1
“เป็นอะไรของแกทำหน้ายังกับขี้ไม่ออกมาหลายวัน” ประโยคทักทายของเพื่อนปากมอมทำให้วินิทราหน้างอหนักกว่าเดิม
“นี่คือปากแกใช่ไหมไอ้คุณกายสิทธิ์” วินิทรา อารยะศรีเทพ หรือมีชื่อเล่นว่าฝันหวานทำหน้างอใส่เพื่อนในทันทีที่โดนทักทายเช่นนั้น
กายสิทธิ์ ฤทธิไกรเป็นลูกชายของคุณกชมน เศรษฐีนีผู้แสนร่ำรวยด้วยธุรกิจค้าเพชรพลอยและอัญมณีล้ำค่าของเมืองภูเก็ต
“ที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงินอีกแล้ว พ่อไปก่อหนี้อีกแล้ว ฉันเบื่อแล้วเซ็งมากเลยแก ทำงานเหนื่อยแค่ไหนเงินไม่เคยเหลือเก็บ โดนพ่อผลาญจนหมด”
“รอบนี้ไปเป็นหนี้อะไรอีกล่ะ” กายสิทธิ์พอรู้ว่าบิดาของเพื่อนสาวไม่เอาไหน ชอบก่อหนี้สินให้กับครอบครัว
“เป็นหนี้เพราะเมาแล้วไปเซ็นค้ำประกันให้เพื่อน เพื่อนไม่จ่ายหนีไปแล้ว เจ้าหนี้เลยมาทวงเอากับพ่อ ตั้งหลายแสนเชียวนะ ครั้งก่อนกว่าจะปลดหนี้ได้ ฉันทำงานจนขาลาก” เธอทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหารให้กับกายสิทธิ์ บ้านของกายสิทธิ์รวยมาก มีธุรกิจหลายอย่าง แต่กายสิทธิ์เองอยากมีกิจการเป็นของตัวเองจึงมาเปิดร้านอาหาร อาจเพราะเขาชอบทำอาหารก็เป็นได้
ร้านอาหารของกายสิทธิ์เป็นอาหารทะเลที่มีทุกเมนู เธอเรียนจบก็โชคดีที่ได้ทำงานกับเขานั่นแหละ
“ฉันช่วยแกเอง ไม่ต้องกังวลไป” กายสิทธิ์ดึงเพื่อนรักมาพิงไปกับไหล่กว้างบึกบึนของเขา
เขารู้ตัวเองดีว่าคิดไม่ซื่อกับเธอ แอบรักเพื่อนสาวคนนี้มานาน เคยพูดเล่น ๆ กับเธอตั้งหลายครั้งว่าเป็นแฟนกันไหม เป็นแฟนกันนะ แต่เธอกลับปฏิเสธบอกว่าเป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว มันยาวนานดี อีกอย่างก็คือไม่อยากเป็นแฟน เพราะกลัวมีปัญหากัน
คำตอบขำๆ นั้นทำให้เขาต้องล่าถอยออกมา หรือเพราะเขาขอเธอเป็นแฟนแบบไม่จริงจัง ทำเป็นเล่น ๆ ขำ ๆ เธอเลยปฏิเสธ เขาเลยยอมลงทุนจะขอเธอจริง ๆ แต่โดนดักคอเอาไว้เสียก่อน เพราะวันนั้นเป็นวันที่เขาอกหักจากแฟนสาวชื่อมินตรา
เรื่องของเรื่องก็คือ เขาไม่ได้อยากจะเป็นแฟนหรือรักอะไรมินตราในฐานะคนรักเลย แต่เขาแค่อยากลองใจเธอว่าถ้าเขาไปจีบผู้หญิงคนอื่น แล้วให้เธอไปเป็นแม่สื่อให้ เธอจะทำยังไง เขาคิดว่าเธอจะปฏิเสธ หึงหวงหรือชอบเขาเหมือนเขาชอบเธอบ้าง แต่ไม่เลย เธอกลับไปเป็นแม่สื่อให้เขาเสียอย่างนั้น เขาก็เลยประชดเธอแบบที่เธอก็ไม่รู้เลยสักนิด ยอมเข้าไปจีบมินตราจริง ๆ แล้วได้เป็นแฟนกัน แต่ต้องเลิกรากันไปเพราะมินตราหนีไปแต่งงานกับคนอื่น
อาจเพราะเขาไม่ได้จริงจังหรืออยากแต่งงานกับเธอจริง ๆ เธอเลยทิ้งเขาไป เขาเลยแกล้งอกหักเมาหนัก ให้วินิทรามาดูแล อ้อนเธอขอเป็นแฟน แต่โดนปฏิเสธ เธอบอกว่าเขากำลังอกหักเลยอยากมีใครสักคน ไม่ได้รักไม่ได้ชอบเธอจริง ๆ
“ฉันจะอยู่กับแกไม่ไปไหน แต่ไม่ใช่ในสถานะแฟนใหม่ของแก แกกำลังอกหักฉันรู้ ฉันอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่ไง แกไม่ได้อยู่คนเดียว”
ประโยคนั้นในวันนั้นของเธอทำให้ความหวังของเขาดับวูบ แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ แสดงความจริงใจคอยช่วยเหลือเธอเสมอ ตอนพ่อเธอไปก่อหนี้เขาก็จัดการจ่ายให้ เธอเป็นคนมีศักดิ์ศรีไม่ยอมเอาเงินเขาฟรี ๆ แต่ให้เขาหักเงินเดือนของเธอ เขาไม่อยากทำ แต่ถ้าไม่ทำเธอก็ไม่รับเงิน เขาเลยขึ้นเงินเดือนให้เธอเสียเลย เพราะเธอจะได้มีเงินเดือนเท่าเดิม หลังจากถูกหักไปแล้ว
เรียนจบเขาก็กลัวเธอจะไปทำงานที่อื่น เขาเลยขอที่บ้านเปิดร้านอาหาร และโชคดีที่มันไปได้สวย เลยขอให้เธอมาเป็นผู้จัดการร้านให้
“ฉันไม่มีประสบการณ์จะทำได้เหรอ” วินิทราเคยพูดแบบนั้น แต่เธอกลับทำงานได้ดีเยี่ยม จนทำให้เขานึกทึ่ง
“ความฝันฉันเลยนะโว้ย อยากเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง แกจะต้องช่วยฉันทำความฝันให้สำเร็จ” เขาเอ่ยบอกเธอหลังจากเรียนจบไม่นาน และเธอยังไม่มีงานทำ กำลังจะไปสมัครงานที่อื่น ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด
เขาชอบทำอาหารเลยเรียนสาขาคหกรรม เป็นชายคนเดียวที่เรียนสาขานี้ นอกนั้นเป็นเพศที่สามและผู้หญิง
ในขณะที่วินิทราเรียนบริหารธุรกิจสาขาการจัดการและบริหารทรัพยากรมนุษย์
เดี๋ยวนี้มหาวิทยาลัยเปิดสาขาวิชาหลากหลาย แล้วแต่ว่าใครจะอยากเรียนสาขาไหน
ตอนสมัยเรียนเขาให้น้องสาวฝาแฝดของตัวเองคอยตามสืบตามขัดขวางผู้ชายทุกคนที่มาจีบวินิทราและมันก็สำเร็จ จนหลายคนในมหาวิทยาลัยคิดว่ากชนิภาหรือยายนิน้องรักของเขาเป็นคู่เลสเบี้ยนกับวินิทรา
แต่เขาก็ยินดีที่จะให้ใคร ๆ คิดเช่นนั้นเพื่อทำทุกวิถีทางไม่ให้วินิทรามีแฟนหรือคนรัก
“ครั้งก่อนแกก็ช่วยฉันแล้ว เงินตั้งหลายแสน ฉันเกรงใจ”
“ฉันก็ไม่ได้ให้แกช่วยฟรี ๆ ฉันเองก็มีเรื่องจะให้แกช่วยเหมือนกัน” กายสิทธิ์เอ่ยขึ้นมาก่อนจะถอนใจ
“แกมีเรื่องอะไรให้ช่วยบอกฉันมาเลย ฉันยินดีช่วยแกทุกอย่าง ขนาดแกยังช่วยฉันเลย”
“แต่ฉันว่าไม่ดีกว่า ฉันเกรงใจแก เพราะเรื่องที่จะให้ช่วยไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากช่วยฉันหรอก” กายสิทธิ์แกล้งถอนใจหนักขึ้น ก่อนจะตีหน้าเศร้า หันหลังหนี ทำท่าทีเหมือนเกรงอกเกรงใจเสียเหลือเกิน
“แกเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่อีกไหม ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ” ประโยคคำถามของวินิทราทำให้กายสิทธิ์อยากตอบออกไปว่าเขาไม่เคยเห็นเธอเป็นเพื่อนมานานแล้ว
“ฉันเห็นแกเป็นเพื่อนไง เลยไม่อยากรบกวน เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ”
“ก็เรื่องอะไรล่ะ ทำไมแกไม่บอกฉัน” เธอตามไปดึงไหล่ของเขามาหา ก่อนจะเอ่ยถามอย่างจริงจัง