียงนอน นอนตะแคงสอดมือเข้าไปที่เอวคอดกิ่วของนางอย่างแผ่วเบา คนตัวเล็กรับรู้ตลอดเวลา
“เจ็บปวดอยู่หรือไม่” เขารู้ว่านางยังไม่ได้หลับ
“เล็กน้อยเท่านั้น ไกลหัวใจเยอะ” นางตอบสั้นและเปลือกตายังปิดสนิทอยู่เช่นเดิม
“พี่ขอโทษนะ” เขาพูดขึ้นพร้อมกระชับร่างบอบบางเข้าแนบอกเขา นางมิได้ขัดขืน
“ขอโทษเรื่องอะไร” นางไม่เข้าใจอยู่ดี ๆ เขากลับอ่อนโยนแบบนี้ได้ยังไงและเขาผิดเรื่องอะไรถึงได้เอ่ยขอโทษนางแบบนี้
“ขอโทษที่พูดว่าจะหย่ากับเจ้า” เขาพูดขึ้น
“ไม่แปลกหรอก คนสองคนอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้รัก อีกทั้งท่านก็มีสตรีที่รักอยู่แล้ว หย่ากับข้าก็ไม่แปลกอันใด” นี่คือเรื่องที่นางรับได้ ตอบแทนแล้วกับการที่แต่งงาน หากอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็หย่าขาดเสีย นางยังมีงานสำคัญที่ต้องทำอีกมากมาย มิได้เสียเวลากับเรื่องความรักดั่งเช่นหนุ่มสาวหรอก
“กลับเรือนนอนของท่านเสีย” นางกลัวว่าเรื่องสำคัญที่จะพูดคุยกับ อาจินจะถูกแพร่งพรายออกไปและเขาอาจจะรู้ว่านางคือใครก็ได้
“ไม่พี่จะนอนกอดเจ้าอยู่แบบนี้” เขาปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกอดเอวของนางแน่นขึ้นกว่าเดิม