สาวน้อยรับจ้าง(2)
หญิงสาวหน้ากลมคิ้วเข้มและตาหวานไม่แพ้ใครถามด้วยความสงสัยทันทีเพราะก่อนหน้านี้ท่านประธานของบริษัทจะคุยกับเธอก็แค่เรื่องงานเท่านั้นถึงแม้ว่าหลายครั้งแพรวาจะเคยสังเกตว่าเธอถูกเจ้านายแอบมองแต่ด้วยสถานะที่เป็นนักศึกษาฝึกงานก็คิดว่าเขาคงกำลังจับจ้องเธออยู่เพื่อที่จะได้ให้คะแนนในการฝึกงานได้อย่างถูกต้อง
“ผมมีข้อเสนอที่จะให้...คุณอย่าเพิ่งปฏิเสธจนกว่าจะฟังจบ”
ปราบเปลี่ยนอิริยาบถทันทีเขาเปลี่ยนมานั่งในท่าหลังตรงสองมือวางอยู่บนโต๊ะแววตาจับจ้องมาที่คู่สนทนาเหมือนต้องการสะกดเธอไว้ไม่ให้พูดอะไรขึ้นมาก่อนที่เขาจะพูดข้อเสนอจนหมด
“คุณทำให้ฉันรู้สึกกลัวดังนั้นรีบพูดมาเถอะค่ะ”
แพรวาได้ยินแบบนี้ยิ่งรู้สึกใจคอไม่ดีเธอเป็นห่วงทั้งอาการแม่และเป็นห่วงเรื่องผลของการฝึกงานเพราะถึงแม้บริษัทจะส่งคะแนนไปแล้วแต่เธอไม่รู้ว่าในซองสีน้ำตาลนั้นมีคะแนนและข้อมูลอะไรบ้างที่ส่งกลับไปมหาวิทยาลัยเพราะถ้าเธอฝึกงานไม่ผ่านเท่ากับว่าต้องเสียเวลาไปถึง 1 ปีในการที่จะหางานทำเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวและรักษาแม่ที่กำลังนอนรอความหวังจากเธออยู่
“ผมต้องการจ้างคนไปเป็นภรรยาและเป็นคุณแม่ให้กับลูกที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็วๆนี้ซึ่งความจริงแล้วเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของผมแต่เป็นลูกของน้องชายซึ่งความลับนี้ไม่ว่าคุณจะตอบตกลงหรือไม่ตกลงจะต้องเป็นความลับที่ไม่มีวันแพร่งพรายออกไป”
“คุณหมายความว่าอย่างไรกันคะ”
แพรวาลืมตัวเธอพูดแทรกขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องยอมเงียบลงเมื่อเห็นท่าทางเอาจริงของเจ้านายที่ตอนนี้แทบจะเอนหน้ามาติดกับเธอและสายตาของเขาพี่มองทอดมามันมีความจริงจังอยู่ในนั้นมาก
“เราจะเป็นสามีภรรยากันแค่ในนามคุณมีหน้าที่แค่ดูแลลูกของผมให้ดีรับบทเป็นภรรยาแต่ไม่ต้องกลัวผมจะไม่แตะต้องคุณเด็ดขาดยกเว้นแต่คุณจะเป็นฝ่ายอยากให้ผมแตะต้องคุณ”
ท่านประธานที่หวังจะพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกอารมณ์เย็นขึ้นแต่กลายเป็นว่าคำพูดของเขามันเป็นเหมือนคำดูถูกหญิงสาวฟังแล้วถึงกับหัวร้อนขึ้นมา
“ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะเพราะฉันคงไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นที่พออยู่กับผู้ชายเข้าหน่อยก็อยากจะนอนกับคนนั้นคนนี้ไปทั่วแล้วข้อเสนอของคุณที่ให้มาถ้าฉันตอบตกลงอะไรบ้างที่ฉันจะได้”
นักศึกษาฝึกงานที่ได้แต่ยิ้มและพูดว่าค่ะเท่านั้นเวลาที่ถูกเจ้านายสั่งงานวันนี้เธอกลับเป็นหญิงสาวที่เสียงแข็งและต่อล้อต่อเถียงอย่างมีอารมณ์
“ค่ารักษาพยาบาลของแม่เธอทั้งหมดจนกว่าท่านจะหายบ้านที่เธอจำนองไว้แต่ในส่วนของที่ดินผมจะพยายามซื้อคืนให้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหมจึงไม่ขอรับปากในเรื่องนี้”
สาวน้อยรู้สึกว่าข้อเสนอนี้น่าสนใจและมันดูจะเป็นความหวังเดียวในชีวิตของแพรวาตอนนี้แต่อีกหัวใจของหญิงสาวเธอเองยังคงรักศักดิ์ศรีของตัวเองถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะยืนยันว่าการรับจ้างครั้งนี้เป็นเพียงแค่ในนามแต่ผู้คนในสังคมก็จะต้องรับรู้ว่าเธอกับเขาเป็นสามีภรรยากันและที่สำคัญเขาต้องการให้เธอมีชื่อ ในสูติบัตรเป็นมารดาของเด็กที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ระยะของโรคที่แม่เธอเป็นอยู่มันรอเวลาไม่ได้และข้อเสนอที่ผมให้คุณเองก็ไม่ได้ต้องเสียศักดิ์ศรีอะไรมากมายเพียงแต่ว่าคุณอาจจะต้องเป็นแม่ของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ชีวิตของเขาจะไม่มีโอกาสได้รู้จักกับแม่จริงๆเลยสักครั้งสำหรับผมมันเรียกว่าความเสียสละและคุณเองก็จะได้เป็นลูกที่กตัญญูด้วยแต่ถ้าคุณไม่สนใจข้อเสนอนี้ก็ไม่เป็นไรเพราะคนเราบางครั้งก็รักตัวเองมากกว่าชีวิตคนอื่น”
“ฉันรับงานค่ะแต่คงต้องขอดูสัญญาอีกที”
ปราบถึงแม้จะดีใจแค่ไหนแต่ก็ต้องพยายามเก็บซ่อนอารมณ์ไว้เพราะตอนนี้เขาอยู่ในบทบาทเจ้านายจอมเก๊กที่มักจะมีสีหน้าบึ้งตึงใส่ลูกน้องเป็นประจำ
สัญญาที่ชายหนุ่มได้นั่งร่างไว้ตั้งแต่เมื่อคืนถูกส่งให้หญิงสาวที่เอื้อมมือมารับด้วยอาการที่ดูไม่ปกติเท่าไรเพราะตอนนี้มือเล็กของเธอสั่นไหวเหมือนคนกำลังรู้สึกกลัวหรือลังเลใจบางอย่าง
“ลองอ่านดูก่อนก็ได้นะตราบใดที่คุณยังไม่เซ็นสัญญาก็แปลว่ายังไม่ได้รับงานแล้วไม่ต้องกลัวว่าถ้าคุณไม่ตอบตกลงจะมีผลเสียอะไรกับคุณแต่ผมแค่อยากให้คิดว่าคุณจะได้อะไรจากสัญญาฉบับนี้และสิ่งนั้นมันมีคุณค่าแค่ไหน”
ปราบรู้ดีว่าเขาควรจะพูดแบบใดให้หญิงสาวรู้ว่าสัญญาฉบับนี้จะทำให้ชีวิตของแม่เธอมีความหวังขึ้นอีกครั้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เคยต้องสูญเสียไปเธอจะได้มันกลับคืนมาซึ่งปกติแล้วถ้าเธอเรียนจบและออกไปหางานทำคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10 ปีในการที่จะหาเงินมาไถ่บ้านและซื้อที่ดินทั้งหมดคืนซึ่งของเรานั้นมันสามารถรอได้แต่สิ่งที่เธอไม่สามารถรอได้ต่อไปอีกนั่นคือชีวิตของมารดาที่นับเวลาถอยหลังลงในทุกๆวัน
แพรวาตัดสินใจยอมเซ็นตกลงตามสัญญาทันทีทั้งที่เธอก็รู้ว่าสิ่งที่เธอตัดสินใจทำมันจะทำให้ความหวังที่เธอเคยคิดว่าสักวันเธอกับคนรักเก่าจะกลับมาคืนดีกันอีกครั้งเป็นเพียงแค่ความฝันตลอดไปเพราะแค่ครอบครัวของเธอมีภาระหนี้มากมายเขายังทิ้งเธอไปแบบนี้และถ้าวันหนึ่งเขาได้มารับรู้ว่าเธอมีลูกและผ่านการมีสามีมาแล้วเขาคงไม่มีทางรับได้แต่เวลานี้แพรวาเลือกที่จะทำตามสิ่งที่ถูกต้องนั่นก็คือการเป็นลูกที่ดีหาทางรักษาแม่จนสุดกำลัง
นักศึกษาฝึกงานเดินออกจากห้องไปแล้วปราบไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องนั่งยิ้มด้วยความดีใจอยู่คนเดียวส่วนหนึ่งคงเกิดจากการที่เขาสามารถหาคุณแม่รับจ้างให้ลูกได้แต่อีกใจหนึ่งชายหนุ่มก็มั่นใจว่าความสุขที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ได้เกิดจากแค่ลูกของเขากำลังจะมีแม่แต่มันเหมือนชีวิตของเขากำลังจะไม่เหงาอีกต่อไป
ทุกการตัดสินใจของนักธุรกิจหนุ่มอยู่บนความคิดของเขากับน้องชายแต่ยังมีอุปสรรคที่เขายังไม่กล้าเผชิญความจริงนั่นคือพ่อและแม่ที่ไม่พร้อมจะต้อนรับผู้หญิงที่เขาไม่ได้เลือกและนั่นคือสิ่งที่ปราบไม่ได้บอกให้แพรวาได้รู้เพราะเขาแค่คิดว่าเธอไม่ได้เข้ามาเป็นภรรยาของเขาจริงๆคงไม่รู้สึกอะไรถ้าต้องเผชิญกลับฤทธิ์เดชของแม่สามี
ปรีดาเป็นแม่สามีที่รักลูกชายมากเธอเคยตั้งใจจะจับลูกชายคนโตคลุมถุงชนกับลูกสาวของเพื่อนแต่ปราบก็ไม่เคยให้ความร่วมมือจนในที่สุดปรีดาก็เปลี่ยนไปให้ความสนใจกับลูกชายคนเล็กซึ่งมักจะทำอะไรตามใจเธอเสมอและนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ปราบอดตัวไม่ได้ว่าแพรวา คงจะต้องรับศึกหนักและยังไม่รวมถึงบรรดาสาวๆที่พากันมาทอดสะพานอยากได้ท่านประธานหนุ่มเป็นสามีที่เมื่อทันทีที่เขาประกาศว่าเขามีภรรยาแล้วผู้หญิงเหล่านั้นคงจะไม่ยอมถอยไปง่ายๆแต่คงจะกลับเดินหน้าทำให้เขากับภรรยาเลิกกันเป็นแน่ปราบก็ได้แต่หวังว่าแพรวาจะเข้มแข็งพอที่จะทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่รับจ้างจนถึงวันครบกำหนดสัญญา