บทที่ 1 ความสัมพันธ์ลับ
5 : 45 pm
@มหา'ลัย
"พี่คุณคะ เมื่อไหร่จะกลับ" เสียงเล็กของเจ้าขาเอ่ยถามขึ้นด้วยความเบื่อหน่าย ที่เธอต้องมาทนนั่งรอพี่ชายทำงานอยู่แบบนี้
ถ้าไม่ติดว่าข้างนอกฝนตกหนัก และเธอขับรถไม่เป็น ป่านนี้เธอคงหนีกลับก่อนแล้ว คงไม่ต้องมาทนนั่งๆนอนๆอยู่กับกองงานโปรเจ็คของพี่ชายแบบนี้หรอก
"มึงไปส่งน้องกลับก่อนไหม น้องนั่งๆนอนๆรอมึงมาตั้งแต่บ่ายแล้วนะ" เสียงของเจไดเพื่อนสนิทในกลุ่มเอ่ยพูดขึ้นอย่างออกความคิดเห็น
"ใกล้จะเสร็จแล้ว" แต่เสียงเรียบนิ่งของเจ้าคุณก็ตอบกลับมาประโยคเดิมซ้ำๆ ทำเอาเจ้าขาถึงกับหน้างอขึ้นมาทันทีที่ได้ยินพี่ชายตัวเองพูดคำนี้อีกแล้ว
"พี่คุณพูดแบบนี้มาสามรอบแล้วนะ" พูดจบเธอก็สะบัดหน้าหนีไปอีกทางด้วยท่าทางงอแง
แต่พอสะบัดหน้าหันหนีมาอีกทาง ก็เจอกับสายตาคู่หนึ่ง กำลังจ้องมองมาที่เธออยู่อย่างไม่วางตา และพอเจอสายตาคู่นั้นเข้าไป ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ เมื่อเขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจส่งมาให้
ติ๊ง~
เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชันไลน์ดังขึ้น ทำให้เธอต้องละสายตาจากเขา แล้วก้มลงมองดูโทรศัพท์ในมือตัวเอง
typhoon : ถ้ายังงอแงร้องจะกลับ คืนนี้ได้ร้องทั้งคืนแน่
เธอไล่สายตาอ่านข้อความที่ปรากฎบนหน้าจอ แล้วต้องเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปยังเจ้าของข้อความเมื่อกี้นี้ทันที
jaokha : คนนิสัยไม่ดี!
typhoon : เสื้อวางอยู่บนโต๊ะไปเอามาใส่
เธอพิมพ์ข้อความตอบกลับไปไม่กี่วินาที เขาก็พิมพ์ตอบกลับมาทันที ก่อนที่เธอจะมองไปที่โต๊ะตามที่เขาบอก แล้วเห็นเสื้อแจ็คเก็ตตัวใหญ่ของเขาวางอยู่บนโต๊ะ แต่ใครจะกล้าลุกเดินไปเอามาใส่ล่ะ ทั้งห้องไม่ได้มีแค่เธอกับเขานะ ยังมีพี่ขายของเธอ และเพื่อนๆเขาอีกตั้งหลายคน ที่นั่งทำงานกันอยู่ในห้องนี้ด้วย
เจ้าขาหันกลับมาพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะข้างนอกฝนตกหนัก เลยทำให้อากาศค่อนข้างที่จะเริ่มหนาวเย็น และเขาก็คงจะเห็นว่าเธอนั่งลูบแขนตัวเองอยู่นาน ถึงได้บอกให้ไปหยิบเสื้อเขามาใส่คลายหนาว มือเล็กที่กำลังจะกดพิมพ์ข้อความส่งกลับไปอีกครั้ง ก็ต้องหยุดชะงักไป เมื่อหน้าจอโทรศัพท์ของเธอนั้นมืดดับสนิทไปแล้ว
"พี่คุณยืมสายชาร์จแบตหน่อยค่ะ" เจ้าขาหันหน้ากลับมาเอ่ยพูดกับพี่ชายอีกครั้ง เมื่อสาเหตุของหน้าจอโทรศัพท์มืดดับไป เกิดจากการที่แบตโทรศัพท์เธอหมด
"ไม่ได้เอามา ไปเอาของไอ้ฝุ่น" เจ้าคุณเอ่ยตอบทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง เอาแต่จดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า
"ยืมสายชาร์จหน่อย..ค่ะ" เจ้าขาเดินตรงมาที่บุคคลที่พี่ชายเธอบอก ก่อนจะเอ่ยพูดกับเขาเสียงเบา
"ในกระเป๋า" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้น พร้อมกับพยักหน้าไปที่กระเป๋าตัวเอง ที่วางอยู่บนโต๊ะเดียวกับที่เพื่อนๆเขานั่งอยู่
เธอเองก็หันมองตามไปที่กระเป๋าเขา แล้วเดินไปหยิบสายชาร์จแบตจากกระเป๋าของเขาทันที โดยไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีก
"พี่คุณขอชาร์จแบตหน่อย" เมื่อได้สายชาร์จตามต้องการแล้ว แต่ดันไม่มีปลั๊กว่างให้ใช้งาน เธอเลยต้องเอ่ยขอพี่ชายอีกครั้ง
"ไปชาร์จปลั๊กที่มันว่างสิ" เจ้าคุณเงยหน้าขึ้นจากงาน มาบอกกับน้องสาวตัวเองด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ที่เหมือนจะติดรำคาญนิดๆ
พอได้ยินน้ำเสียงที่เหมือนจะรำคาญของพี่ชาย เธอก็หอบเอาข้าวของของตัวเอง ที่วางอยู่บนโต๊ะเดินกลับมาหาเจ้าของสายสาร์จแบต ด้วยใบหน้าบึ้งตึงอย่างไม่พอใจ
พรึบ!
เจ้าขาทิ้งตัวนั่งลงที่ว่างอย่างแรง ด้วยความไม่พอใจที่เธอต้องมาทนนั่งเฝ้าพวกพี่ๆทำงานอยู่แบบนี้ แต่เพียงแค่เธอนั่งลง คนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที ทำให้เธอได้แต่มองตามด้วยความงุนงง ก่อนที่ไม่นานเขาจะเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งลงข้างเธออีกครั้ง พร้อมกับกระเป๋าและเสื้อแจ็คเก็ตตัวใหญ่ของเขา
"อย่ามาเบียดสิ" เสียงเล็กเอ่ยออกมาเบาๆ เมื่อคนตัวสูงข้างๆ ขยับเข้ามานั่งชิดกับเธอ
"อากาศมันเย็น จะได้อุ่น" ไต้ฝุ่นเอ่ยตอบเสียงเบาราวกับกระซิบ พร้อมกับใช้เสื้อแจ็คเก็ตตัวเองคลุมขาให้กับเธอ
"เดี๋ยวคนอื่นเห็นค่ะ" เธอยังคงกระซิบบอกเบาๆ พร้อมผลักเขาออกห่าง แต่เขากลับนั่งนิ่งไม่ไหวติง ก่อนจะหันกลับไปทำงานตัวเองต่อหน้าตาเฉยโดยที่ไม่สนใจเธออีก
"มีขนมอยู่ในกระเป๋า" น้ำเสียงเรียบนิ่งของไต้ฝุ่นเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทั้งที่สายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่กับงานที่ทำค้างไว้ตรงหน้า
พอได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบเปิดกระเป๋าเขาออกดูทันที ตอนที่ไปหยิบสายชาร์จแบตก็ไม่ทันได้สังเกต ว่ามีขนมอยู่ในนั้นด้วย ก่อนจะหยิบออกมาดูก็เห็นว่าเป็นคุกกี้กล่องเล็ก ที่เป็นขนมโปรดของเธอ ที่ตอนนี้มันมีอยู่ในกล่องแค่ไม่กี่ชิ้นเอง
"พี่ฝุ่นกินไหม" มือเล็กหยิบคุกกี้ออกมาแล้วยื่นไปตรงหน้าเขา พร้อมเอียงคอถามอย่างน่ารัก
"ไม่กลัวคนอื่นเห็นแล้วเหรอ?"
คำถามที่ถูกถามกลับมา ทำให้เธอต้องรีบดึงตัวเองมานั่งที่เดิมทันที เพราะลืมตัวนึกว่าอยู่กันแค่สองคน ถึงได้เผลอทำตัวอ้อนใส่เขาไปแบบนั้น
"ป้อนหน่อย" เสียงของคนตัวสูงข้างๆเอ่ยขึ้นอีกครั้ง โดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าเธอ
"ให้ชิ้นเดียวนะ" เธอบอกพร้อมหยิบคุกกี้ยื่นไปจ่อที่ปากเขา สายตาก็สอดส่องมองซ้ายมองขวา ดูว่ามีคนมองมาทางนี้อยู่หรือเปล่า
"ทำไม?"
"เดี๋ยวเค้าไม่อิ่ม ^^"
"หึ กินเข้าไปจะได้เลิกงอแง" ไต้ฝุ่นถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มบางที่หันมายิ้มให้เธอ แล้วหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อ
ชั่วโมงต่อมา
ผ่านไปกว่าชั่วโมงเศษ ที่คนตัวเล็กข้างๆเงียบไป พอหันไปมองถึงได้รู้ว่าที่เธอเงียบไปนั้นเพราะเธอหลับ หลับทั้งที่กล่องคุกกี้ยังคามืออยู่แบบนั้น
"อื้อ~"
เสียงครางเบาๆของคนตัวเล็กข้างๆ ดังขึ้นในลำคอ เมื่อถูกเขาจัดแจงท่านอนให้เธอใหม่ พร้อมกับดึงเสื้อแจ็คเก็ตที่คลุมขาเธออยู่ ขึ้นมาคลุมไหล่ให้เธอแทน
"ง่วง" น้ำเสียงงัวเงียดังขึ้นเบาๆอีกครั้งอย่างงอแง พร้อมดวงตากลมโตที่ปรือตาขึ้นมามองหน้าอย่างขัดใจ ที่ถูกรบกวนเวลานอน
"ง่วงก็นอน" เขาเอ่ยบอกออกมาเบาๆ
สายตาคมก็หันมองไปรอบห้อง ที่มีเพื่อนๆทั้งทำงานกันหน้าเครียด โดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง เขาจึงใช้มือกันศีรษะเล็กของเธอ ให้เอนซบลงกับไหล่ของเขา
"กอดหน่อย" เสียงเล็กงอแงให้เขากอด เมื่อเธอกอดตวัดแขนโอบกอดเขาไว้ แต่เขาไม่ได้กอดตอบเธออย่างทุกครั้ง
"ทำงานอยู่"
"ปกติทำงานอยู่ก็กอดได้" เธอยังคงงอแงออดอ้อนให้เขากอดเธอไว้ พลางถูแก้มไปมากับไหล่ของเขา พร้อมกับขยับตัวซุกเข้าหาเขามากขึ้น ฝนที่ยังคงตกหนักไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทำให้อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ เธอถึงได้เรียกร้องหาความอบอุ่นจากเขามาคลายหนาว
"งอแงเก่ง" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะยอมยกแขนขึ้นโอบกอดเธอไว้ ซึ่งเธอเองก็รีบซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขาทันทีที่ถูกเขาโอบกอดไว้
เธอคงลืมไปแล้วจริงๆ ว่าในห้องมีกันอยู่หลายคนถึงได้งอแงและทำตัวอ้อนใส่เขาแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ถึงใครจะเห็นหรือรู้ก็ให้รู้ไป เพราะสำหรับเขา เขาเองก็ไม่ได้แคร์สายตาใครอยู่แล้ว และไม่ได้อยากปิดเรื่องระหว่างเขากับเธอด้วย ถ้าไม่ติดว่าคนตัวเล็กที่กำลังกอดเขาแน่นอยู่ตอนนี้ขอไว้ ป่านนี้คงรู้กันไปทั่วว่าเขาและเธอนั้นเป็นอะไรกัน..
แต่จะว่าไปแล้ว.. ทั้งเขาและเธอต่างก็ไม่ได้มีชื่อเรียกในความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ที่ชัดเจนนัก เพราะทั้งเขาและเธอ ต่างก็ไม่ได้มีใครเรียกร้องสถานะซึ่งกันและกัน จะเรียกว่าเป็นความสัมพันธ์ลับๆ ที่รู้กันแค่สองคนก็ได้...
…