2
อุ้มรักเมียซาตาน
บทที่ 2
อดีตคนเคยรัก
พันไมล์เป็นทายาทนักธุรกิจหมื่นล้านที่แสนร่ำรวย เขาต้องเลือกผู้หญิงที่ฐานะเท่าเทียมกับเขา มากกว่าเด็กสาวต่างจังหวัดที่มาเรียนในเมืองใหญ่เช่นเธอ เขาก็แค่อยากกลืนกินความหวานสาวสดของเธอ ก่อนที่จะเขี่ยทิ้งเหมือนหมาข้างถนน ไร้ค่าไร้ราคาเพราะความใจง่ายของตัวเองล้วน ๆ
ร่างกายอันเหนื่อยล้าของโมรินค่อยๆ เดินออกมาจากโชว์รูมรถหรูของอดีตคนรักที่หักหลังเธออย่างเลือดเย็น
เขาหมดรักเธอยังเจ็บน้อยกว่าเขาแอบคบกับเพื่อนของเธอลับหลัง และมีแพลนจะแต่งงานกัน ในวันที่เธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา
โมรินโบกแท็กซี่แล้วรีบปาดน้ำตาทิ้ง เธอไม่ควรเสียน้ำตาให้กับผู้ชายใจร้ายอย่างเขาอีก
หญิงสาวพิงศีรษะไปกับเบาะรถ ทอดสายตาออกไปมองด้านนอกด้วยจิตใจเหม่อลอย อดที่จะหวนคิดไปถึงเรื่องในอดีตเสียไม่ได้
“จะไปไหนครับคุณผู้หญิง” คนขับรถแท็กซี่เอ่ยถาม ทำให้ภวังค์ความคิดของเธอจบลง วันนี้เธอไม่ได้ขับรถมาเอง เพราะรถเสียต้องเข้าอู่ซ่อม และอีกหลายวันกว่าอีแก่ของเธอจะใช้งานได้ ที่เรียกว่าอีแก่ก็เพราะว่ามันเป็นรถมือสองที่เกเรบ่อยๆ ทำให้เธอต้องเสียเงินเสียทองอยู่ไม่หยุดหย่อน ถ้ามีเงินมากพอ เธอก็อยากที่จะซื้อรถคันใหม่ไว้ใช้จะได้ไม่ต้องคอยซ่อมบ่อยๆ เช่นนี้ เข็ดหลาบแล้วกับรถมือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว
“โรงเรียนอนุบาลรัศมีจันทราค่ะ” คำตอบของเธอทำให้คนขับแท็กซี่รับคำ รีบมุ่งหน้าไปยังเส้นทางนั้นในทันที ก่อนที่ความนึกคิดของโมรินจะดำดิ่งเข้าไปในอดีตอันแสนเจ็บปวดอีกครั้ง
“พี่รักโมนะครับ” ประโยคแสนหวานของแฟนหนุ่มนามว่าพันไมล์ทำให้โมริน นักศึกษาสาวปีสามของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งอมยิ้มออกมาแทบจะทันที
“พี่พันนี่ปากหวานจริงๆ เลยนะคะ”
“ปากหวานแล้วอยากชิมไหมครับ” พันไมล์ยื่นใบหน้าเข้าไปหาใบหน้าสวยใสของแฟนสาว แต่เธอรีบเบี่ยงหลบด้วยท่าทีหวงเนื้อหวงตัว
"พี่พัน ไม่เอาค่ะ” เธออยู่ที่แกลอรี่วาดภาพของเขา ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์
พันไมล์เป็นทายาทเจ้าของธุรกิจหมื่นล้าน เขาร่ำรวยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเธอ ซึ่งเป็นแค่เด็กสาวบ้านนอกที่เข้ามาเรียนในเมืองใหญ่เท่านั้น
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะสนใจเด็กสาวกะโปโลแบบเธอด้วย
เธอกับเขาเจอกันด้วยความบังเอิญ โดยการแนะนำให้รู้จักผ่านวารี เพื่อนรักของเธอ หลังจากวันนั้น เขาก็มีท่าทีสนใจเธอ แล้วความสัมพันธ์ของเขากับเธอก็เริ่มก่อตัวขึ้น แบบค่อยเป็นค่อยไป ต่างคนต่างมีใจให้กัน
“พี่รักโมจริงๆ นะครับ พี่จะรอจนกว่าจะถึงวันที่โมพร้อมจะเป็นของพี่ด้วยความเต็มใจ” เขากุมมือของเธอเอาไว้ ก่อนจะจุมพิตหลังมือน้อยของเธอเบาๆ
“โมก็รักพี่พันค่ะ โมอยากเก็บสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดเอาไว้ให้ผู้ชายที่โมรัก คนคนนั้นก็คือพี่พัน พี่พันรอได้ใช่ไหมคะ” มารดาสอนให้รักนวลสงวนตัว เธอจึงไม่เคยคิดจะทำตัวไม่ดี แม้บิดามารดาจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่คำสอนนี้เธอก็ยังยึดมั่นเอาไว้ในใจเสมอ
“พี่รอได้ครับ ไม่เคยคิดที่หักหาญน้ำใจหรือทำให้โมต้องเสียใจเลยครับ” เขาดึงเธอมากอดแนบอก จุมพิตหน้าผากนูนเกลี้ยงของเธอเอาไว้อย่างแสนรัก
พันไมล์มาส่งแฟนสาวกลับบ้านพักของหล่อน เธออาศัยอยู่กับน้าสาวของเธอ เขามาบ้านของเธอหลายครั้งแต่ไม่เคยได้เจอน้าสาวของเธอเลย อาจเพราะสวนทางกันเสียทุกครั้ง
พันไมล์กลับมาถึงบ้านก็ได้เจอกับมารดาที่กำลังนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่ในห้องนั่งเล่น ความที่เป็นคนรักมารดามาก จึงรีบเข้าไปถามไถ่ในทันทีว่าท่านเป็นอะไร
“คุณแม่เป็นอะไรครับ”
“พ่อ... พ่อของลูกเขานอกใจแม่ ฮือ ๆ” เสียงร้องห่มร้องไห้ของมารดาทำไมพันไมล์ทุกข์ใจเป็นอันมาก
“คุณพ่อน่ะเหรอครับนอกใจคุณแม่” พันไมล์เอ่ยถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ เพราะวันๆ ก็เห็นบิดาเอาแต่ทำงานทำการ ท่านเป็นคนขยันและเฉลียวฉลาด จึงสร้างฐานะได้เป็นปึกแผ่น
“ใช่จ้ะ แม่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าพ่อของลูกจะทำแบบนี้กับแม่ ตอนแรกแม่ก็ไม่เชื่อแต่พอได้เห็นกับตา แม่ถึงกับล้มทั้งยืน” คนพูดร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด พันไมล์เองก็ไม่เคยเห็นมารดาร้องไห้เสียใจหนักขนาดนี้มาก่อน
คนที่เอาแต่นั่งร้องไห้ ปรับทุกข์กับลูกชายด้วยสีหน้าหมองเศร้า เธอมีฐานะชาติกำเนิดที่ดีก็จริง แต่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีไม่เคยให้ทำงานทำการอะไร เรียนจบก็ถูกจับคลุมถุงชนแต่งงานกับพงศ์ ผู้ชายที่มีฐานะทัดเทียมกัน เธอจึงเป็นแค่แม่บ้าน คอยดูแลบ้าน ดูแลสามีและลูก ถึงมีเงินใช้ไม่ขาดมือแต่ก็เป็นเงินจากสามีแทบทั้งสิ้น ท่านไม่มีปัญญาหาเงินเข้าบ้านเลย ดังนั้นสามีจึงเป็นใหญ่ เขาพูดอะไรก็ต้องทำตาม
ดูเหมือนชีวิตของเธอจะเป็นที่อิจฉา เธอเองก็คิดเช่นนั้นมาตลอด จนได้รู้ว่าสามีนอกใจ คนที่ทำงานอะไรไม่เป็นเลย ธุรกิจของครอบครัวที่ต้องยกให้สามีดูแลหลังจากบิดามารดาเสียชีวิต ก็เริ่มรู้สึกสั่นคลอน กลัวสามีทิ้ง กลัวคนครหานินทาว่าตนเองทำหน้าที่บกพร่อง สามีถึงมีได้นอกใจไปมีเมียน้อย
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอครับ” พันไมล์เอ่ยถามอย่างใจเย็น เขาเองก็อยากรู้ว่าหล่อนเป็นใคร ถึงกล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้
“เลขาของคุณพ่อไงลูก ที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ ชื่อดวงรัตน์อะไรนั่น”
“เลขาของคุณพ่อเหรอครับ” พันไมล์เลิกคิ้วขึ้นถาม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจจะโดนหลอกว่าไม่มีเมีย หรือเตรียมหย่ากับเมีย หรือหย่ากันไปแล้ว เป็นมุขที่ผู้ชายใช้หลอกผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แต่นี่รู้อยู่เต็มอกว่าบิดามีภรรยาอยู่แล้ว แต่ยังจะเป็นชู้กันอีก ช่างเป็นผู้หญิงที่เลวจริงๆ
ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไร้ยางอายสิ้นดี!!!
“คุณแม่ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมครับ” พันไมล์ถามย้ำ เพราะการจะกล่าวหาใครสักคนต้องมีพยานและหลักฐาน จับให้ได้คาหนังคาเขา ยิ่งเรื่องคบชู้ยิ่งเป็นเรื่องอื้อฉาวเสียชื่อเสียง จะพูดลอย ๆ หวาดระแวงไปเองไม่ได้
“ใช่ แม่ไม่ได้คิดไปเอง แต่แม่เห็นกับตาว่าพ่อของลูกพาผู้หญิงคนนั้นเข้าโรงแรมนับครั้งไม่ถ้วน มีคนมาบอกแม่ แม่เลยรู้ ตอนแรกแม่ก็ไม่เชื่อ แต่ตอนนี้แม่เชื่อสนิทใจ”
“ใครบอกคุณแม่เหรอครับ”
“ก็น้าวารุณีไง แม่ของหนูวารี”
“คุณแม่เห็นกับตาแล้วใช่ไหมครับ”
“ใช่จ้ะ แม่เห็นกับตาว่าคุณพ่อทำแบบนั้นจริงๆ เดี๋ยวนี้คุณพ่อทะเลาะกับแม่บ่อยๆ ตอนแรกนึกว่าเครียดเรื่องงาน แต่ไม่คิดเลยว่าเพราะมีคนอื่น” พิมพ์ประภาพูดไปร้องไห้ไป
“ไม่ช้าไม่นานพ่อของลูกคงเอานังเมียน้อยนั่นเข้าบ้าน” ประโยคของมารดาทำให้พันไมล์ขบกรามเข้าหากันจนแน่น
“ผมจะไม่ยอมให้คุณพ่อทำแบบนั้นแน่นอนครับคุณแม่”
“เราจะไปทำอะไรได้ พ่อของเราเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน แม่เป็นเพียงแม่บ้านธรรมดาที่ไม่ได้ช่วยคุณพ่อเขาทำงานหาเงินเลย ต้องอาศัยพึ่งใบบัวจากเขา แม่ไม่สาวไม่สวยเหมือนนังเอ๊าะ ๆ นั่น แม่ไม่มีอะไรสู้นังนั่นได้เลย”
คนพูดปาดน้ำตาทิ้ง สะอึกสะอื้นปริ่มใจจะขาด ยิ่งได้ยินเพื่อน ๆ ในกลุ่มคุยกันว่าเวลาสามีไปมีเมียน้อยก็หลงเมียน้อยจนโงหัวไม่ขึ้น มีอะไรก็ประเคนให้เมียน้อยจนหมด แถมดีไม่ดีเมียน้อยปั่นหัวเลิกกับเมียหลวงก็มี เธอก็รู้สึกว้าวุ่นใจ
“ใจเย็นๆ ก่อนครับคุณแม่”
คุณพิมพ์ประภายังนึกถึงประโยคของเพื่อนๆ ในกลุ่ม ที่พูดกันว่าหากเมียหลวงคนไหนเก่งกาจหน่อยก็อาจจะเอาผัวอยู่ ตามไปตบเมียน้อยจนกระเด็นหรือจัดการเมียน้อยออกไปจากชีวิตได้ แต่ท่านคงทำแบบนั้นไม่ได้ จะให้ไปสู้รบตบมือกับใครคงไม่ไหว
“ผมจะจัดการทุกอย่างเองครับคุณแม่”
“พันจะทำยังไงลูก”
“ถ้าคุณพ่อมีเมียน้อยจริงๆ ก็ต้องจัดการครับ จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ คุณแม่เป็นผู้หญิงที่ดี ไม่เคยทำอะไรผิด ไม่ควรต้องมาเจอเรื่องแบบนี้” พันไมล์กุมมือของมารดาเอาไว้ ปลอบประโลมท่านด้วยการบีบมือของท่านเบาๆ