บทที่6 เงินซื้อไม่ได้
@คลับเดอะเบสท์
หลังจากแยกกับพีชเจ๊สวยก็ขับรถตรงมาหามาเฟียหนุ่มที่คลับเดอะเบสท์ทันทีเพื่อบอกเรื่องของหญิงสาวให้เขารับรู้ถึงความปากเก่งอวดดีของเจ้าหล่อน
"ไปบอกคุณหวงเฟยหงให้หน่อยว่าฉันมาขอพบ" เจ๊สวยจีบปากจีบคอบอกกับการด์ที่ยืนเฝ้าหน้าห้องทำงานมาเฟียหนุ่มด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้ง สิ้นคำพูดของเธอการด์ก็เดินหายเข้าไปในห้องทำงานของมาเฟียหนุ่มก่อนเดินออกมาบอกกับเจ๊สวย "เข้าไปได้"
แกร็ก!
เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้องเจ๊สวยก็เปิดประตูเข้าไปโดยไม่รอช้าเธอเดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานมาเฟียหนุ่มแล้วกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม "สวัสดีค่ะคุณหวงเฟยหง"
"มีอะไรก็พูดมา" มาเฟียหนุ่มพูดขึ้นทั้งที่สายตายังคงจดจ่ออยู่บนแฟ้มเอกสาร
"คือว่าน้องพีชเขาไม่ยอมรับงานนี้ค่ะ"
"งานแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จ ไม่ได้เรื่อง" ดวงตาคมกริบตวัดขึ้นมองหน้าเจ๊สวยด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินคำพูดที่ขัดหูขัดใจจากปากเธอ
เขาคิดว่าเงินสามารถซื้อและจัดการทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ แต่หญิงสาวกลับทำให้เขารู้ว่าไม่เสมอไปเพราะเธอคือคนหนึ่งที่ใช้เงินซื้อไม่ได้
"ฉันพยายามโน้มน้าวใจแล้วค่ะแต่นังเด็กพีชมันอวดดี หยิ่งยโสแถมยังว่าคุณหวงเฟยหงอีกนะคะ"
"ว่าอะไร"
"ฉันอัดเสียงตอนที่เด็กพีชว่าคุณหวงเฟยหงมาด้วย ลองฟังที่นังเด็กนั่นว่าคุณดูนะคะ" เจ๊สวยแอบยกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดคลิปเสียงให้มาเฟียหนุ่มฟัง
ปัง!
มาเฟียหนุ่มใช้ลิ้นดันกระฟุ้งแก้มพร้อมตบลงบนโต๊ะเต็มแรงจนเสียงดังสนั่นเมื่อฟังคลิปจบ เขารู้สึกโกรธเป็นอย่างมากไม่เคยมีใครกล้าว่าเขาแบบนี้มาก่อน ผู้หญิงทุกคนต่างวิ่งเข้าหาและยอมศิโรราบให้เขาทั้งนั้นแต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่ใช่แถมเธอยังปากดีอีกต่างหาก
"ออกไป!" เสียงทุ้มตะคอกใส่เจ๊สวยดังลั่นจนเธอสะดุ้งเฮือกแล้วรีบลุกลี้ลุกลนวิ่งออกไปด้วยความเร็ว
"อาเหว่ยไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้มาสิ" มาเฟียหนุ่มออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิทพร้อมยื่นรูปในโทรศัพท์ให้ดูหลังจากเจ๊สวยออกไปจากห้อง
"ครับนาย" อาเหว่ยน้อมรับคำสั่งแล้วเดินออกไปทำตามคำสั่งเจ้านายทันที
"แล้วเธอจะได้รู้ว่าผลของการปากดีมันเป็นยังไง" มาเฟียหนุ่มขบกามแน่นจนนูนเป็นสันเมื่อนึกถึงคำพูดของหญิงสาว มือหนาเอื้อมไปหยิบบุหรี่ราคาแพงขึ้นมาจุดไฟสูบสารนิโคตินเข้าปอดเพื่อระบายอารมณ์ขุ่นเคืองภายในใจ
ทางด้านของพีชหลังจากแยกกับเจ๊สวยเธอกับเพื่อนสาวก็กลับคอนโดทันที เธอเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาในห้องอย่างเซ็งๆ เมื่อนึกถึงเรื่องเจ๊สวยเธอก็อุตส่าห์เป็นห่วงแต่กลับโดนเจ๊สวยหลอกเสียงั้นคิดแล้วก็เจ็บใจไม่หาย
มือเรียวล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาบล็อกทุกช่องทางการติดของเจ๊สวย "เสียเวลาชะมัด...ขออย่าได้พบได้เจอกันเลยเจ๊ซวย"
"คุณหวงเฟยหงนี่ใครกันนะ" จินหันไปถามพีชที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่
"แกไม่รู้แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะ" พีชตอบเพื่อนสาวกลับไปอย่างไม่ใส่ใจมากนัก
"แต่เขาเคยเห็นแกด้วยนะเว้ยยัยพีช"
"นั้นสิเคยเห็นตอนไหนกันนะ ฉันก็มาอยู่จีนได้สี่ห้าวันเองนะยัยจิน" เสียงหวานเอ่ยอย่างใช้ความคิดเธอก็สงสัยไม่ต่างจากเพื่อนสาวนอกจากมหาวิทยาลัยกับคอนโดแล้วเธอก็ไม่ค่อยออกไปไหนเลยจะเคยเห็นได้ยังไงกัน หรืออาจจะเป็นตอนที่เธอไปซื้อของที่ห้างหรือไปทานข้าวยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
"วุ้ย! ยิ่งคิดยิ่งมึน" จินสะบัดศีรษะไปมาระรัวไล่ความสงสัยออกไป
"ฉันปฏิเสธไปแล้วคงไม่มีอะไรแล้วแหละ เลิกคิดเรื่องนี้แล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า" พีชพูดตัดบทแล้วชวนเพื่อนสาวออกไปหาอะไรกินเพราะเริ่มหิวแล้ว
"ไปดิ" จินพยักหน้ารับน้อยๆ เธอก็รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน หลังจากนั้นทั้งสองก็พากันออกไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารใกล้ ๆ คอนโดทันที
"ยัยจินฉันรู้สึกเหมือนมีใครตามเรามาเลยอะ" พีชกระซิบบอกเพื่อนสาวเบาๆ ขณะกำลังเดินกลับคอนโดเมื่อทานอาหารเสร็จเธอรู้สึกเหมือนมีคนตามตั้งแต่ที่ร้านอาหารแล้ว
สิ้นเสียงพูดเพื่อนสาวจินก็หยุดเดินแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเหมือนที่เพื่อนสาวบอกสักนิด "ไม่เห็นมีเลย"
"ฉันรู้สึกจริง ๆ นะยัยจิน" พีชยังคงยืนยันหนักแน่นพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณอย่างหวาดระแวง เธอรู้สึกจริงๆ ว่ามีคนแอบตามมา
"แกอะคิดมากยัยพีชไป ๆ รีบเดินขึ้นห้อง" จินได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับความมโนของเพื่อนสาว ก่อนเอื้อมไปจับมือเพื่อนสาวแล้วดึงให้เดินต่อ
พีชลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ พยายามคิดว่าตัวเองคงคิดมากไปเองเหมือนที่เพื่อนสาวพูดจริง ๆ จึงเลิกสนใจสิ่งรอบข้างแล้วรีบส่าวเท้าเดินขึ้นห้องด้วยความเร็ว