บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ไร่พฤกษา 1

รถยนต์คันเดิมยังคงแล่นบนถนนสายหลัก ตรงดิ่งไปยังจังหวัดลำปางซึ่งใช้เวลาประมาณสิบชั่วโมงกว่าจะถึงตัวจังหวัด และอีกสี่สิบห้านาทีกว่าจะถึงไร่พฤกษา คนที่ตั้งใจว่าจะคิดหาทางออกในเรื่องคับขัน เวลานี้กับผลอยหลับศีรษะพิงกับประตูรถยนต์ กวินภพเห็นแล้วเกิดความหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ เขาจับตัวเธอมาไม่ได้ให้มานอนหลับสบายๆ อย่างนี้ต้องแกล้งเสียให้เข็ด คิดได้ดังนั้นร่างหนาจึงขยับเข้าไปใกล้สาวร่างเล็ก ยื่นใบหน้าเข้าใกล้ใบหูสาว ให้ริมฝีปากหนาชิดติดกับส่วนรับฟังของเธอ

“ตื่นได้แล้ว ตื่นสิ น้องหนูตื่น”

เสียงดังราวกับฟ้าผ่าดังอยู่ตรงใบหูของเพลงมีนา เสียงที่ดังสนั่นทำให้สาวเจ้าสะดุ้งตัวตื่น มองหน้าเขาเลิกลั่ก ใจเต้นโครมคราม

“ไม่เคยหลับเคยนอนหรือไง หลับมาได้ตลอดทาง” น้ำเสียงของเขายังคงดังลั่นรถ

“ก็คนมันง่วงนี่นา” เธอพูดเสียงอ่อย “คุณจะพาฉันไปไหน?”

“ไปนรก” เขาตอบสั้นๆ แต่สำหรับคนที่ได้ยิน หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เกรงกลัว

“ฉัน...ฉันไม่ใช่น้องหนูนะ” เสียงของเธอดังออกมาแผ่วๆ แต่ดังราวกับพลุแตกสำหรับเขา

“อยากจะให้ฉันจูบก็พูดมาดีดี ไม่ต้องมาทำเป็นพูดอย่างนี้หรอกน้องหนู ฉันไม่หลงกลดาวยั่วอย่างเธอง่ายๆ อย่างคนงานของฉัน ต่อให้เธอแก้ผ้ายั่วฉัน ฉันยังไม่อยากจะแลเลย เธอไม่อยู่ในสายตาของฉันด้วยซ้ำ”

กวินภพคิดว่า การที่เธอกล่าวอ้างว่าไม่ใช่น้องหนู เพราะต้องการให้เขาจูบตามคำขู่ อย่าหวังเลยว่าเขาจะหลงกล...ไม่มีทาง

“เปล่าซะหน่อย ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย ก็ไม่ใช่น้องหนูจริงๆ นี่นา”

เธอค้านเสียงเบา จะพูดได้ว่าทำปากพึมพำไม่ให้เกิดเสียงมากกว่า

“พูดอะไร พูดมาดังๆ ไม่ใช่มาทำปากขมุบขมิบ เดี๋ยวพ่อจูบซะดีมั้ยเนี่ย”

ไม่ได้เพียงแค่คำพูดเท่านั้นที่ข่มขู่ เขายังกระเถิบกายเข้าไปใกล้ร่างสาวที่ขยับหนีร่างสูงใหญ่ไปจนชิดบานประตู ชิดจนแทบจะหลอมตัวเป็นเนื้อเดียวกัน

“ไม่...ไม่ได้พูดอะไร” เธอแก้ตัวเสียงสั่น ตัวก็สั่นตามเสียงไปด้วย กลัวว่าเขาจะจูบตามคำขู่จริงๆ

“สงสัยว่าถ้าไม่มีหลักฐานเธอคงไม่ยอมรับใช่มั้ยว่าเป็นน้องหนู” เขาพูดพรางล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมา ก่อนจะเปิดมันออกหยิบภาพถ่ายของน้องหนู สาวดาวยั่วที่เขาไม่มีวันลืม การณ์ที่เขาเก็บรูปถ่ายของน้องหนูเอาไว้ในกระเป๋านั้น จะได้เป็นเครื่องเตือนใจให้เขารู้ว่า เธอทำอะไรไว้กับเขาบ้าง

“เอานี่ รูปของน้องหนู แหกตาดูซะ แล้วบอกฉันทีซิว่า คนที่อยู่ในรูปคือเธอหรือเปล่า คราวนี้ล่ะเธอจะได้เลิกปากแข็งเสียที?”

พูดจบก็ยื่นรูปถ่ายส่งให้เพลงมีนา เขาหวังว่าหากเธอเห็นภาพถ่ายนี้จะจำนนต่อหลักฐาน ยอมรับว่าตนเองเป็นน้องหนู กวินภพยังอำนวยความสะดวกให้เพลงมีนา ให้เธอมองเห็นรูปถ่ายได้อย่างชัดเจนด้วยการเปิดไฟในรถให้สว่างขึ้น

มือนุ่มของเพลงมีนาเอื้อมมาหยิบรูปถ่ายใบนั้นมาดูอย่างเสียมิได้ ทั้งๆ ที่ตนเองไม่อยากจะดู เพราะมั่นใจตนเองไม่วันมีใบหน้าเหมือนน้องหนู คนที่เขาเคียดแค้น

ดวงตาหวานสวยเบิกกว้าง ใจเต้นถี่แรง มือนุ่มอีกข้างนำมาขยี้ตาทั้งสองข้างหลายครั้ง เพราะคิดว่าตนเองคงคิดถึงเพียงรัมภา น้องสาวฝาแฝดมากเกินไป จนทำให้มองเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ในรูปเป็นน้องสาวสุดที่รัก แต่พอขยี้ตาครั้งแรกภาพนั้นก็ยังย้ำชัดว่าใช่ ครั้งที่สองก็ใช่อีก ครั้งที่สามยิ่งตอกย้ำหนักแน่นมากขึ้นเป็นหลายเท่าว่าใช่

โอ้...เป็นไปได้ยังไง เป็นไปได้ยังไง ในภาพนี้คือเพียงรัมภาน้องสาวฝาแฝดของเธอ มันเป็นไปได้อย่างไร เพลงมีนาถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอย่างต้องการรู้คำตอบ

มันเกิดอะไรขึ้น เหตุใดน้องสาวผู้แสนดี มีความเรียบร้อยประหนึ่งผ้าพับไว้ ถึงได้แต่งกายวับๆ แวมๆ เช่นนี้ ใส่ชุดเกาะอกโชว์เนินอกขาวรำไรกับกางเกงยีนส์ขาสั้นกุดอวดเรียวขาเพรียวสวย แต่งหน้าทาปากซึ่งเป็นภาพที่เพลงมีนาไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่คิดว่าจะได้เห็นด้วย

จะค้านว่าภาพนี้ไม่ใช่น้องสาวของตัวเองก็ไม่ได้ เพราะใบหน้าเครื่องเครา รูปร่างสวยงามมันบ่งชี้เช่นนั้น อีกทั้งเพลงมีนาไม่มีวันลืมหน้าตาของน้องสาว ทุกครั้งที่เธอส่องกระจกเงา ภาพของเพียงรัมภาก็จะซ้อนทับเสมอ

คำถามหลายคำถามจึงผุดขึ้นในใจ เพียงรัมภาไปทำอะไรให้กวินภพแค้นใจ ถึงขั้นพกรูปไว้เตือนความจำตลอดเวลา แล้วทำเช่นนี้ทำไม มีเหตุผลใดที่จะต้องทำ ที่สำคัญทำไมต้องใช้ชื่อเรียกว่าน้องหนู ทำไมไม่ใช้ชื่อเรียกแทนตัวเป็นชื่อจริง ราวกับว่าไม่ต้องการให้ใครรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองมากนัก หลายคำถามมะรุมมะตุ้มอยู่ในสมองที่เริ่มจะไม่สั่งการ ความงวยงงเข้ามาแทนที่ หรือว่ากวินภพจะเข้าใจผิด แต่ก็ไม่น่าจะใช่ ณ วินาทีนี้เพลงมีนามีแต่คำว่าไม่เข้าใจและสับสน วนเวียนอยู่ในสมอง

“เป็นไงทีนี้ชัดมั้ย จะยอมรับได้หรือยังว่าเธอคือน้องหนู?” เสียงของกวินภพดังขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งมองรูปภาพตาไม่กระพริบ

“ว่า...ว่าไงนะ?” เธอถามอีกครั้งหลังจากที่เสียงของเขาดึงสติของเธอให้คืนกลับมา

“ฉันถามว่า คราวนี้เธอจะเถียง และไม่ยอมรับอีกหรือเปล่าว่าเธอไม่ใช่น้องหนู?”

คำถามของเขาทำให้เธอประติดประต่อเรื่องได้คร่าวๆ กวินภพเห็นเธอก็นึกว่าเป็นเพียงรัมภาที่ปลอมตัวเป็นน้องหนู เพราะดูเขามั่นใจเกินร้อยว่าเธอต้องใช่คนที่เขาตามหา เขามีสิทธิ์ที่จะเข้าใจผิด เพราะหน้าตาของเพลงมีนาและเพียงรัมภาเหมือนกันมาก แยกแยะไม่ออกหากไม่มีความสนิทสนมกัน

เพลงมีนากำลังคิดอยู่ว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธดี การณ์ที่เธอตอบรับนั่นหมายความว่าจะต้องรับผิดแทนเพียงรัมภา หากไม่ยอมรับเธอก็ต้องถูกเขาทารุณกรรมต่างๆ นานาตามความตั้งใจของเขา อาจจะรุนแรงมากกว่าด้วยซ้ำ หากเธอยืนกรานคำเดิมว่าไม่ใช่น้องหนู

คิดไปอีกทางหนึ่งว่า หากเธอยืนยันตัวตนจริงๆ ว่าไม่ใช่น้องหนู คนที่อยู่ในรูปถ่ายคือน้องสาวสุดที่รัก เขาก็ต้องไปตามล่าเพียงรัมภามาล้างแค้นในสิ่งที่น้องสาวของเธอทำเอาไว้ คนเป็นพี่อย่างเธอมีหรือจะยอม แต่ถ้ายอมก็ไม่รู้ว่าตนเองจะเจออะไรบ้าง

“โอ๊ย โอ๊ยๆๆ จะทำยังไงดีเนี่ย จะตัดสินใจยังไงดี”

เพลงมีนาถามคำถามนี้อยู่แต่ในใจ คิดไม่ตก กลัดกลุ้มยิ่งนัก

“ว่าไง คิดนานจังเลยนะ เดี๋ยวพ่อจับโยนลงรถซะนี่ ตอบมาจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ?”

ความอดทนของกวินภพมีไม่มาก หากเธอไม่ตอบคำถาม เขาจะโยนเพลงมีนาลงจากรถจริงๆ คนที่ถูกขู่ทำหน้างอเล็กน้อยก่อนจะตอบ

“อืมๆๆ” เธอตอบไม่เต็มเสียงนัก ตอบรับไปก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เธอจะต้องกันเขาให้ออกห่างจากเพียงรัมภาให้ได้ แล้วที่ตอบรับนั้นมีเหตุผลบางอย่างซ่อนอยู่ เพลงมีนาก็ต้องการรู้เหมือนกันว่า น้องสาวผู้เรียบร้อยของตนนั้น ฝากความแค้นเรื่องอะไรไว้ให้กับเขาและคนงานในไร่ ถึงได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นดาวยั่ว

“ก็แค่นั้นแหละ ทำเป็นอิดออดไม่ยอมรับไปได้ คอยดูนะไปถึงไร่จะเอาให้หนักเลยคอยดู”

ไม่วายข่มขู่อีกรอบ เธอไม่ได้พูดอะไรโต้กลับ เนื่องจากตอนนี้สมองกำลังคิดถึงเรื่องของฝาแฝดอีกคนหนึ่งอย่างหนัก มองหาเหตุผลที่เพียงรัมภาทำอย่างนี้ไม่เจอ

การสนทนายุติลงชั่วคราว เนื่องจากเพลงมีนาคิดว่าไม่ว่าตนเองจะพูดอะไรออกไปก็ดูจะเสียเปรียบ และไม่เข้าหูเขาไปเสียหมด เงียบไว้เป็นดีที่สุด

รถยนต์คันเดิมเลี้ยวเข้ามาในเขตไร่พฤกษา ทำให้สาวเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่ในรถ มองออกไปทางนอกกระจกรถ แม้ในความมืดที่มีเพียงแสงไฟริมทางส่องสว่าง เธอยังรู้สึกถึงความเงียบสงบ ความสวยงาม ความกว้างใหญ่ของท้องทุ่งตรงหน้า ความตื่นตาตื่นใจของเพลงมีนาที่กวินภพเห็น สร้างความหมั่นไส้ให้กับเขาไม่น้อย เธอทำราวกับว่าไม่เคยเห็น ไม่เคยมาย่ำเยือนไร่แห่งนี้มาก่อน

“ทำหน้าทำตาเหมือนไม่เคยมาที่นี่ไปได้ หมั่นไส้มากเดี๋ยวถีบโครมซะนี่”

เพลงมีนาหันมามองเขาหน้างอ ก่อนจะหันกลับไปยังนอกกระจกรถต่อไป พรางทำปากขมุบขมิบพูดอยู่คนเดียว

“ก็คนไม่เคยมาจริงๆ นี่นา จะให้ทำหน้าเหมือนเคยมาได้ยังไง”

“พูดอะไร พูดให้ได้ยินสิ พูดคนเดียวเดี๋ยวพ่อตัดปากทิ้งซะเลย”

ไม่พูดเปล่ายังคว้าจับลำแขนเรียวเล็กก่อนจะกระชากอย่างแรง จนกระดูกข้อต่อระหว่างแขนกับหัวไหล่แทบหลุด ก่อนจะใช้ลำแขนของตนตวัดรัดร่างสาวเอาไว้

“โอ๊ย!!...เบาๆ หน่อยสิ ทำไมชอบใช้กำลังจังเลย เป็นคนหรือเปล่าเนี่ย?”

ปากจิ้มลิ้มต่อว่าโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะความเจ็บที่ตนเองได้รับแท้ๆ ทำให้พลั้งปากพูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูด

“ฉันใช่คนกับคนอื่น แต่สำหรับเธอ...ฉันจะเป็นมัจจุราช กลืนกินวิญญาณ พร่าอิสรภาพ เผาผลาญร่างกายของเธอให้มอดไหม้เป็นจุล”

คำพูดของเขาน่ากลัวเหลือเกิน แล้วมีบางอย่างที่น่ากลัวยิ่งกว่า ริมฝีปากร้ายของเขานั่นเล่าคือสิ่งที่น่าหวาดกลัวเป็นที่สุด เพราะตอนนี้เขานำปากหนามาทาบทับ บดเบียดเรียวปากนุ่มสวยของสาวเจ้าที่ตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง

เหมือนกับครั้งแรกที่ถูกจูบไม่มีผิด อาการตกใจทำให้กลีบปากสวยอ้าค้าง ปลายลิ้นใหญ่จึงแทรกเข้าไปสำรวจในช่องปากสาวอย่างง่ายดาย รัดเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่พยายามจะถอยร่นหนี บดขยี้ปากอิ่มหนักหน่วง แรงจุมพิตที่หักหาญน้ำใจทำให้เพลงมีนาคิดจะต่อต้าน มือเล็กผลักร่างหนา ใบหน้าสาวส่ายสะบัดเพื่อไม่ให้เขาจุมพิตเธอได้โดยง่าย ร้องประท้วงในลำคอ

ทว่ามันก็ไม่เป็นตามที่ตนเองคิดไว้ มือใหญ่จับมั่นตรงท้ายทอยของเพลงมีนา ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปไหน ส่งผลให้เธอต้องยอมรับจุมพิตในครั้งนี้ด้วยความจำยอม

เรี่ยวแรงทั้งหมดดูจะเหือดหายไปสิ้น เมื่อกระแสบางอย่างแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย จุมพิตของเขานั้นสร้างความอ่อนแอให้เกิดขึ้นในจิตใจอย่างมากมาย พ่ายแพ้ หมดแรงต้านทาน จำยอมให้เขาดื่มด่ำความหวานที่ปลูกฝังอยู่ในช่องปากของเธอต่อไป

น่าแปลกเหลือเกิน...น่าแปลกจริงๆ ปลายลิ้นของคนแปลกหน้าที่ตวัดโบกลิ้นเล็ก กวาดต้อนซอกซอนหาน้ำหวานรสเลิศอย่างกระหายและเร่าร้อน ไม่ได้ทำให้เธอเกิดความขยะแขยงหรือว่ารังเกียจ ตรงกันข้ามซาบซ่านราวกับเธอกำลังถูกไฟฟ้าสถิตเล่นงาน แปลบปลาบตลอดเวลา

ในความรู้สึกของกวินภพ เขากำลังถูกดึงตัวลงไปในบ่อโคลนพิศวาส ที่มีแต่ความร้อนรุ่ม เปลวไฟในร่างกายลุกพรึบพรับ ตอบสนองทันทีที่ริมฝีปากของตนสัมผัสกับกลีบปากสวยของเพลงมีนา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เรียวปากสวยของเธอจะทำให้เขาเกิดความคลั่งในเพลิงอารมณ์มากขนาดนี้ แค่จูบเขายังแทบแดดิ้น แล้วถ้าทำมากกว่านี้ล่ะ เขาจะเป็นเช่นไร นี่ขนาดเธอยังไม่ยั่วเขาเต็มที่ เขาก็แทบจะทานทนไม่ไหว...

...อยากจะเผด็จศึกเธอเสียตรงนี้...

ไม่มีทาง เขาไม่มีทางหลงใหลดาวยั่วคนนี้เด็ดขาด คิดได้ดังนั้น ลำแขนหนาก็คลายตัวออก ดึงริมฝีปากของตนออกห่างปากอวบอิ่ม แล้วผลักร่างของเธอไปกระแทกกับประตูรถอย่างแรง

“จำไว้นะ ถ้าเธอแอบพูด แอบนินทาฉันอีกล่ะก็ ได้เห็นดีกว่านี้แน่”

จากนั้นก็พูดใส่หน้าเธอเสียงดังลั่นรถ เพลงมีนาก้มหน้านิ่ง ปิดปากเงียบ น้ำตารินไหล เสียใจอย่างสุดแสนที่กวินภพนึกจะทำอะไรเธอก็ทำ ทำโดยที่เธอไม่สิทธิ์ห้ามปราม หรือแม้แต่ร้องขอ ทำราวกับว่าเธอเป็นดอกไม้ข้างทางที่คิดจะดึงมาเชยชมตอนไหนก็ได้ โดยไม่สนใจว่าภายในรถยนต์คันนี้ไม่ได้มีแค่เขาและเธอ นั่นเองที่ทำให้ความกระดากอายตามมา ใครบ้างที่จะไม่อาย ความอายแรกที่โดนกวินภพจูบ ยังเสริมด้วยความอายที่ว่า เขาจูบเธอต่อหน้าลูกน้องอีกสองคน

ไม่ให้เกียรติเธอเอาเสียเลย...

“นายครับถึงแล้วครับ”

จตุรทิศที่หาจังหวะหันมาบอกเจ้านายหนุ่ม รีบเอ่ยบอกกวินภพทันทีที่ปากของคนที่นั่งเบาะหลังผละห่างกัน หากเขาเปิดปากบอกเจ้านายก่อนหน้านี้ ไม่แน่ว่าอาจจะถูกถีบลงจากรถเป็นแน่

“เออกูรู้แล้ว” กวินภพตวาดลูกน้องเสียงเขียว ลูกน้องที่หันมาพูดรีบนำใบหน้ากลับไปในทิศทางเดิมทันที อารมณ์แบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ ไม่มีความปลอดภัยเอาเสียเลย ก่อนที่กวินภพจะหันไปมองหน้าดาวยั่วแสนสวยที่นั่งตัวลีบติดกับประตู

“ลงมาได้แล้ว ถึงนรกแล้วน้องหนู”

มือหนาข้างซ้ายเปิดประตูรถยนต์ มือข้างขวาเอื้อมไปจับข้อมือเล็ก ขยับตัวแล้วก้าวลงไปยืนบนพื้นปูนที่เทราบหน้าบ้านหลังงามของตน ก่อนจะกระตุกข้อมือสาวอย่างแรง และกระชากร่างอรชรให้ลงมาจากรถ ทำเหมือนกับที่เขากระชากเธอลงมาจากรถแท็กซี่ไม่มีผิด

“โอ๊ย!!...คุณบอกให้ฉันลงมาดีดีก็ได้ ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย”

คนที่นั่งอยู่บนพื้นเงยหน้ามองชายหนุ่มร่างสูงด้วยสายตาตัดพ้อ เขาช่างโหดร้ายทารุณกับเธอเหลือเกิน ชอบใช้กำลังเสมอ ไม่สงสารผู้หญิงตัวเล็กๆ บ้างเลย แต่ทว่าเธอก็ต้องทน เพราะไม่ต้องการให้คนไร้อารยะธรรมไปวุ่นวายกับน้องสาวฝาแฝดของตน ฉะนั้นพี่สาวคนนี้จะต้องทนและทน

“ก็จะทำอย่างนี้มีอะไรมั้ย?” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุดกวน

“ไร้อารยธรรม” เธอพูดเบาๆ ขณะที่ใช้มืออีกข้างปัดเศษหิน ดินทรายที่เปรอะตามร่างกาย

“อะไร พูดอะไร แหกปากพูดดังๆ หน่อยสิ เดี๋ยวเตะปากแตกเลย”

ไม่พูดเปล่ายังทำท่าทางคล้ายจะฟาดแข้งใส่เธออีกด้วย สาวเจ้าที่นั่งอยู่บนพื้นมีหรือจะไม่กลัว รีบหดศีรษะหนีตามสัญชาตญาณทันที

“ไม่ได้พูดว่าอะไรซักหน่อย แค่พูดว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษที่สุดในโลกเลย”

แม้ว่าจะกลัวแต่ความหมั่นไส้ในตัวเขาก็มีมากกว่า เธอจึงกล่าวคำประชดประชันออกไป คนที่ถูกว่ากระทบเลือดหมุนเวียนขึ้นบนใบหน้าทันควัน

“กล้าพูดประชดฉันเหรอ วอนเจ็บตัวซะแล้ว”

เขาปล่อยมือที่จับข้อมือเล็ก นำมือข้างนั้นมาจับแก้มทั้งสองข้างของเธอ ออกแรงบีบและดึงใบหน้าสาวให้สูงขึ้น ทำให้ร่างกายของเธอต้องยืดตัวสูงตามไปด้วย หากไม่ทำเช่นนี้ลำคอระหงต้องขาดออกจากลำตัวแน่นอน

“โอ๊ย!!...เอ็บ...เอ็บ”

เสียงคำว่า เจ็บ หลุดออกไม่เต็มเสียงนัก เนื่องจากปากของเธอไม่อาจขยับเปิดได้มากกว่านี้ เสียงที่ร้องครางเจ็บออกมาจึงไม่ชัดเจน

“คราวหน้าถ้าไม่อยากเจ็บตัว อย่าริอ่านพูดจากับฉันแบบนี้อีกนะน้องหนู ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของเธอ จำเอาไว้”

ร่างสาวถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ทว่าการปล่อยของเขาในครั้งนี้ไม่ธรรมดา กวินภพผลักร่างสมส่วนออกห่างด้วยการผลักกายสาวไปปะทะกับตัวรถอย่างแรง แรงจนเธอร้องโอดครวญออกมาเสียงดังลั่น

“โอ๊ย!!”

“ฉันยังมีเรื่องชำระความกับเธออีกเยอะ แค่นี้มันน้ำจิ้มๆ มีอีกหลายอย่างที่เธอต้องชดใช้ รับรองกระอักเจียนตายแน่”

เขาพูดเสียงหนักแน่น แววตาที่มองเพลงมีนานั้นแข็งตึง คนที่ถูกข่มขู่ยืดตัวตรงใช้ฝ่ามือนุ่มๆ คลำตรงสะโพกของตัวเอง เงยหน้าเล็กน้อยเพราะความเจ็บ ดวงตาสาวเบือนหน้ามองไปยังทิศทางอื่นที่ไม่มีร่างของชายที่ชอบพูดคำขู่ แต่สิ่งที่เธอหันไปมองนั้น ในความรู้สึกของเธอมันบอกว่ามีพลังแห่งความหวาดกลัวปกคลุมอยู่ เธอมองบ้านหลังตรงหน้าราวกับว่าไม่เคยเจอะเคยเจอมาก่อน นำพาความความหมั่นไส้ให้เขาอีกรอบ

“มองอย่างกับไม่เคยเห็นไปได้ ทั้งๆ ที่เธอเดินอยู่ในบ้าน ในไร่ของฉันจนจะปรุอยู่แล้ว”

เสียงของเขาทำให้เธอต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทาง อยากจะตะโกนใส่หน้าเขาเหลือเกินว่า เธอไม่ใช่น้องหนู ไม่ใช่คนที่สร้างความเจ็บแค้น ไม่ใช่คนที่เคยอยู่ที่นี่ ไม่รู้จักไร่แห่งนี้ รวมทั้งไม่รู้จักเขาด้วย แต่ทว่าเธอก็ทำไม่ได้...ทำไม่ได้

“แล้วที่นี่ที่ไหนคะ?”

เป็นคำถามที่ไม่สมควรจะถามออกไปเลย แต่เธอก็อยากจะรู้ว่าที่ที่ตนเองยืนอยู่นั้น คือสถานที่ใด

“อย่ามาทำเป็นไขสือจำที่นี่ไม่ได้หน่อยเลย แต่ถ้าเธออยากจะได้คำตอบ ฉันก็จะตอบให้ ที่นี่ก็คือไร่พฤกษา ไร่ที่เธอฝากความฉิบหายเอาไว้ให้ยังไงล่ะ ชัดมั้ย?”

เขาตอบเสียงดัง มองเพลงมีนาอย่างกินเลือดกินเนื้อ นึกถึงเรื่องนี้ครั้งใด ของขึ้นทุกที

เพลงมีนาได้ยินคำตอบแล้วก็นึกอยากจะตบปากตัวเองที่ถามออกไปเช่นนั้น ทำให้กวินภพเปลี่ยนท่าทางเป็นแข็งกร้าว น่ากลัว เธอกลัวว่าเขาจะจับร่างของเธอฉีกออกเป็นชิ้นๆ เปลี่ยนเรื่องพูดน่าจะดีที่สุดในเวลานี้

“เอ่อ...จะให้ฉันพักที่นี่กับคุณเหรอ?”

เธอเอ่ยถามอย่างเกร็งๆ มองบ้านหลังใหญ่ที่ไม่คุ้นตาอีกครั้ง ใจยังประหวั่นไม่กล้าเดินตามเขาเข้าไปในบ้าน เพราะเกรงว่าความปลอดภัยจะไม่มี

“ฉันคงให้เธอไปพักที่บ้านพักคนงานหรอกนะ ประเดี๋ยวเธอก็หนีไปอีก ฉันขี้เกียจตามตัวเธออีก ฉันเตรียมห้องไว้ให้เธอแล้ว ตามมาก็แล้วกัน”

ระหว่างทางที่มาไร่พฤกษา เขาได้โทรศัพท์มาหาจักรพงษ์ให้จัดเตรียมห้องพักพิเศษไว้ให้กับเพลงมีนา ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของเธอ

“ฉันนอนหน้าบ้านก็ได้ รับรองไม่หนีไปไหน ฉันสัญญา” พูดพร้อมกับชูสองนิ้ว

“เชื่อตายล่ะ เธอน่ะมันทั้งยั่วเก่ง แผนสูง ไม่มีทางที่เธอจะพูดตามสัญญาแน่นอน แต่เธอจะไม่นอนในห้องที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้ก็ได้นะ ฉันไม่ว่า”

รอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าสาวทันที หลังจากได้ยินประโยคท้าย รอยยิ้มนั้นผุดผายได้ไม่กี่วินาทีก็ต้องหุบโดยพลันเมื่อประโยคต่อมาของเขา

“แต่ฉันจะนอนเป็นเพื่อนเธอ นอนกอดเธอข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะหนาวกลายเป็นปอดบวมตาย ว่าไงจะเอายังไง?”

“ถามมาได้ว่าจะเอายังไง ก็ต้องทำตามที่เขาพูดในตอนแรกอยู่แล้ว อุตส่าห์บอกว่าจะนอนข้างนอกเขายังจะมานอนเป็นเพื่อนอีก คนบ้าอะไรก็ไม่รู้”

เธอบ่นพึมพำในใจ ไม่กล้าเอ่ยปากออกไป

“ด่าฉันในใจหรือไง ด่ามากๆ ระวังนะจะจูบให้ขาดใจเลย ว่าไงตกลงจะนอนที่ไหน ถ้าไม่รีบพูดพ่อจะฟันมันตรงเนี่ยแหละ” พูดไปด้วยเท้ายาวๆ ก็เดินเข้าหาร่างสาวที่เดินถอยหลังหนี

“นอนห้องที่คุณบอกฉันก็ได้”

เธอตอบออกไปเสียงรัว หัวใจเต้นโครมครามหาจังหวะไม่ได้เลย กลัวความบ้าบิ่นของเขาหนักหนา ชายหนุ่มชอบสั่งยิ้มเย็น ก่อนจะเดินฉุดข้อมือสาวให้เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน เพลงมีนาที่ไม่ชินกับการใกล้ชิดเกินงามจากชายแปลกหน้า พยายามจะบิดข้อมือของตนเองให้เป็นอิสระ ทว่าข้อมือใหญ่ยิ่งรัดข้อมือเล็กแน่นขึ้นกว่าเดิม จนสาวเจ้าเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อยู่เฉยๆ ไม่ต้องคิดจะทำอะไรทั้งนั้น ถ้าทำให้ฉันอารมณ์เสียมากไปกว่านี้ล่ะก็ เจอดีแน่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel